“เพื่อไทย” ปรับแผนแช่แข็งแก้รัฐธรรมนูญ พร้อมดองเค็มรื้อกฎหมายลูกเลี่ยงครหาเมินแก้ปากท้อง-เยียวยาน้ำท่วม มุ่งแต่ผลประโยชน์เพื่อตัวเอง “ภูมิธรรม” อ้างเรื่องประชาชนมาก่อน ขอโฟกัสแก้น้ำท่วมและกู้เศรษฐกิจดีกว่า “อดิศร” แจง พท.ไม่ฝืนกระแสและให้เกียรติฟังเสียงพรรคร่วมฯ “อนุทิน” ปัดไม่ใช่ต้นคิดแก้ รธน.รายมาตรา พลิ้วไม่มีใครถอยหรือกลับลำ แค่ยังไม่ถึงเวลา การันตีพรรคร่วมฯไร้ความขัดแย้ง ไม่มีการแตกคอ “สมชัย” ฟันธง 4 เหตุไอ้เสือถอยสังคมต้าน พรรคร่วมฯชิงเหลี่ยมโชว์หล่อ สว.สายสีน้ำเงินตั้งด่านสกัดและกรอบเวลาไม่พอ “นันทนา” คาดเกมยื้อให้แก้ รธน.ไม่ทันสภาฯชุดนี้ “นายกฯอิ๊งค์” โอ่คิกออฟโอนเงินหมื่น ปล่อยพายุหมุนปลุกชีพเศรษฐกิจครั้งใหญ่ “จุลพันธ์” เตือนคนพิการ 9 พันคน รีบอัปเดตข้อมูลด่วนรักษาสิทธิ์รับเงิน
จากกรณีพรรคเพื่อไทย (พท.) ล้มเลิกผลักดันร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญรายมาตรา เพื่อแก้ไขประเด็นมาตรฐานจริยธรรมนักการเมือง ระบุไม่ใช่พรรค พท.ริเริ่มแต่แรก แต่เป็นพรรคการเมืองใหญ่ร่วมรัฐบาล จนถูกมองเป็นเกมหักเหลี่ยมชิงคะแนนนิยมกันเอง ขณะที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ปฏิเสธว่าเรื่องนี้ไม่ใช่พรรคการเมืองกลับลำ เพียงแต่ยังไม่ถึงเวลา
“อ้วน” ขอโฟกัสแก้น้ำท่วม-กู้ ศก.ดีกว่า
เมื่อเวลา 09.50 น. วันที่ 25 ก.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีรายงานข่าวพรรค พท.ถอยการแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา ประเด็นกรอบจริยธรรมว่า จบแล้ว ไม่มีอะไร ไปโฟกัสเรื่องนํ้าท่วมและการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เริ่มกดปุ่มแจกเงิน 1 หมื่นบาทให้ผู้พิการ กลุ่มเปราะบางรวม 145,552.40 ล้านบาทดีกว่า นี่คือสิ่งที่ประชาชนตั้งตารอ และเตรียมเฟส 2 การแก้ไขรัฐธรรมนูญและการทำประชามติเดินหน้าในสภาฯไปอยู่แล้ว เดี๋ยวค่อยคุยกัน ต้องให้เกียรติพรรคร่วมรัฐบาล ตอนนี้ยังไม่มีกำหนด ทุกคนไปทำงานอื่นก่อน เมื่อถามว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตราเรื่องจริยธรรมยังไม่ปิดประตูตายใช่หรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ได้คิดอะไร จะปิดหรือไม่ เดี๋ยวค่อยว่ากัน เอาเรื่องของประชาชนก่อน อย่าไปสนใจเรื่องอื่น ที่ไม่ใช่ของประชาชน
...
