เจ้าหนี้ตามประกบลูกหนี้หน้าตู้เอทีเอ็มหลังได้รับเงิน 10,000 บาท “อนุทิน” ลั่น ทำไม่ได้ หากเจอคุกคามขู่เข็ญตำรวจต้องจับ ย้ำ เป็นหนี้ต้องใช้ แต่ขออย่าด่วนสรุปว่าเป็นการคุกคามทั้งหมด
วันที่ 26 กันยายน 2567 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ที่ทำเนียบรัฐบาล กล่าวถึงกรณีเจ้าหนี้ไปยืนประกบลูกหนี้ที่ได้รับเงิน 10,000 บาทจากรัฐบาลหน้าตู้เอทีเอ็ม ว่า ตนคิดว่าตอนนี้ประชาชนฉลาด และเรื่องนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจรับทราบอยู่ เรามีมาตรการไม่ให้มีการข่มขู่ หลายคนได้ปรับมาเป็นหนี้ในระบบแล้ว ซึ่งเรื่องการข่มขู่ข่มเหงถ้ามีประเด็นตรงนี้เมื่อไหร่ต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ เพราะมีนโยบายนี้มาตั้งแต่รัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี และเป็นนโยบายที่ต้องถือปฏิบัติอยู่
ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่าแต่พบเจ้าหนี้ไปตามประกบถึงตู้เอทีเอ็ม นายอนุทินตอบว่า ถ้าอย่างนั้นตำรวจต้องไปรวบตรงนั้นเลย เพราะในทางกฎหมายทำได้หรือไม่ ตำรวจต้องดู จะไปประกบ ไปยืนคุกคามประชาชนทั่วไปได้อย่างไร เมื่อถามต่อไป กระทรวงมหาดไทยต้องมีการประสานกับตำรวจในเรื่องการดูแลลูกหนี้เหล่านี้ด้วยหรือไม่ นายอนุทินเผยว่า เป็นหน้าที่ของตำรวจอยู่แล้ว และเรื่องนี้ทางนายอำเภอต้องมีการประสานกับตำรวจ สมมติเจ้าหนี้ไปบังคับให้ลูกหนี้ออกจากบ้านมาแล้วตำรวจเห็นก็ต้องจับเลย ดีเสียอีก จะได้ไม่ต้องไปตามหา
ส่วนคำถามว่าแต่ลูกหนี้ส่วนใหญ่มักจะกลัว นายอนุทินกล่าวว่า มันมีหลายแบบ ถ้าหนี้ที่จำเป็นต้องใช้ เมื่อไปหยิบยืมเขามาก็ต้องใช้ ถูกหรือไม่ แต่ถ้าเจ้าหนี้ไปแบบไม่ฟังอีร้าค้าอีรม (ไม่ฟังเหตุผล) สมมติติดอยู่ 2,000 บาท แล้วจะไปเอาเขา 10,000 บาทเลยไม่ได้ อย่างนี้เขาเรียกโจร มันทำไม่ได้ แต่ถ้าได้เงินหมื่นมาแล้วแบ่งไปใช้หนี้ อย่างนี้สามารถทำได้ มันมีหลายแบบ ฉะนั้น อย่าไปด่วนสรุปว่าทุกคนคือการคุกคามทั้งหมด แต่ถ้าเกิดเป็นการคุกคามขู่เข็ญแบบนี้ถือว่าผิดกฎหมาย ตอนนี้อย่าเพิ่งไปกลัวอะไร เพราะถ้ากลัว มันกลัวได้ทุกเรื่อง
...
เมื่อถามอีกว่าถ้าเป็นแบบนี้จะไม่เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจที่แท้จริงหรือไม่ นายอนุทินระบุว่า “เงินมันหมุนน่ะ อย่างไรเงินก็หมุน หมุนจากมือนึงไปมือนึง มันก็คือการได้มีการใช้แล้ว ถ้าใช้ในสิ่งที่จุนเจือตัวเองได้และมีการซื้อขายมันก็เป็นการหมุนเวียนเรื่องเศรษฐกิจ คำว่ากระตุ้นกับหมุนเวียนมันคล้ายๆ กัน ขอให้ได้มีการหมุนเวียนของเงิน” อย่างไรก็ตาม ในคำถามว่าหลังจากได้รับเงิน 10,000 บาท บางคนนำไปฉลองกันแล้ว นายอนุทินกล่าวว่า “ไม่ให้ได้ไหมละ คนไทยเราก็ฉลองทุกอย่าง”