ยังไม่รับรอง “200 สว.” กกต.ชะงัก นัดถกต่ออีกวัน เสียงแตก-ปมร้องเรียน เบรกปล่อยผีสอยทีหลัง

กกต.เงื้อค้างยังไม่ประกาศรับรอง สว. “อิทธิพร” เผยพิจารณาวาระร้อนแล้วแต่ยังไม่แล้วเสร็จต้องถกต่อ สั่งสำนักงานกกต.ตรวจสอบเพิ่มเติมให้ชัดเจน แม้ตั้งแท่นปล่อยผี ก่อนตามสอยทีหลัง อ้างคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญคดีเลือก สว.ปี 43 รับรองไม่ครบ 200 คน ไม่อาจเริ่ม ปฏิบัติหน้าที่ได้ “ทนายอั๋น” ยื่นดีเอสไอรับคดีฮั้ว สว.เป็นคดีพิเศษ ระบุไม่สุจริต โกงหลายรูปแบบ ปล่อยการเมืองแทรกแซง ทำลายความมั่นคงของรัฐ และเศรษฐกิจสังคม “ก้าวไกล”-กกต.ส่งคนตรวจพยานคดียุบพรรค “ชัยธวัช” ย้ำไม่กังวลใจ เพิ่ม “สุรพล นิติไกรพจน์” เป็นพยานอีก 1 ปาก นายกฯโอ่ผลงาน 1 ปีทยอยออก “จึ้ง” แน่ น้อมรับคำติชม แกนนำเสื้อแดง “อนุทิน” ฉุนนโยบายเรือธงถูกหัก ฮึ่มสู้ตายโหวตโนคืนกัญชากลับเป็นยาเสพติด “ลุงป้อม” เมินดินเนอร์พรรคร่วมฯ เปรยมี “ธรรมนัส” อยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องไป

คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยังไม่ประกาศรับรองผล สว.ปี 2567 รวม 200 คน พร้อม 100 รายชื่อสำรองไปก่อน แล้วค่อยมาตามสอยทีหลัง ตามข้อเสนอของสำนักงาน กกต. เสนอ โดยมอบหมายให้สำนักงาน กกต.ไปตรวจสอบเพิ่มเติมในส่วนของผู้ได้รับเลือกเป็น สว. เพื่อให้มีข้อเท็จจริงเพียงพอ สำหรับการลงมติประกาศผลการเลือก สว.

กกต.จ่อชงเคาะรับรอง สว.ใหม่

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 9 ก.ค. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. เปิดเผยว่า วันเดียวกันที่ประชุม กกต.มีวาระพิจารณาการประกาศรับรองผลการเลือก สว. ตามที่สำนักงาน กกต.เสนอมา ต้องฟังความเห็นที่ประชุมว่าจะพิจารณาเคาะวันประกาศรับรองเลยหรือไม่ ยืนยันว่า กกต.เสียงไม่แตก ยังเห็นตรงกันดี เพียงแต่ที่ประชุมมีการคุยกันว่า ต้องทำอะไรอีกแค่ไหน จึงจะถึงขั้นสามารถประกาศได้ ยืนยันว่าช่วงนี้ยังคงปฏิบัติหน้าที่ ไม่มีการลาพักร้อนหรือลาหยุด ตามกระแสข่าวลือที่เป็นข้อมูลอันเป็นเท็จ และยังคงมีการประชุม กกต.เพื่อพิจารณาวาระต่างๆ รวมถึงพิจารณารับรองการประกาศผลการเลือก สว.เป็นการพิจารณาต่อเนื่องตั้งแต่เมื่อวันที่ 8 ก.ค.

...