“อดิศร” แจง พท.เล่นบทไอ้เสือถอย
นายอดิศร เพียงเกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรค พท.กล่าวว่า ที่ประชุมพรรคได้พูดคุยโดยฟังเสียงประชาชนและพรรคร่วมรัฐบาลว่าจะไม่แตะต้องหมวดจริยธรรม เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน การแก้ไขรัฐธรรมนูญปมจริยธรรมน่าจะยังไม่ใช่เรื่องเร่งด่วนขณะนี้ยังมีปัญหาน้ำท่วมและปากท้องประชาชนมากกว่า พรรค พท.จึงตัดสินใจถอยเรื่องนี้ แม้รัฐธรรมนูญนี้เป็นมรดกบาปรัฐประหารและต้องแก้ไขทั้งฉบับ เป้าหมายคือตั้ง ส.ส.ร.แก้ไขทั้งฉบับ ขอย้ำว่ารัฐบาลพรรค พท.รับฟังพรรคแกนนำที่เป็นผู้เสนอ แต่เมื่อความเห็นสาธารณะ คิดว่าเป็นเรื่องผลประโยชน์ไม่ได้เป็นประโยชน์ต่อประชาชน พรรค พท.รับฟัง พรรคร่วมรัฐบาลคงคิดเห็นด้วยเหมือนกัน แต่ได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากพรรคภูมิใจไทย (ภท.) และพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ต้องให้เกียรติพรรคร่วม ยืนยันไม่ได้เสียหน้า การรับฟังความเห็นทุกพรรค ขอไม่พูดว่าใครริเริ่ม แต่เรารับฟังความคิดเห็นประชาชน
ปรับแผนแช่แข็งแก้ ก.ม.ลูกด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรค พท.ว่า จากเดิมที่สัปดาห์นี้พรรค พท.แกนนำรัฐบาลจะยื่นร่างแก้ไข พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองประเด็นต่างๆ อาทิ แก้ไขคุณสมบัติสมาชิกพรรคการเมือง การยุบพรรค การครอบงำพรรค รวมถึง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ป.ป.ช.) แก้ไขเปิดโอกาสให้ผู้เสียหายฟ้องศาลฎีกาเอง แต่หลังมีแรงต้านจากสังคมและพรรคร่วมรัฐบาลเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตราเรื่องจริยธรรมจนพรรค พท.ต้องหยุดผลักดันเรื่องดังกล่าวไป ทำให้พรรค พท.ปรับเปลี่ยนแผนการแก้ไขกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญด้วย จะไม่เดินหน้าต่อ จะรอการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ โดยสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) คราวเดียว เมื่อมีรัฐธรรมนูญใหญ่ กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญต้องร่างใหม่ตามไปด้วย หลังจากนี้จะรอให้กฎหมายประชามติที่มีการแก้ไข ประกาศใช้แล้วจะเร่งจัดทำประชามติ เพื่อเดินหน้าทำรัฐธรรมนูญใหม่
“อนุทิน” ปัดไม่ใช่ต้นคิดแก้รายมาตรา
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรค ภท. กล่าวว่า ผู้ริเริ่มแก้ไขประเด็นจริยธรรมไม่ใช่ตน และเราไม่เคยกลับลำ การทำงานต้องหารือกัน เมื่อวันที่ 24 ก.ย.มีการหารือกัน และวันนี้นายกฯตัดสินใจแล้วว่าเรื่องดังกล่าวไม่ใช่เรื่องสำคัญที่สุด แต่มุ่งแก้ปัญหาน้ำท่วม และกระตุ้นเศรษฐกิจแจกเงินหมื่น และการที่รัฐบาลถอยไม่ใช่เพราะกระแสสังคมตีกลับ แต่รัฐบาลเพิ่งเข้ามาทำงานเพียง 2 สัปดาห์ ทุกวันนี้มุ่งหน้าแก้ปัญหาน้ำท่วมเป็นหลักและแจกเงินหมื่น ตนก็ต้องเร่งเยียวยาอุทกภัยรายครัวเรือน
พลิ้วไม่มีใครถอย แค่ยังไม่ถึงเวลา
