LINE เผยเทรนด์ท่องเที่ยวไทยปี 2024 พร้อมชูโซลูชันหนุนผู้ประกอบการ

สถานการณ์ครึ่งแรกของปี 2024 อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยแสดงสัญญาณการฟื้นตัวที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะในกลุ่มนักท่องเที่ยวไทยที่ไป “เที่ยวไทย” มีอัตราการเติบโตสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ 

ข้อมูลล่าสุดจาก LINE เปิดเผยว่า ยอดนักท่องเที่ยวไทยเที่ยวไทยสะสมในช่วงครึ่งปีแรกอยู่ที่ 100.09 ล้านคน-ครั้ง เติบโตขึ้น 9.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ในขณะที่รายได้จากการท่องเที่ยวภายในประเทศพุ่งสูงถึง 4.77 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.53%

นอกจากนี้ ผลสำรวจจาก SiteMinder ยังชี้ให้เห็นถึงแนวโน้มที่น่าสนใจ โดย 88% ของนักท่องเที่ยวชาวไทยมีความตั้งใจที่จะเดินทางท่องเที่ยวไม่น้อยกว่าปีที่ผ่านมา และ 53% ระบุว่าตั้งใจจะเดินทางท่องเที่ยวให้มากขึ้น สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้นทั้งในแง่ของจำนวนและความถี่ในการเดินทาง

เข้าใจพฤติกรรมนักท่องเที่ยวยุคใหม่

กีรติ อนุรักษ์ภราดร หัวหน้าที่ปรึกษาธุรกิจท่องเที่ยวและสินค้าหรู LINE ประเทศไทย ขณะที่พฤติกรรมการท่องเที่ยวของผู้บริโภคนั้นเปลี่ยนไป LINE จึงมองว่าการนำ “เทคโนโลยี” มาผสานกับ “บริการ” จะช่วยแก้ปัญหาให้กับผู้ประกอบการท่องเที่ยวทั้งในเชิงแรงงานและประสิทธิภาพ ยกระดับประสบการณ์การท่องเที่ยวให้ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวได้หลากหลาย ช่วยผ่อนคลายปัญหาการให้บริการที่ล้นมือบุคลากรได้อย่างลงตัว

“เทคโนโลยีอันหลากหลายบน LINE สามารถช่วยให้ธุรกิจเข้าไปมีส่วนร่วมกับลูกค้าตลอดเส้นทางการเดินทางท่องเที่ยวได้อย่างครอบคลุม ตั้งแต่ก่อนเดินทาง ระหว่างเดินทาง และหลังจบทริปการเดินทางได้ เพราะเทคโนโลยีเหล่านี้ ไม่เพียงตอบโจทย์ช่วยสร้างยอดขาย แต่ยังช่วยยกระดับประสบการณ์ของบริการได้ สร้างแบรนด์ให้เป็น Top of Mind ในใจลูกค้า” 

กลยุทธ์การใช้แพลตฟอร์มดิจิทัลสำหรับธุรกิจท่องเที่ยว

ก่อนเดินทาง (Pre-trip) ถือเป็นช่วงเวลาที่นักท่องเที่ยวมองหาข้อมูลบริการที่ใช่ โปรโมชั่นที่โดนใจ แบรนด์สามารถเข้าไปมีส่วนในการสร้างแรงบันดาลใจสู่จุดหมายปลายทางตามความสนใจของลูกค้าได้

ตั้งแต่การสร้างคอนเทนต์ผ่าน LINE VOOM ดึงดูดความสนใจ นำเสนอข้อมูลหรือโปรโมชั่นเด็ดผ่าน LINE OA ตำแหน่งฟีเจอร์ ‘ริชเมนู’ ที่มีอัตราการคลิกเติบโตถึง 132% จากปีที่ผ่านมา เมื่อลูกค้าต้องการติดต่อสอบถาม ก็สามารถพูดคุยกับแบรนด์ได้แบบเรียลไทม์ผ่านการแชต หรือผ่านฟีเจอร์ LINE OA Call ที่เป็นที่นิยมอย่างมากสำหรับกลุ่มธุรกิจนี้ ด้วยตัวเลขการใช้งานเพิ่มมากขึ้นถึง 65%

และเมื่อเข้าสู่กระบวนการจอง แบรนด์ยังสามารถใช้ฟีเจอร์อื่นๆ มาอำนวยความสะดวกลูกค้าในขั้นตอนนี้ได้อย่างหลากหลาย ทั้งฟีเจอร์แชตบน LINE OA ฟีเจอร์ข้อความตอบกลับอัตโนมัติ และฟีเจอร์ Chat Tag เพื่อช่วยในการจำแนก จัดกลุ่มลูกค้าจากข้อมูลการแชต ไปจนถึงการใช้เครื่องมือ MyShop มาช่วยเร่งการปิดการขาย อำนวยความสะดวกให้ลูกค้าพร้อมเลือกและชำระเงินได้ทันใจ หรือการนำเอาระบบด้านการจองเดิมที่แบรนด์มี มาเชื่อมต่อกับ LINE OA ด้วย LINE API เป็นต้น

ระหว่างการเดินทาง (On-Trip) เมื่อวันเดินทางมาถึง เครื่องมือบน LINE ยังคงทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางการให้ข้อมูลผู้เดินทางอย่างต่อเนื่องได้ ทั้งในรูปแบบการสร้างข้อความประกาศ แจ้งอัปเดตสถานะผ่าน LINE API (API Push Message) ส่งไปยังผู้ใช้รายบุคคล 