เล็งปล่อยผีไปก่อนสอยทีหลัง

ต่อมาเวลา 13.00 น. นายอิทธิพรเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการ กกต. พิจารณาคำร้องประเด็นต่างๆ รวมถึงรายงานที่เกี่ยวข้องกับการเลือก สว.ระดับประเทศ ต่อเนื่องจากเมื่อวันที่ 8 ก.ค. หลัง กกต.แต่ละคนยังเห็นไม่ตรงกันเกี่ยวกับการประกาศรับรองผลการเลือก สว. โดย กกต.จะรับรองผล สว.ไปก่อนแล้วค่อยไปตรวจสอบบุคคลที่ถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดทีหลัง โดยได้ยกบรรทัดฐานตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ที่เคยชี้ขาดเกี่ยวกับการเลือก สว. เมื่อปี 2543 กรณีประธานรัฐสภา ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 266 ปัญหาเกี่ยวกับอำนาจหน้าที่ของวุฒิสภา ขณะนั้น กกต.จัดเลือกตั้ง สว. รวม 200 คน เมื่อวันที่ 4 มี.ค.2543 แต่รับรองผลเพียง 122 คน ทำให้เกิดปัญหาการปฏิบัติหน้าที่ และมีความเห็นแย้งกัน 2 ฝ่าย ระหว่าง สว.ที่ครบวาระ แต่ต้อง รักษาการจนกว่าจะได้ สว.ใหม่ครบ กับอีกฝ่ายคือ สว.ใหม่ที่เห็นว่าจำนวน สว.เท่าที่มีสามารถทำงานได้

อ้างคำสั่งคดี สว.ปี 43 เป็นบรรทัดฐาน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีดังกล่าวประธานสภาฯจึงส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าฝ่ายไหนควรเป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่ แล้วหากเป็น สว.ใหม่ที่ยังไม่ครบจำนวนนั้นจะดำเนินการให้มีการประชุม เพื่อปฏิบัติหน้าที่ได้หรือไม่ ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า สว.ที่ได้รับเลือกยังไม่ครบ 200 คน ไม่อาจดำเนินการให้มีการประชุมเพื่อปฏิบัติหน้าที่ สว.ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญนี้ได้ และระหว่างที่ สว. ที่ได้รับเลือกยังไม่ครบ 200 คนนั้น สว.ที่สมาชิกภาพสิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 21 มี.ค.2543 ไม่อาจปฏิบัติหน้าที่วุฒิสภาตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญนี้ได้

ถกยาว 3 ชั่วโมงไร้ข้อสรุป

ผู้สื่อข่าวรายงานจาก กกต.ว่า หลังจากที่ประชุม กกต.ใช้เวลาพิจารณานานกว่า 3 ชั่วโมง แต่ผลปรากฏว่ายังไม่ได้ข้อสรุปการประกาศรับรองผล สว.ได้ ยังไม่มีการรับรอง สว.ชุดใหม่อย่างเป็นทางการ โดยที่ประชุมนัดหารือเรื่องดังกล่าวกันอีกครั้งในวันที่ 10 ก.ค. เวลา 09.00 น. อย่างไรก็ตามการประชุมของ กกต.เพื่อพิจารณารับรองผลเลือก สว.ชุดใหม่ ดำเนินการมาตั้งแต่สัปดาห์ก่อน จนกระทั่งเมื่อวันที่ 8 ก.ค.มีรายงานว่าในที่ประชุม กกต.ยังไม่สามารถรับรองผลได้ เนื่องจากกรรมการหลายคนมีความเห็นแตกต่างกันในการพิจารณาตรวจสอบข้อร้องเรียนต่างๆจากอดีตผู้สมัคร สว. จนถึงขั้นที่ต้องใช้เสียงของประธาน กกต.ในการลงมติชี้ขาด ให้ต้องนัดการประชุม กกต.กันต่อไป และเมื่อมาถึงการประชุมอีกครั้งในวันที่ 9 ก.ค.ก็ยังคงไม่มีข้อสรุปเป็นที่ยุติออกมา

ปธ.บอกยังพิจารณาไม่แล้วเสร็จ

ด้านนายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. ให้สัมภาษณ์เปิดเผยภายหลังการประชุม ว่า ที่ประชุม กกต. ยังไม่ประกาศรับรองผลการเลือก สว. เนื่องจากยังพิจารณาไม่แล้วเสร็จ จำเป็นต้องมีการประชุมพิจารณาต่อในวันที่ 10 ก.ค. อีกทั้งวันนี้ที่ประชุมได้พิจารณาวาระเรื่องการประกาศผลการเลือก สว.แล้ว แต่เห็นว่ายังมีบางประเด็นที่ต้องให้สำนักงาน กกต.ตรวจสอบเพิ่มเติมในส่วนของผู้ได้รับเลือกเป็น สว. เพื่อให้มีข้อเท็จจริงเพียงพอสำหรับการลงมติประกาศผลการเลือก สว. ถ้ามีความชัดเจนในข้อมูลนี้จะทำให้ กกต.สามารถพิจารณาได้ว่าสมควรประกาศผลหรือไม่

