“เสรี สุวรรณภานนท์” ยังไม่เชื่อ ชื่อนายกฯ จบที่เศรษฐา ยังไม่วางใจก้าวไกล ประกาศไม่หนุนเพื่อไทย ชี้ ไม่มีอะไรแน่นอนเชื่อ สว. มีหลักการตัวเอง ไม่ได้โหวตตามพรรค 2 ลุง
วันที่ 16 สิงหาคม 2566 นายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภา ในฐานะประธานกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง และการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุม กมธ. เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม ถึงการพิจารณาคำร้องให้ตรวจสอบพฤติกรรมของนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย ว่า มีพฤติกรรมหลบเลี่ยงภาษีการซื้อขายที่ดินหรือไม่
โดย นายเสรี บอกว่า ที่ประชุมเห็นควรให้มีหนังสือขอข้อมูลดังกล่าว ไปยังสำนักงานที่ดิน โดยขณะนี้ยังรอการส่งเอกสารกลับมา ส่วนจะส่งกลับมาทันวันโหวตนายกหรือไม่ นายเสรี บอกว่าน่าจะทัน แต่ทั้งนี้ยังไม่ทราบว่าจะโหวตวันไหน มีทั้งกระแสว่า 18 สิงหาคม และ 22 สิงหาคม ซึ่งหากทางสำนักงานที่ดินได้ส่งเอกสารกลับมาทาง กมธ. ก็จะให้ผู้ที่มีความรู้ด้านภาษีอากร รวมถึงนักกฎหมายที่เกี่ยวกับการทำนิติกรรมให้พิจารณาในเบื้องต้นว่า สิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดเป็นอย่างไร
ส่วนหาก สามารถดำเนินการตรวจสอบได้ก่อนที่จะถึงวันโหวตเลือกนายกฯ จะส่งผลกระทบให้ต้องมีการเลื่อนหรือไม่ นายเสรี บอกว่า ไม่กระทบ เพราะข้อมูลที่ได้มาในส่วนนี้ หากทางสมาชิกยังติดใจก็ให้ไปดำเนินการสอบถามในที่ประชุมได้ ซึ่งหากถามไปแล้วก็อยู่ที่พรรคเพื่อไทยว่า จะส่งใครมาตอบคำถามแทนนายเศรษฐาหรือไม่
ยังย้ำว่า ตนพูดมาเสมอว่า สุดท้ายแล้วการเสนอชื่อผู้ที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีในระหว่างที่ยังไม่ถึงวันโหวต อาจจะมีเหตุการณ์ หรือเรื่องที่ทำให้ต้องพิจารณาตัดสินใจว่า พรรคการเมืองแต่ละพรรค หรือพรรคเพื่อไทยเองจะเสนอชื่อใครเป็นนายกรัฐมนตรี พร้อมย้ำว่า ยังไม่มีอะไรแน่นอน
...
ส่วนกรณีที่แม้ว่าทางพรรคก้าวไกลจะแสดงจุดยืนว่า จะไม่สนับสนุนแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทย นายเสรีบอกว่า ตนยังไม่เชื่อ แม้ว่าจะบอกว่าเป็นข้อยุติหรือเป็นการตัดสินใจทางการเมืองแล้ว แต่เหตุการณ์เปลี่ยนตลอดเวลา กระทั่งทำ MOU เซ็นไว้ก็เปลี่ยนได้ ไม่มีอะไรแน่นอน
เมื่อถามถึงกรณีที่ นายวันชัย สอนศิริ สมาชิกวุฒิสภา ได้ค่อนข้างแสดงความมั่นใจว่า สว. จะโหวตให้กับพรรคเพื่อไทย ทั้งที่มี สว. บางส่วนก็ยังไม่แสดงท่าทีว่าจะโหวตให้ นายเสรี บอกว่า นายวันชัยก็ยึดหลักของตนเองว่าจะตัดสินใจโหวตหรือไม่โหวตให้ใครเป็นนายกรัฐมนตรี โดยดูจากการรวบรวมเสียงข้างมาก แต่ส่วนตัวของตนเอง รวมถึง สว. อีกหลายคน ไม่ได้ยึดตามหลักเกณฑ์เสียงจำนวนมากมาเป็นข้อยุติ แต่จะต้องดูรายชื่อบุคคลที่ถูกเสนอชื่อขึ้นมาว่า บุคคลดังกล่าวจะมีคุณสมบัติหรือไม่ มีลักษณะต้องห้ามอย่างไรหรือไม่
เมื่อถามถึงการที่มีการวิเคราะห์ว่า หากพรรคพลังประชารัฐและพรรครวมไทยสร้างชาติ มาสนับสนุนแคนดิเดตนายกฯ จากพรรคเพื่อไทยก็จะสามารถดึงเสียงของ สว. มาได้ด้วยเช่นกัน นายเสรีบอกว่า ไม่แน่ เพราะถึงแม้ว่าทั้ง 2 พรรคจะไปรวมกับพรรคเพื่อไทยได้ แต่ไม่เชื่อว่าจะมี สว. โหวตตามเพราะ สว. ก็มีหลักในการพิจารณาผู้ที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรี ต้องเป็นบุคคลที่ไม่กระทบต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ไม่แก้มาตรา 112 ไม่ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ
