เปิดมุมมอง ‘KBTG - AI Fund’ AI คลื่นลูกใหม่ บนรันเวย์ดิจิทัล

แน่นอนว่าการมาของคลื่นลูกใหม่แห่งโลกเทคโนโลยี นอกจาก “โอกาส” ยังมาพร้อม “ความท้าทาย” และ “ความเสี่ยง” ที่ทุกคนต้องเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือ...

เรืองโรจน์ พูนผล ประธานกลุ่มบริษัท กสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป (KBTG) แสดงวิสัยทัศน์ว่า ขณะนี้เรากำลังอยู่ในจุดสูงสุดของ "AI Transformation"

โดยจะเห็นได้ว่า AI โดยเฉพาะ Generative AI มีอิทธิพลกับผู้คนในทุกภาคส่วน ตั้งแต่ผู้ใช้งานทั่วไป คนทำงาน ภาครัฐ เอกชน กระทั่งองค์กรขนาดใหญ่ และมีการคาดการณ์ว่าภายในปี 2573 หรืออีก 6 ปีข้างหน้าจะถึงจุดเปลี่ยนที่การเติบโตทางเศรษฐกิจถูกขับเคลื่อนด้วย AI

“ต่อไป Domain - Specific AI หรือ Verticle AI จะเข้าไปปฏิวัติองค์กรในทุกอุตสาหกรรม ส่งผลกระทบต่อการพัฒนาเพื่อตอบโจทย์การใช้งานแบบเฉพาะทาง ตอบสนองความเร็ว การลงทุนที่ต่ำลง จากโมเดลการพัฒนาที่เล็กลงและใช้ทรัพยากรน้อยกว่า ทว่ามีความแม่นยำสูงและเข้ากับบริบทของธุรกิจได้มากกว่าเดิม”

คว้าโอกาสยุคทอง AI

ที่น่าจับตามอง AI จะสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับเศรษฐกิจอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ด้วยผลกระทบต่อจีดีพีโลกมูลค่ากว่า 15.7 ล้านล้านดอลลาร์ เฉพาะในเอเชียสร้างการเติบโตให้กับจีดีพีไม่น้อยกว่า 10% มูลค่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ อีกทางหนึ่งด้านแรงงานระหว่างปี 2560 - 2573 ส่วนที่เกี่ยวข้องกับ AI จะสร้างสัดส่วนกว่า 55% ของจีดีพี

คำถามคือเมื่อมีโอกาสรออยู่มากมายมหาศาลขนาดนี้แล้ว “เราวางจุดยืนและทรานส์ฟอร์มตัวเองไปกับโอกาสที่ยิ่งใหญ่ที่สุดอีกครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาตินี้ได้อย่างไร” เรื่องนี้ประกอบด้วย 4 เสาหลักคือ AI on the table, Keep Human In The Loop, AI as Your Companion, และ AI you use now will be the worst AI

กล่าวได้ว่า ต้องมี AI อยู่ในทุกที่ และที่ต้องให้ความสำคัญอย่างมากคือ “คน” เปรียบเสมือนเพื่อนและพันธมิตรที่ต้องพัฒนาและเติบโตไปพร้อมกัน ทว่าไม่อาจยึดติดเพราะเครื่องมือ AI ที่ใช้อยู่ในวันนี้อาจเป็น AI ที่แย่ที่สุด ยังต้องพัฒนาต่อ อย่าหยุดเรียนรู้ และพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ

ที่สำคัญ ท่ามกลางยุคแห่งความปั่นป่วนนี้ควรรู้จักที่จะยอมรับการเปลี่ยนแปลงและมีความสุขกับสิ่งที่เกิดขึ้น มีความอยากรู้อยากเห็นอย่างมีสติ อดทนและมองไปถึงผลกระทบในระยะยาว ที่ขนาดไม่ได้การใช้งานต้องอยู่ภายใต้ความรับผิดชอบและจริยธรรม

ปัจจัยสำคัญคือ “คน”

สำหรับ KBTG มีจุดยืนในฐานะผู้บุกเบิกในสนามของ AI มุ่งนำเสนอโซลูชัน AI ที่เน้นผู้คนเป็นสำคัญ “Human-First AI - First Organization” นำพลัง AI มาปลดล็อกศักยภาพธุรกิจ ยกระดับบริการลูกค้า สร้างรายได้ พัฒนาผลิตภัณฑ์ บริการ รวมถึงระบบงานภายในองค์กร โดยมีมุมมองว่าความสำเร็จจะเกิดได้หรือไม่ ปัจจัยสำคัญคือ “คน”

KBTG เคยอยู่ในจุดที่ให้ความสำคัญกับ “AI - First”  เพียงอย่างเดียว แต่วันนี้พบว่าไม่ใช่ทั้งหมด และได้กลับมาทบทวนใหม่ เปลี่ยนไปให้ความสำคัญกับคนควบคู่กันไป มากกว่านั้นมีมุมมองว่าสิ่งที่ลงมือทำต้องส่งผลกระทบเชิงบวกต่อทั้งตนเอง ผู้คน สังคม ขณะเดียวกันต้องการมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนประเทศไทย

“โจทย์ของเราคือการสร้างและส่งมอบมูลค่า ยกระดับการบริหารจัดการ ต้นทุน เพิ่มขีดความสามารถด้านเทคโนโลยีในฐานะเทคคอมพานีที่สร้างผลกระทบทั้งในไทยและระดับภูมิภาค รวมไปถึงพัฒนายกระดับศักยภาพบุคลากร ท้ายที่สุดการใช้เทคโนโลยีต้องเกิดประโยชน์และทำให้คุณภาพชีวิตของผู้คนดีขึ้น”

‘KXVC - AI Fund’ ร่วมผลักดันนวัตกรรม

เรืองโรจน์เผยว่า นอกจากการพัฒนาภายใน ได้ขยายความร่วมมือไปกับพันธมิตรในหลายภาคส่วนทั้งภาครัฐและเอกชน โดย หนึ่งในความร่วมมือที่เกิดขึ้นแล้วอย่างเป็นรูปธรรม ล่าสุด KX Venture Capital (KXVC) ในเครือ KBTG และ AI Fund ห้องปฏิบัติการสร้างสตาร์ตอัปด้าน AI ระดับโลก ประกาศความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ครั้งใหม่ เพื่อสนับสนุนการเติบโตและการขยายตัวของธุรกิจใหม่ๆ ด้าน AI

ความร่วมมือครั้งสำคัญนี้จะผสานจุดแข็งของโมเดลห้องปฏิบัติการธุรกิจ (Venture Studio) ของ AI Fund เข้ากับความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีและความแข็งแกร่งของระบบนิเวศทางเทคโนโลยีขั้นสูงของ KBTG ในฐานะผู้นำด้านเทคโนโลยีของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

เพื่อพัฒนาโซลูชันใหม่ๆ ที่สามารถแก้ไขปัญหาในโลกได้จริง ขณะเดียวกันผลักดันการเติบโตของบริษัท AI รุ่นใหม่ที่จะเข้ามาปฏิรูปอุตสาหกรรมต่างๆ ทั้งในประเทศไทย ภูมิภาค และทั่วโลก

ทั้งสองฝ่ายจะร่วมมือกันสร้างธุรกิจใหม่ๆ เสริมสร้างความเชื่อมโยงระหว่างเครือข่ายภายในชุมชนเทคโนโลยีของไทยและทั่วภูมิภาคให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น พร้อมแสวงหาโอกาสใหม่ๆ ด้านสตาร์ตอัปที่จะตอบโจทย์ทั้งในประเทศและตลาดโลก

AI พลิกเกมโลกยุคใหม่

แอนดรูว์ อึ้ง Managing General Partner ของ AI Fund บุคคลที่ได้รับการขนานนามจากนิตยสาร Time ว่าเป็นหนึ่งในผู้ทรงอิทธิพลที่สุดในโลกด้าน AI เปิดมุมมองว่า จาก 100 ปีก่อนที่ไฟฟ้าเป็นปัจจัยที่พลิกโฉมอุตสาหกรรม มาวันนี้  “AI is the new electricity” สร้างความเท่าเทียม และเป็นตัวขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงในโลกยุคใหม่

สำหรับทศวรรษนี้ต้องยอมรับว่าเป็นยุคของ Generative AI ที่มีการปรับใช้และเห็นประโยชน์แบบจับต้องได้ จากการใช้งานจริงในระดับบุคคลและองค์กร

ที่น่าสนใจ นอกจากการเรียนรู้ของโมเดลขนาดใหญ่ มีการปรับใช้งานและพัฒนาโมเดลขนาดเล็ก รวมถึงสร้างยูสเคสที่ส่งผลกระทบต่อการใช้งานจริงของภาคธุรกิจ

ขณะนี้นับว่ามีโครงการที่หลากหลายอย่างมากที่ AI เข้าไปช่วยสร้างมูลค่าเพิ่ม ซึ่งหากต้องการสร้างโอกาสให้มากขึ้นจำต้องมีการสนับสนุนให้บริษัทต่างๆ นำ AI ไปใช้กับธุรกิจ การสนับสนุนให้เกิดสตาร์ทอัปด้าน AI และที่ขาดไม่ได้คือการทำงานร่วมกันของผู้เชี่ยวชาญด้าน AI และในแวดวงเทคโนโลยี

ผลสำรวจโดย “แมคคินซีย์” ระบุว่า AI รวมถึง Generative AI กำลังเข้าไปส่งผลกระทบในหลากหลายอุตสาหกรรม ที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดคือ ภาคการศึกษาและเทรนนิง ผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจและกฎหมาย ผู้เชี่ยวชาญ STEM  กิจกรรมช่วยเหลือสังคม อาชีพด้านครีเอทีฟ ฯลฯ

มองไทยมีโมเมนตัมที่ดี

แอนดรูว์ให้คำแนะนำถึงโอกาสและบทบาทของประเทศไทยต่อการมาของ AI ว่า ไทยเป็นประเทศที่มีศักยภาพ โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยว เฮลธ์แคร์ และการเกษตร ดังนั้นการขับเคลื่อนที่สำคัญคือการสนับสนุน “การศึกษา” ผลักดันให้เกิดโมเมนตัมที่ดีด้วยการส่งเสริมสตาร์ตอัปและการเติบโตของอีโคซิสเต็ม อีกทางหนึ่งมีการผลักดันอย่างเป็นรูปธรรมจากภาครัฐบาลและภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง

“ผมได้เห็นว่าประเทศไทยมีโมเมนตัมที่ดีและศักยภาพในการพัฒนาในหลากหลายมิติ จากการขับเคลื่อนการพัฒนาด้าน AI อย่างเป็นรูปธรรม ทั้งด้านสตาร์ตอัป และการริเริ่มโครงการที่หลากหลาย”

AI เป็นเทคโนโลยีที่เปิดกว้างสำหรับทุกคน ที่สำคัญคือการนำมาปรับใช้ โดยปัจจัยที่จะทำให้เกิดขึ้นได้จำต้องมีการส่งเสริมด้านการศึกษา การอบรม รวมถึงเครื่องมือที่ตอบโจทย์และเข้ากับบริบทการใช้งานจริง และที่ขาดไม่ได้คือเรื่องจริยธรรม และความรับผิดชอบ

ส่วนของ AI Fund ยังคงมองหาพันธมิตรเพิ่มเติมที่จะทำงานร่วมกันเพื่อสร้างความเป็นไปได้ใหม่ๆ  รวมถึงสานต่อการทำงานร่วมกับ KBTG โดยเฉพาะเรื่องการส่งเสริมด้านการศึกษา พัฒนาคอมมูนิตี้ หาแชมเปียนและไฮไลต์พวกเขา ทำให้เกิดแรงบันดาลใจในการเรียนรู้ในวงกว้างต่อๆ ไป โดยท้ายที่สุด AI จะไม่ได้มาแทนคน แต่คนต้องยกระดับตนเองเพื่อใช้งานและสร้างผลลัพธ์ที่ดีกว่าเดิมด้วย AI

Thailand Must Be ‘All in’ on AI

ผู้บริหาร KBTG ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า เทรนด์เทคโนโลยีที่มาแรงและน่าจับตามองนอกจาก AI ยังมี Blockchain, Web3, Quantum Computing รวมถึงประเด็นที่เกี่ยวข้องกับ ESG

วันนี้เทคโนโลยีเป็นตัวจุดประกายให้เกิดความเป็นไปได้ในเชิงบวกแบบไม่สิ้นสุด เพิ่มความสามารถให้มนุษย์พร้อมเปิดประตูให้สามารถทำในสิ่งที่ไม่เคยคิดว่าจะทำได้ ในทางกลับกันหากใช้ในทางที่ผิด ก็อาจส่งผลกระทบในเชิงลบได้มากมายเช่นกัน

สำหรับไทย เชื่อว่าเป็นประเทศที่มีจุดแข็ง ซึ่งก้าวต่อจากนี้จำต้องมีการส่งเสริมและสนับสนุนอย่างเป็นรูปธรรม

รวมไปถึงการทำงานร่วมกับบุคลากรระดับเวิลด์คลาส สร้างฮีโร่ ส่งเสริมให้เกิดการใช้งาน สร้างยูสเคสที่ส่งผลกระทบเชิงบวก เพื่อการทำงานแบบลึกขึ้น เร็วขึ้น ถูกต้อง และมีประสิทธิภาพมากขึ้น จากนี้เชื่อว่า AI สามารถเพิ่มศักยภาพให้ไทยได้อีกมหาศาล

At KBTG, We Are “All In” For Thailand And Thailand Must Be All in on AI

 

#KBTG #KBTGTechtopia

#ABlastFromTheFuture #BeyondPartnership

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

รมต.สหราชอาณาจักร เสร็จภารกิจเยือนไทยย้ำร่วมมือ รัฐบาลแพทองธาร

แคทเธอรีน เวสต์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศและการพัฒนา รับผิดชอบกิจการอินโด-แปซิฟิก (รม...

'อิสราเอล' ถล่มกรุงเบรุตเด็ดชีพผบ. 'ฮิซบอลเลาะห์' มีผู้เสียชีวิตแล้ว 14 ราย

สำนักข่าวเอพีรายงาน พล.ร.ต.แดเนียล ฮาการี โฆษกกองกำลังป้องกันอิสราเอลกล่าวยืนยันว่า อิสราเอล สามารถป...

‘บัฟเฟตต์’ มอบเงินมหาศาลให้การกุศล แต่ทำไมถึงไม่มอบเงินก้อนโตให้ลูกๆ ตัวเอง

วอร์เรน บัฟเฟตต์ (Warren Buffett) หนึ่งในนักลงทุนระดับตำนานที่ร่ำรวยที่สุดในโลก มียอดทรัพย์สินสุทธิ ...

ค่ายรถไฟฟ้าเวียดนามอ่วมหนัก 'วินฟาสต์' ขาดทุนพุ่ง 27% ไตรมาส 2

บริษัทวินฟาสต์ (Vinfast) ค่ายรถไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดจากเวียดนาม รายงานผลประกอบการไตรมาส 2/2024 ขาดทุนเพ...