กมธ.เร่งสรุปข้อมูลทุจริต

เมื่อเวลา 12.30 น. ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาตรวจสอบการเลือกสมาชิกวุฒิสภาเป็นนัดแรก ที่ประชุมมีมติเลือกนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย สว.ทำหน้าที่ประธาน กมธ. หลังการประชุม นายสุรชัยแถลงว่า จะเร่งตรวจสอบกระบวนการเลือก สว.มีข้อเท็จจริงใดที่บงชี้มีการเลือกโดยไม่สุจริต นำข้อมูลจากหน่วยงานต่างๆ เช่น กกต.มาศึกษาถอดบทเรียนกระบวนการเลือก สว.ครั้งนี้ และเบื้องต้นจะใช้ข้อมูลจาก กมธ.องค์กรอิสระและ กมธ.สิทธิมนุษยชน วุฒิสภา ตลอดจนข้อมูลจาก กมธ.หลายคณะที่ติดตามการเลือก สว.เป็นการส่วนตัว ส่งมาให้รวบรวมและสรุปข้อเท็จจริง จะเริ่มลงมือศึกษาวันที่ 11 ก.ค. หากขาดความชัดเจนเรื่องใด จะขอไปยังหน่วยงานหรือองค์กรอิสระที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม จะแยกรายงานเป็น 2 ส่วนคือ 1.รายงานข้อเท็จจริงว่ามีอะไรเป็นตัวบ่งชี้ให้เห็นการเลือก สว.ครั้งนี้ไม่สุจริตเที่ยงธรรม 2.ถ้ามีเวลาพอจะศึกษาประเด็นข้อกฎหมายต่อว่า มีอะไรเป็นปัญหาและอุปสรรคในการนำไปสู่การปรับปรุงแก้ไขต่อไป จะอยู่บนข้อเท็จจริงที่มีพยานหลักฐานไม่ใช่ข้อเท็จจริงที่ลอยมาจากที่ไหนไม่รู้ ทำหน้าที่ตรงไปตรงมามากที่สุด แต่หาก กกต.รับรองการเลือก สว.เมื่อใด ภารกิจของ กมธ.จะเสร็จสิ้นลง

“วิษณุ” ชี้ สว.สอยก่อน-หลังก็มีปัญหา

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม ที่ปรึกษาของนายกฯกล่าวถึงกรณีหาก กกต.รับรองสมาชิกวุฒิสภาหรือ สว.ชุดใหม่ 200 คนไปก่อน แล้วค่อยมาสอยทีหลังในทางกฎหมายจะมีปัญหาหรือไม่ว่า ไม่ว่าแบบใดก็มีปัญหาทั้งนั้น ถ้าไม่ประกาศมีปัญหาอีกแบบหนึ่ง กกต.จะถูกตั้งคำถามว่าทำได้หรือไม่ และหากประกาศไปแล้วและมาสอยทีหลังจะมีปัญหา เพราะไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะดำเนินการแล้วเสร็จ ไม่ขอแสดงความเห็นถึงประเด็นดังกล่าว และไม่ได้มีการมาขอความเห็นอะไรกับตน ไม่เกี่ยวข้องกับรัฐบาล เมื่อถามย้ำว่า สว.ชุดเก่าจะสิ้นสุดเวลาการปฏิบัติหน้าที่เมื่อใด นายวิษณุกล่าวว่า เมื่อ สว.ชุดใหม่ปฏิญาณตน ส่วนกรณี สว.ชุดเก่ายังตั้งคณะกรรมาธิการขึ้นมาเพื่อศึกษาอะไรในช่วงนี้ได้หรือไม่ นายวิษณุปฏิเสธตอบคำถาม ระบุเพียงว่าไม่อยากไปทะเลาะกับเขาเปล่าๆ