ต่อมานายอนุทินให้สัมภาษณ์อีกครั้งกรณีถูกกล่าวหาว่าพรรค ภท.กลับลำการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ปมมาตรฐานจริยธรรมว่า ไม่มีข้อเท็จจริงอะไร ไม่มีการกลับลำ เรามีเจตนารมณ์ว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญดูตามกฎหมายและบทบัญญัติ ต้องเน้นแก้เพื่อประเทศชาติและประชาชน ยังอยู่ในกฎเกณฑ์นั้น ได้หารือกับพรรคร่วมรัฐบาล นายกฯได้มาหารือด้วยในฐานะหัวหน้าพรรคแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล นายกฯย้ำว่า ตอนนี้ต้องไปดูแลผู้ประสบภัยก่อน ส่วนแก้ไขรัฐธรรมนูญค่อยมาหารือกันใหม่ยังมีเวลา เมื่อถามพรรค พท.ถอยเพราะพรรค ภท.ไม่เห็นด้วย นายอนุทินตอบว่า ไม่มีใครถอย ไม่มีใครรุก แต่ยังไม่ถึงเวลา รัฐบาลเพิ่งมาทำงาน 2 สัปดาห์ การจัดความสำคัญแรกไม่ใช่แก้รัฐธรรมนูญ ทุกคนเห็นพ้องต้องกันหมด ยังมั่นใจและเชื่อมั่นว่าความเห็น เจตนารมณ์ของพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคยังมีเป้าหมายเดียวกันอยู่
การันตีพรรคร่วมฯไม่มีวันแตกคอ
เมื่อถามว่า อยากฝากอะไรถึงฝ่ายการเมืองที่สาละวนว่าพรรคภูมิใจไทยมองแต่เรื่องการแก้ไข รัฐธรรมนูญ นายอนุทินตอบว่า ไม่ต้องสาละวน ยังไงก็ไม่แตกกัน ร่วมรัฐบาลกันมากว่า 1 ปี สนับสนุนเกื้อกูลกันมาโดยตลอด นโยบายของพรรคเพื่อไทย พรรคร่วมรัฐบาลก็สนับสนุนทุกพรรค ส่วนนโยบายของพรรคร่วมรัฐบาลก็สนับสนุนกันและกันเป็นอย่างดี วันประชุม ครม.เมื่อวันที่ 24 ก.ย. ก็ผลักดันนโยบาย ไม่มีเรื่องความขัดแย้ง
“ท็อป” บอกน้ำท่วมคลี่คลายค่อยคุย
ด้านนายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชพน.) กล่าวว่า พรรค ชพน.ต้องยึดตามแนวทางที่นายกฯให้สัมภาษณ์เป็นสิ่งที่ถูกต้องและพรรคร่วมฯเห็นตรงกันว่าความเดือดร้อนของประชาชนเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด เวลานี้มีน้ำท่วมหลายพื้นที่ต้องให้ความสำคัญช่วยเหลือประชาชน มีเหตุอุทกภัยภาคเหนือและภาคใต้ คงไม่มีกะจิตกะใจมาคุยเรื่องรัฐธรรมนูญ การแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา ประเด็นจริยธรรมต้องมาคุยกันก่อนเพราะพรรคร่วมฯยังไม่ทราบรายละเอียดจะรอให้แก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับคราวเดียวเลยหรือไม่ เป็นเป้าหมายเราตั้งแต่แรก เมื่อสถานการณ์คลี่คลายคงได้มาพูดคุยกัน ตอนนี้ยังคุยอะไรกันไม่ได้ ต่างคนต่างลงพื้นที่
ปชน.ฝันต่อให้มี ส.ส.ร.ยกร่าง รธน.ใหม่
ที่รัฐสภา นายณัฐวุฒิ บัวประทุม สส.บัญชีรายชื่อ พรรค ปชน. ให้สัมภาษณ์ถึงการยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา เรื่องจริยธรรมนักการเมืองว่า ต้องถามนายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคปชน. ผู้เสนอร่าง ยังรอประธานรัฐสภาว่าสัปดาห์นี้จะนัดหารือกำหนดวันพิจารณาเรื่องรัฐธรรมนูญอีกหรือไม่ พรรคคาดหวังมากที่สุดคือการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ควรเกิดขึ้นจากการมีส่วนร่วมของประชาชนผ่าน ส.ส.ร.ที่มาจากการเลือกตั้ง ต้องยอมรับความล่าช้าจากกฎหมายประชามติ อาจทำให้กระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับไม่แล้วเสร็จภายใน 3-4 ปี ระหว่างเส้นทางคงต้องเสนอการแก้ไขรายมาตราไปด้วย เมื่อถามว่าพรรค พท.ถอนร่างไปแล้ว ร่างพรรค ปชน.จะผ่านไปได้หรือไม่ นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ต้องดูว่าสาระสำคัญมากกว่า พท.ถอนหรือไม่ถอน เมื่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับยังไม่เกิดขึ้น เราจะพิจารณาความจำเป็นแก้ไขรายมาตรา ยืนยันไม่ได้เป็นผลประโยชน์ของพรรค ปชน. แต่เป็นไปเพื่อประโยชน์ของประชาชนจริงๆ
หักดาบจริยธรรมตัดซื่อสัตย์เป็นที่ประจักษ์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตราของพรรค ปชน. ที่เว็บไซต์รัฐสภาเผยแพร่รายละเอียด เมื่อวันที่ 24 ก.ย. มีเนื้อหาสำคัญคือการแก้ไขเพิ่มเติม 4 ประเด็น ได้แก่ 1.คุณสมบัติผู้ดำรงตำแหน่งต่างๆ 2.บทบัญญัติเกี่ยวกับมาตรฐานจริยธรรม 3.การเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง และการเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 4.กระบวนการร้องเรียนกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) โดยมาตราที่เสนอแก้ไข 10 มาตราที่น่าสนใจคือ 1.มาตรา 160 คุณสมบัติรัฐมนตรี เสนอตัด (4) มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ (5) ไม่มีพฤติกรรมฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรงออกไป 2.มาตรา 168 การให้ ครม.ที่พ้นตำแหน่งอยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไป ภายใต้เงื่อนไขต่างๆ ตัดถ้อยคำที่โยงกับมาตรา 160 (4) และ (5) 3.มาตรา186 การขัดกันแห่งผลประโยชน์ที่นำเงื่อนไขกำหนดให้สส. สว.ปฏิบัติหน้าที่ มาบังคับใช้กับรัฐมนตรี ให้ตัดถ้อยคำวรรคท้ายที่ระบุถึงมาตรฐานทางจริยธรรม 4.มาตรา 201 คุณสมบัติตุลาการศาลรัฐธรรมนูญตัด (4) มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ออกไป 5.มาตรา 202 ลักษณะต้องห้ามตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตัด (10) มีพฤติการณ์ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง
ริบดาบ ป.ป.ช.แบนตลอดชีพเป็นไม่เกิน 5 ปี
6.มาตรา 234 หน้าที่ ป.ป.ช.ให้ตัดอำนาจไต่สวนของ ป.ป.ช. กรณีฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรงออก 7.มาตรา 235 การตรวจสอบผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองร่ำรวยผิดปกติ ทุจริตต่อหน้าที่ ให้ตัดถ้อยคำฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรงออกไป แก้บท ลงโทษเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งจาก 10 ปีเหลือ 5 ปี ตัดการเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งออก และแก้บทลงโทษตัดสิทธิลงเลือกตั้ง สส. สว. สมาชิกท้องถิ่น ให้ไม่มีสิทธิดำรงตำแหน่งทางการเมืองใดๆ เป็นไม่เกิน 5 ปี 10.มาตรา 236 การตรวจสอบ ป.ป.ช.ที่ร่ำรวยผิดปกติ ทุจริตต่อหน้าที่ ให้ สส.สว. หรือประชาชน 2 หมื่นคนเข้าชื่อ ยื่นต่อประธานรัฐสภา เพื่อใช้ดุลพินิจส่งไปศาลฎีกา แก้เป็นเมื่อประธานรัฐสภารับเรื่องแล้ว ต้องเสนอเรื่องไปยังประธานศาลฎีกาโดยอัตโนมัติ
“ธนาธร”ลุยดันลดอำนาจยุบพรรค
นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ให้สัมภาษณ์ถึงการยื่นแก้รัฐธรรมนูญรายมาตรา กรณีฝั่งรัฐบาลถอยไปแล้วว่า ไม่ได้ติดตาม ต้องไปถามพรรค ปชน. แต่ยืนยันหลักการว่าต้องลดขอบเขตอำนาจศาลรัฐธรรมนูญเรื่องยุบพรรค ลดอำนาจ ป.ป.ช.ตัดสินจริยธรรม องค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ ที่ตอนนี้เหลือเพียงแค่พรรค ปชน.พรรคเดียวแล้วที่ยื่นแก้รัฐธรรมนูญเรื่องจริยธรรม ยังไม่ได้ดูร่างของพรรค ปชน. แต่จะติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดอีกครั้ง การแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับตอนนี้ยังติดขัด ยังมองไม่เห็นอนาคต โอกาสจะผ่านสภาฯชุดนี้ภายในปี 2570 ยาก อาจต้องมาโฟกัสที่การแก้รายประเด็น พรรค ปชน.ไม่ได้เสนอเรื่องนี้แค่เรื่องเดียว มาตราใดที่เป็นปัญหา ยื่นแก้เป็นรายมาตราหลายฉบับด้วยกัน คงไม่ได้พุ่งเป้าเฉพาะเรื่องจริยธรรม
กมธ.ประชามติหนุนข้างมาก 2 ชั้น
น.ส.นันทนา นันทวโรภาส สมาชิกวุฒิสภา (สว.) กล่าวถึงการประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติว่า การประชุม 4 ครั้งที่ผ่านมาพูดคุยถึงหลักการและเหตุผล การทำประชามติตามร่างที่ สส.ส่งมากรณีเสียงข้างมากชั้นเดียว แต่วันนี้กลับมติไปใช้เสียงข้างมาก 2 ชั้น ทั้งที่ที่ผ่านมา เห็นสอดคล้องทิศทางเดียวกัน แต่วันนี้กลับทบทวนมติเกือบเอกฉันท์ 17 ต่อ 1 หนึ่งเสียงคือตนอยากให้คงเสียงข้างมากชั้นเดียวไว้ ค่อนข้างผิดปกติ การทำประชามติควรให้ประชาชนเข้าถึงได้ง่าย มีโอกาสเป็นจริงได้มากที่สุด คือเสียงข้างมากธรรมดาเกินกึ่งของผู้ออกมาใช้สิทธิ์ เปลี่ยนหน้ามือเป็นหลังมือ การทำ พ.ร.บ.ประชามติ ถ้ามีเสียงค้านของ สว. อาจไม่ทันช่วงเวลาเลือกตั้งท้องถิ่นหรือ อบจ.เดือน ก.พ.ปี 68
เชื่อเกมยื้อแก้ รธน.ไม่ทันสภาชุดนี้
เมื่อถามว่าเป็นเกมทำให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับเกิดขึ้นไม่ทันสภาฯชุดนี้หรือไม่ น.ส.นันทนากล่าวว่า น่าจะเป็นอย่างนั้น เพราะทำให้กระบวนการยืดเยื้อออกไป หาก สว.ไม่เห็นชอบกับร่างของ สส.ต้องตั้งคณะ กมธ.ร่วมจะไม่ทันเลือกตั้ง อบจ. นอกจากยืดเวลาออกไป ความเป็นจริงการยกร่างรัฐธรรมนูญทั้งฉบับแทบมองไม่เห็น จากการถกเถียงของ สส.เรื่องเสียงข้างมาก 2 ชั้น เป็นการระดมคนจำนวนมากมา แต่หากมีจำนวนไม่ถึงครึ่งจะไม่สามารถทำประชามติได้ คงต้องตั้งคณะ กมธ.ร่วมถกเถียงหาข้อสรุปกันใหม่ว่าจะมีมติอย่างไรในการแก้ พ.ร.บ.ประชามติน่าจะมากกว่า 60 วัน ส่วนการยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เชื่อว่า สว.จะโหวตเป็นทิศทางของพรรคการเมืองที่ไม่อยากให้ยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ภายในสมัยสภาฯชุดนี้
“สมชัย” ชี้ 4 เหตุผล พท.ถอยแก้ รธน.
วันเดียวกัน นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โพสต์เฟซบุ๊ก กรณีพรรคเพื่อไทยถอยแก้รัฐธรรมนูญรายมาตราปมจริยธรรมว่า มี 4 เหตุผลพอเข้าใจได้ คือ 1.ประชาชนไม่เอาด้วย แค่โยนหินถามทาง โดนขว้างก้อนอิฐสวน แก้เพื่อตนเองไม่เข้าท่า 2.พรรคร่วมเอาหล่อ มองกระแสสังคมออกเดินต่อยาก จึงเอาหล่อทยอยแถลงจุดยืนไม่เอาด้วย ทั้งภูมิใจไทย รวมไทยสร้างชาติที่เสียงแข็งหรืออ้อมแอ้มแบบประชาธิปัตย์ 3.โอกาสผ่านวาระ 1 ยาก ต้องใช้เสียงเกินครึ่งที่ประชุมรัฐสภา ในจำนวนดังกล่าวต้องมี สว.เห็นชอบ 1 ใน 3 หรือ 67 คนขึ้นไป สว.สีน้ำเงินมีแนวโน้มไม่เอาด้วย 4.กรอบเวลาไม่เพียงพอ หากจะทำประชามติให้ทันต้นเดือน ก.พ.68 ที่ประชุมรัฐสภาต้องผ่าน 3 วาระให้ทันสมัยประชุมนี้ที่จะสิ้นสุดวันที่ 30 ต.ค.67 ตามกฎหมายประชามติต้องมีเวลาไม่น้อยกว่า 60 วันก่อนวันลงประชามติ หากจะจัดพร้อมการเลือกสมาชิก อบจ.ที่คาดจะมีขึ้นวันที่ 2 ก.พ.68 ประธานรัฐสภาต้องส่งเรื่องถึง ครม.ภายในวันที่ 4 ธ.ค.67 “เมื่อทำไปไม่หล่อ เวลาทำไม่ทัน เพื่อนชิงหล่อไปแล้วหลายพรรค เนื้อไม่ได้กิน เรื่องอะไรจะเอากระดูกมาแขวนคอ ถอยสิครับ ไอ้เสือถอย”
นายกฯคิกออฟโอนเงินหมื่น
อีกเรื่อง เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ตึกสันติไมตรี (หลังใน) ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในงานเปิดตัว (Kick Off) การโอนเงินโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2567 ผ่านผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการ นายกฯ กล่าวเปิดงานว่า ประเทศไทยประสบปัญหาทางเศรษฐกิจเรื้อรังมานานหลายปีแล้ว ประกอบปัญหาอุทกภัยในปีนี้ที่รุนแรงที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ ทำให้เศรษฐกิจฝืดเคือง คนที่รับผลกระทบมากที่สุดคือกลุ่มเปราะบางรายได้น้อย และผู้พิการ เรื่องเศรษฐกิจเป็นความท้าทาย ที่ผ่านมามีหลายนโยบายที่ออกไปแล้ว เช่น นโยบายพักหนี้เกษตรกร ฟรีวีซ่ากระตุ้นการท่องเที่ยว แต่ยังไม่มากพอที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งประเทศได้
โวพายุลูกแรกหมุน ศก.ครั้งใหญ่
น.ส.แพทองธารกล่าวว่า วันนี้ที่ประเทศไทยจะถูกกระตุ้นครั้งใหญ่ โดยเงินสดจะถึงมือคนไทย ระบบเศรษฐกิจจะถูกเติมเงินหมุนเวียนกว่า 145,552 ล้านบาท เป็นการสร้างพายุหมุนทางเศรษฐกิจลูกใหญ่ลูกแรก เงินก้อนนี้จะสามารถต่อลมหายใจให้ประชาชนที่กำลังเดือดร้อนอยู่ในขณะนี้ รอบนี้ถึงมือกลุ่มเปราะบางจำนวน 14.55 ล้านคน ทุกคนได้รับเงินสด 10,000 บาท ไม่มีเงื่อนไขใดๆสามารถใช้จ่ายได้ทันที และรัฐบาลเชื่อมั่นในศักยภาพประชาชนว่าจะใช้เงินนี้อย่างมีประโยชน์ บางครอบครัวที่ได้มากกว่า 1 คน นำเงินมารวมกันเพื่อต่อยอดธุรกิจ และยืนยันรัฐบาลยังคงเดินหน้าเรื่องโครงการดิจิทัลวอลเล็ตต่อ หวังอย่างยิ่งว่านโยบายนี้และอีกหลายๆนโยบาย จะฟื้นเศรษฐกิจให้กลับมาดีเหมือนเดิม ให้ประชาชนกลับมามีความสุขอีกครั้ง
ใบ้เลขเด็ดคนพิการได้เงิน 03.15 น.