อาทิ สถานะไฟล์ทบิน สถานะห้องพัก เป็นต้น โดยมีอัตราการใช้งานเติบโตถึง 142% และรูปแบบการใช้งาน LINE Official Notification (LON) โซลูชั่นใหม่จาก LINE ข้อความแจ้งเตือนสำเร็จรูปพร้อมใช้ โดยอาศัยข้อมูลเบอร์โทรศัพท์ลูกค้าที่แบรนด์มี เป็นฐานข้อมูลในการส่งข้อความ 

นอกจากนี้ แบรนด์ยังสามารถใช้ LINE OA ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยส่วนตัวให้กับลูกค้าได้อย่างครบครัน ตัวอย่างเช่นในกรณีโรงแรมที่พัก แบรนด์สามารถใช้ LINE OA เป็นทั้งแหล่งข้อมูลของที่พักและบริการเสริมมากมาย เป็นศูนย์การจอง ติดต่อใช้บริการหรือกิจกรรมต่างๆ เช่น แจ้งทำความสะอาดห้อง จองร้านอาหาร ตลอดจนเป็นศูนย์เรียกติดต่อพนักงานเคาเตอร์ เป็นต้น  

หลังการเดินทาง (Post-trip) แม้การเดินทางจะสิ้นสุด แต่แบรนด์ยังสามารถรักษาและสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าอย่างต่อเนื่องได้ผ่าน LINE OA โดยนอกจากการส่งข้อความ ให้ข้อมูลการท่องเที่ยวใหม่ๆ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจสำหรับทริปต่อไปแล้ว แบรนด์ยังสามารถต่อยอดสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าหลังทริปจบ ด้วยการสอบถามข้อชี้แนะ ความพึงพอใจผ่าน ‘แบบสำรวจ’ จากเครื่องมือ MyCustomer ได้ 

โดยช่วยให้แบรนด์ได้ฟีดแบคโดยตรงจากลูกค้า พร้อมดาต้า ข้อมูลลูกค้าในเชิงลึก ที่สามารถนำไปใช้ออกแบบข้อมูล โปรโมชั่นเพื่อนำเสนอลูกค้าในอนาคตได้อย่างตรงกลุ่ม ตรงใจ รวมไปถึงการใช้งานเครื่องมือ MyCustomer | CRM ระบบสมาชิกและสะสมแต้มออนไลน์ เพื่อสานความสัมพันธ์กับลูกค้าในระยะยาว สร้างความประทับใจและเพิ่มโอกาสที่ลูกค้าจะกลับมาเลือกใช้บริการอีกครั้ง

นอกจากนี้ ยังมีเครื่องมือเสริมอื่นๆ ที่ธุรกิจนิยมใช้เพื่อสร้างการรับรู้ ควบคู่ไปกับกระตุ้นความสนใจในการเดินทางทริปใหม่ อย่าง LINE Ad ระบบการลงโฆษณาบน LINE 
โดยวัตถุประสงค์ยอดนิยมในการสร้างแคมเปญโฆษณาสำหรับกลุ่มธุรกิจนี้ คือ ‘เข้าชมเว็บไซต์’ ซึ่งมีมากถึง 52% ตามมาด้วยวัตถุประสงค์ ‘เพิ่มเพื่อน’ บน LINE OA 26% 

ซึ่งเทคนิคหลักๆ ที่กลุ่มธุรกิจนี้มักนิยมใช้คือ การนำเสนอภาพหรือวิดีโอที่สวยงาม โดดเด่น พร้อมใช้โปรโมชั่นเด็ดเพื่อโน้มน้าวใจ และใช้ภาษาตามกระแสนิยม เพื่อกระตุ้นการมีส่วนร่วมของลูกค้ากลุ่มเป้าหมายได้เป็นอย่างดี

ธุรกิจท่องเที่ยวไทยลงทุนบน LINE เพิ่ม 94% ในปี 2023

ศรีสุภาคย์ อารีวณิชกุล ผู้อำนวยการธุรกิจองค์กร LINE กล่าวว่า ด้วยจุดเด่นเหล่านี้ ส่งผลให้การลงทุนบนแพลตฟอร์ม LINE จากธุรกิจท่องเที่ยวในประเทศไทยเติบโตสูงถึง 94% ในปี 2023 และคาดว่าจะเติบโตอีก 25% ในปี 2024

LINE OA (Official Account) กลายเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับธุรกิจท่องเที่ยว โดยมีอัตราการเปิดใช้งานเพิ่มขึ้นเฉลี่ยทุกปีกว่า 18% ฟีเจอร์ยอดนิยม เช่น LINE OA Call มียอดการใช้งานเพิ่มขึ้นถึง 65% แสดงให้เห็นถึงความต้องการในการสื่อสารแบบทันที

“ระบบนิเวศทางธุรกิจที่ครบวงจรและความสามารถในการจัดการข้อมูล LINE มุ่งมั่นที่จะเป็นพันธมิตรสำคัญในการยกระดับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถปรับตัวรับมือกับความท้าทายและโอกาสในยุคดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมเร่งการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยให้กลับมาเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน” ศรีสุภาคย์ ชี้จุดสรุป

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