ร้องดีเอสไอรับฮั้ว สว.เป็นคดีพิเศษ

เมื่อเวลา 10.30 น.ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ นายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือทนายอั๋น บุรีรัมย์ เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่ออธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษขอให้พิจารณารับเรื่องการเลือกตั้ง สว. กรณีฮั้วการเลือกตั้ง สว. เป็นคดีพิเศษ ผ่าน พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ โฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ โดยนายภัทรพงศ์กล่าวว่า ขอให้อธิบดีดีเอสไอตรวจสอบการเลือก สว.ที่บานปลายไปแล้ว วิธีการเลือกไม่สุจริต มีการโกงผ่านรูปแบบต่างๆ โดย 1.ที่สำคัญ กกต.ยังคงนิ่งเฉยไม่ดำเนินการอะไร ไม่ตอบปัญหาและคำถามสังคมและผู้ร้องเรียน พยายามจะรับรอง สว.ทั้ง 200 ราย ทั้งที่ยังมีข้อเคลือบแคลงใจสงสัย 2.หลักฐานโพยในห้องน้ำ สอดคล้องกับคะแนนเลือกตั้ง 3.ปรากฏคลิปวิดีโอการสนทนาว่าฝ่ายการเมืองเข้ามาแทรกแซง เล็งเห็นว่าดีเอสไอมีอำนาจตรวจสอบ เพราะการเลือก สว.ไม่ได้มาโดยชอบด้วยกฎหมาย เป็นการทำลายความมั่นคงของรัฐและเศรษฐกิจสังคม มีผู้มีอิทธิพลและบารมีทางการเมืองเข้าแทรกแซง และขอให้ดีเอสไอเรียกพยานหลักฐานจาก กกต.และเรียกบุคคลที่อาจเกี่ยวข้องกับขบวนการฮั้วเลือกตั้ง สว. มาสอบถามข้อเท็จจริง

ยันไม่กังวลพาดพิง สว.สีน้ำเงิน

ด้าน พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ โฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวว่า กรณีนี้ประชาชนทั่วไปยื่นคำร้องได้ กรมสอบสวนคดีพิเศษจะรับคำร้องไว้ จากนั้นเลขานุการกรมสอบสวนคดีพิเศษจะประมวลเรื่อง และส่งไปที่กองบริหารคดีพิเศษ ประมวลเรื่องเสนอไปยังอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษตามขั้นตอนว่าจะมอบหมายสั่งการไปยังกองคดีใดให้สืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริง พยานหลักฐานหรือพยานเอกสารที่ผู้ร้องทุกข์นำมามอบให้ ต้องไปตรวจสอบรายละเอียดก่อน เมื่อถามว่าดีเอสไอไม่กังวลใจใช่หรือไม่ หากจะรับดำเนินการ เพราะผู้ร้องพาดพิง “สว.สีน้ำเงิน” พ.ต.ต.วรณันกล่าวว่า ดีเอสไอดูตามอำนาจหน้าที่และกฎหมาย ไม่มีอะไรต้องกังวล

ก.ก.-กกต.ส่งคนตรวจพยานยุบพรรค

เมื่อเวลา 13.00 น. ที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ศาลรัฐธรรมนูญนัดตรวจพยานหลักฐานของคู่กรณีในคดีที่ กกต.โดยนายทะเบียนพรรคการเมือง ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยเพื่อมีคำสั่งยุบพรรคก้าวไกล (ก.ก.) และเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของบุคคลผู้เป็นคณะกรรมการบริหารพรรค และห้ามมิให้ผู้ซึ่งดำรงตำแหน่งคณะกรรมการบริหารพรรคและถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งไปจดทะเบียนพรรคการเมืองขึ้นใหม่ หรือเป็นกรรมการบริหารพรรคการเมือง หรือมีส่วนร่วมในการจัดตั้งพรรคการเมืองขึ้นใหม่ภายในกำหนด 10 ปี นับแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งตาม พ.ร.ป.พรรคการเมือง มาตรา 92 วรรคสอง และมาตรา 94 วรรคสอง เนื่องจากมีพฤติการณ์กระทำการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และเข้าลักษณะกระทำการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งข้อเท็จจริงปรากฏตามคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ 3/2567 โดยการนัดตรวจพยาน จะมีตัวแทนของพรรค ก.ก. และ กกต.เดินทางมาเข้าร่วม