จากนั้น น.ส.แพทองธารได้วิดีโอคอลพูดคุยกับประชาชนที่ได้รับโอนเงินจากจังหวัดต่างๆ ส่วนใหญ่บอกว่าได้รับเงินตั้งแต่ช่วงเวลา 02.00-03.00 น. โดยนายกฯได้พูดคุยสอบถามชายผู้พิการจาก จ.สมุทรสาคร รายหนึ่ง ที่ตอบนายกฯว่า เงินเข้าบัญชีเวลา 03.15 น. ทำให้นายกฯหันไปกล่าวผู้ที่มาร่วมงานว่า “ตีสามสิบห้า เลขเด็ดหรือเปล่า” ก่อนกล่าวต่อว่า ดีใจไหม รัฐบาลก็ดีใจ แล้วจะเอาเงินไปใช้ทำอะไรบ้าง ผู้พิการตอบกลับว่า จะเอาไปใช้ซื้อของจำเป็นของคนพิการ พวกแพมเพิร์ส ข้าวสารอาหารแห้ง นายกฯตอบกลับว่า ดีนะ 10,000 บาทซื้อได้เยอะเลย ขอให้มีความสุข สุขภาพแข็งแรง ส่วนอีกรายชาวบ้านจาก จ.อุตรดิตถ์ ที่ต่อวิดีโอคอลแต่สัญญาณไม่ค่อยชัด นายกฯเลยยกสัญลักษณ์นิ้วโป้งให้ พร้อมกล่าวว่า ถ้าดีใจให้ยกนิ้วโป้ง ชาวบ้านถึงยกนิ้วโป้งตอบกลับ ก่อนที่นายกฯจะส่งสัญลักษณ์มือไอเลิฟยู พร้อมกล่าวว่า ขอให้โชคดี
ย้ำผู้พิการ 9 พันให้รีบอัปข้อมูลรับเงิน
ขณะที่นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลังให้สัมภาษณ์ว่า ข้อมูลการโอนเงินวันแรกโอนแล้ว 3,167,565 คน อาจล่าช้าบ้างเพราะตรงกับวันจ่ายเงินเดือนข้าราชการ แต่ยืนยันระบบจะโอนเงินให้เสร็จสิ้น และวันต่อไปจะดำเนินการโอนไปตามหมายเลขท้ายบัตรประชาชนที่กำหนดไว้ ส่วนการตรวจสอบสิทธิ์เป็นไปตามช่องทางที่ได้เตรียมไว้ สำหรับกลุ่มผู้ถือบัตรผู้พิการที่มีสถานะต้องแก้ไข เช่น บัตรหมดอายุ บัตรผิดพลาด หรือคนที่ยังไม่ได้เชื่อมช่องทางการรับเงิน รวมทั้งหมดประมาณ 90,000 คน ให้รีบไปประสานกับกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ เพื่อแก้ไขสถานะเพื่อรับเงินที่จะโอนซ้ำ 3 ครั้ง ในวันที่ 22 ต.ค. 22 พ.ย. และ 22 ธ.ค. หากยังไม่ดำเนินการถือว่าไม่ขอรับสิทธิ์
ยัน ธ.ก.ส.โอนครบ 1.6 ล้านรายไม่หักหนี้
เมื่อถามว่า มีเจ้าหนี้นอกระบบได้ไปประกบผู้รับเงินที่หน้าตู้เอทีเอ็มให้กดเงินมาใช้หนี้ ที่ไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์กระตุ้นเศรษฐกิจ นายจุลพันธ์ ตอบว่า เรื่องนี้อยู่ในอำนาจการดูแลของกระทรวงมหาดไทย จะประสานให้ลงไปดูแลและตรวจสอบ ไม่ให้เจ้าหนี้มารบกวนเงินของกลุ่มเปราะบาง ในส่วนธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ได้โอนเงินให้กับกลุ่มผู้รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและผู้พิการวันแรก 1.6 ล้านราย เป็นการโอนครบเต็มจำนวน ไม่มีการหักมาชำระหนี้ ธ.ก.ส.แต่อย่างใด
“เด็จพี่” ยื่นหลักฐาน “ลุงป้อม” โดดร่ม
เมื่อเวลา 10.30 น. ที่รัฐสภา นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีตโฆษกพรรค พท. ยื่นหนังสือพร้อมหลักฐานให้นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯให้สอบจริยธรรม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กรณีไม่มาประชุมสภาฯ โดยนายพร้อมพงศ์กล่าวว่า จากข้อมูลวันลา ขาด การประชุมสภาฯ จากสำนักเลขาธิการสภาฯ ตั้งแต่วันที่ 3 ก.ค.66 ถึงปัจจุบัน พล.อ.