“ต๋อม” ไม่กังวลเพิ่มพยานอีก 1 ปาก

ต่อมานายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรค ก.ก. และ สส.บัญชีรายชื่อพรรค ก.ก.พร้อมทีมฝ่ายกฎหมายของพรรค ก.ก.มาที่ศาลรัฐธรรมนูญ โดยนายชัยธวัชให้สัมภาษณ์ว่า ศาลรัฐธรรมนูญนัดให้ตรวจพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องในคดีที่ กกต.เป็นโจทก์ยื่นฟ้องให้มีการยุบพรรค ก.ก.พรรคได้ยื่นพยานบุคคลทั้งหมด 10 ปาก และมายื่นบันทึกถ้อยคำเพิ่มอีก 1 ปากคือนายสุรพล นิติไกรพจน์ ศาสตราจารย์ทางด้านกฎหมายมหาชน และที่ปรึกษาด้านกฎหมายของ กกต.ด้วย เรามั่นใจในข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายที่เราต่อสู้และไม่ได้กังวลใจ แต่หลังจากยื่นพยานหลักฐานในวันนี้แล้ว คาดหวังว่าศาลรัฐธรรมนูญจะเปิดการไต่สวนตามพยานหลักฐานพรรค ก.ก.ได้ร้องขอ

นายกฯโวผลงาน 1 ปีทยอย “จึ้ง” แน่

เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ห้องประชุม 501 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้ม โดยนายเศรษฐาให้สัมภาษณ์ หลังประชุมถึงเสียงวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาลที่จะครบรอบ 1 ปีในเดือน ส.ค.ที่ยังไม่เห็นเป็นรูปธรรมว่า การสื่อสารที่ชัดเจนเป็นเรื่องสำคัญ เป็นไปอย่างที่ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่ผ่านมารัฐบาลทำงานมากพอสมควร ทุกกระทรวงทำงานหนัก ทั้งการลงทุนจากต่างประเทศ ราคาสินค้าเกษตรดูแลพืชหลักพืชรอง พักหนี้เกษตรกร เพิ่มศักยภาพการศึกษาเยาวชน เพิ่มค่าแรง กฎหมายสมรสเท่าเทียม ยกระดับบัตร 30 บาทรักษาทุกโรค ปราบปรามยาเสพติด หลายมิติที่เราพยายามทำอยู่ เมื่อถามว่าจะทำให้ประชาชนรู้สึกจึ้งกับผลงานที่เป็นรูปธรรมได้อย่างไร นายกฯถึงกับหัวเราะกับคำว่า “จึ้ง” ก่อนตอบว่า “จะทำให้จึ้งได้อย่างไร คิดว่าต้องค่อยๆเป็นค่อยๆไป เพราะมีหลายโครงการที่จะค่อยๆทยอยออกมา อย่างการลงทุนจากต่างประเทศ การทำ FTA ที่เพิ่มมากขึ้นส่วนตัวคิดว่า จะค่อยๆทยอยออกมา”

น้อมรับคำติชมคนพรรคเดียวกัน

เมื่อถามว่า ยังมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากคนในพรรคเพื่อไทย (พท.) จะทำความเข้าใจอย่างไร นายกฯ ตอบว่า สังคมที่เป็นประชาธิปไตยไม่ว่าจะเป็นคนของพรรคเดียวกัน พรรคร่วมรัฐบาล หรือฝ่ายค้าน อาจอึดอัดใจหรือไม่เข้าใจหรือสื่อสารที่ไม่ดีพอ ต้องรับฟังแม้เป็นคำติจากพรรคร่วมพรรคเดียวกัน อะไรที่เป็นคำติที่เหมาะสม สมควรปรับปรุงเปลี่ยนแปลงต้องทำ และพร้อมที่จะชี้แจงในเวทีที่เหมาะสม โดยจะลาราชการเข้าไปที่พรรค พท. ตั้งแต่เวลา 15.00 น. เป็นต้นไป ถ้ามีคำถามพร้อมชี้แจง เมื่อถามว่า บุคลิกของนายกฯที่เป็นซีอีโอเก่าเป็นอุปสรรคต่อการบริหารราชการแผ่นดินหรือไม่ เพราะซีอีโอจะปิดไซต์งานได้ตลอด นายกฯตอบว่า ปัจจุบันปิดงานได้เยอะมากพอสมควร สมัยก่อนที่เป็นซีอีโอก็มีเปิด-ปิด-โอนตลอด