ประวิตรลงชื่อมาประชุมโดยใช้บัตรลงทะเบียน 11 ครั้ง ลาป่วย 1 ครั้ง ลากิจ 83 ครั้ง รวมขาดประชุมทั้งหมด 84 ครั้ง จากวันประชุมรวม 95 ครั้ง คิดเป็น 88.42% สมัยประชุมหนึ่ง พล.อ.ประวิตร ลาครบ 100% อ้างเหตุผลติดภารกิจน่ามีเจตนาพิเศษ จงใจขาดประชุมใช้การลาเป็นฉากบังหน้าและน่าจะใช้อำนาจแทรกแซงเจ้าหน้าที่รัฐเพื่อดำเนินการอย่างเป็นระบบ ขัดรัฐธรรมนูญที่ สส.จะขาดประชุมได้ไม่เกิน 1 ใน 4 ของจำนวนวันประชุมในสมัยประชุมและข้อบังคับว่าด้วยประมวลจริยธรรมของ สส.ที่ สส.ต้องอุทิศเวลาให้กับการประชุม ต้องไม่ขาดการประชุมโดยไม่จำเป็น เว้นแต่เจ็บป่วยหรือมีเหตุสุดวิสัย ในวันที่ พล.อ.ประวิตรแจ้งลาติดภารกิจ บางวันไปนั่งเชียร์วอลเลย์บอลผ่านออนไลน์ หรือเปิดบ้านป่าฯให้คนไปอวยพรวันเกิด และวันที่ 27 ก.ย.จะไปยื่นให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบด้วย อยากให้ออกมาแถลง อย่ามาตอบโต้หรืออย่ามาฟ้องพวกตน เสียเวลาเปล่า ฟ้องมาฟ้องกลับไม่กลัวอยู่แล้ว
ชง ครม.ตั้ง ขรก.การเมืองสัปดาห์หน้า
ที่ทำเนียบรัฐบาล นางณัฐฎ์จารี อนันตศิลป์ เลขาธิการคณะรัฐมนตรี (ครม.) กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบคุณสมบัติข้าราชการการเมืองว่า อยู่ระหว่างตรวจสอบ จะนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัปดาห์หน้าได้เลยหรือไม่ นางณัฐฎ์จารีกล่าวว่า น่าจะได้ เมื่อถามว่า จะเป็นลอตใหญ่หรือไม่ เลขาธิการ ครม.กล่าวว่า น่าจะได้อย่างนั้น ขณะนี้มีหน่วยงานที่ตรวจสอบ ส่งมาเกือบทั้งหมดแล้ว ขอให้สื่อมวลชนใจเย็นๆ
ปลัดแรงงานรอ กก.นายจ้างถกค่าแรง
ที่กระทรวงแรงงาน นายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน ในฐานะประธานคณะกรรมการค่าจ้างกล่าวว่า จะยังไม่มีการจัดประชุมคณะกรรมการค่าจ้างภายในเดือน ก.ย. ต้องรอปลัดกระทรวงแรงงานคนใหม่มาทำหน้าที่แทนตน ที่เกษียณอายุราชการวันที่ 30 ก.ย. ประกอบกับนางโสภา เกียรตินิรชา อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน จะเกษียณด้วย และยื่นใบลาออกจากกรรมการค่าจ้างฝ่ายรัฐแล้ว เพราะสิ้นสุดการเป็นเจ้าหน้าที่รัฐแล้ว เหมือนคณะกรรมการประกันสังคมที่มีวาระ 2 ปีเหมือนกัน เมื่อเกษียณจะลาออกทั้งหมด เป็นสปิริตทางราชการ และคณะกรรมการค่าจ้างไตรภาคีจะเรียกประชุมต่อเมื่อข้อมูลและกรรมการพร้อมเท่านั้น
บี้อดีตบอร์ด ธปท.ไขก๊อกเปิดทาง
นายไพโรจน์กล่าวอีกว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีหนังสือตอบกลับมาแล้วกรณีนายเมธี สุภาพงษ์ อดีตรองผู้ว่าการด้านเสถียรภาพการเงิน ธปท.เกษียณอายุราชการมาแล้ว 1 ปี แต่ยังไม่ลาออกจากคณะกรรมการค่าจ้าง เป็นสิทธิที่จะอยู่ตามวาระจนครบ 2 ปี ตามมติ ครม. แต่ตอน ธปท.ส่งนายเมธีมาเป็นกรรมการค่าจ้าง เสนอชื่อพร้อมตำแหน่งรองผู้ว่าการ ธปท.ไม่ใช่เสนอแค่ชื่อบุคคล การที่นายเมธีไม่เข้าประชุมค่าจ้างจนองค์ประชุมไม่ครบ พิจารณาค่าจ้างไม่ได้ จะยังเป็นกรรมการค่าจ้างตัวแทน ธปท.อยู่ต่อไป จะบอกเป็นเรื่องส่วนบุคคลได้อย่างไร นายเมธีควรต้องแสดงสปิริต ความสง่างามสำคัญมาก
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่