“อ้วน” ติง “วรชัย-มิ้ง” ไม่คุยภายใน

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี นพ.พรหมินทร์ เลิศ สุริย์เดช เลขาธิการนายกฯ ตอบโต้กรณีนายวรชัย เหมะ ที่ปรึกษาของรองนายกฯ วิจารณ์การทำงานของนายกฯว่า เรื่องนี้ไม่น่ามีปัญหา พยายามทำความเข้าใจ นายวรชัยอาจไปรับรู้หรือรับฟังถึงปัญหาสภาพ ความเดือดร้อนประชาชนสะท้อนออกมา อันที่จริงแล้วควรจะมาสะท้อนกันภายใน วันนี้การแก้ปัญหาไม่ใช่แก้ง่ายๆ เพราะเป็นปัญหาต่อเนื่องมาจากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่บริหารได้ไม่ดีมาจนถึงปัจจุบัน รวมถึงสภาพการเมือง และสภาวะเศรษฐกิจโลก นายวรชัยจะสะท้อนภาพ นพ.พรหมินทร์อยู่ในสถานะการทำงานใกล้ชิดกับนายกฯออกมาบอกว่า นายวรชัยไม่รู้ก็อาจจะเป็นไปได้ อย่างตนไม่ได้รู้ทุกเรื่อง เอามุมของแต่ละคนมาพูดคุยชั่งน้ำหนักไปแก้ปัญหาได้ ไม่อยากให้ยืดเยื้อเพราะไม่ได้มีอะไร รัฐบาลตระหนักถึง ปัญหาดีอยู่แล้ว ได้ยกหูคุยกับ นพ.พรหมินทร์และคุยกับนายวรชัยแล้ว ต้องจบ ไม่ควรทำให้ประเด็นเล็กประเด็นน้อยขยายความใช้วิธีไปพูดผ่านสื่อ นพ.พรหมินทร์คงจะจบแล้ว ส่วนนายวรชัยไม่อยากให้ไปขยายความอีก คนทำงานร่วมกัน ควรยุติ

ยอมรับนายกฯปั๊มผลงานไม่ง่าย

เมื่อถามว่าขณะนี้มีคนพูดถึงการทำงานของนายกฯว่า “ทำดี แต่ไม่มีผลงาน” นายภูมิธรรมตอบว่า ต้องยอมรับว่านายกฯทำงานหนักสิ่งที่กำลังทำอยู่ไม่ใช่เรื่องง่าย เป็นปัญหาหลายเรื่อง ทุกอย่างต้องใช้เวลา มองปัญหาเพียงจุดเดียวไม่พอต้องมองภาพรวม ตอนนี้ประเทศไทยกำลังก้าวไปข้างหน้า เมื่อถามว่า จากเหตุการณ์นี้ พรรคกับรัฐบาลจำเป็นต้องสื่อสารกันมากขึ้นหรือไม่ นายภูมิธรรมตอบว่า สื่อสารกันดีอยู่แล้ว แต่ในตัวบุคคลอาจจะมีคลาดเคลื่อนกันได้บ้าง คิดว่าเรื่องนี้ปรับปรุงได้ไม่มีปัญหา การทำงานของพรรคกับรัฐบาลมีอยู่แล้ว รัฐมนตรีทุกคนต่างงานล้นมือ ต้องขอเวลานิดนึงให้เราได้ทำงานจริงๆเพราะเรากำลังทำในสิ่งที่เป็นปัญหายุ่งยาก

พท.ถกปุ๋ยคนละครึ่งไร้ปม “วรชัย”

ต่อมาเวลา 14.30 น. ที่พรรค พท. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ เข้าร่วมประชุมพรรค มี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรค นายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรค มีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและ รมว. พาณิชย์ และนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ และประธาน สส.พรรค ทำหน้าที่ดำเนินการประชุม ยังมีรัฐมนตรีของพรรคนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯและ รมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายเกรียง กัลป์ตินันท์ รมช.มหาดไทย นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม เข้าร่วมประชุม ช่วงแรก สส.ภาคเหนือ ถามถึงการแก้ไขราคาพืชผลทางการเกษตรโดยเฉพาะลำไย และมาตรการปุ๋ยคนละครึ่ง โดยนายภูมิธรรม ได้ชี้แจงจนเป็นที่พอใจของ สส.ก่อนที่นายเศรษฐา ชี้แจงว่า ทุกอย่างเป็นอย่างที่นายภูมิธรรมพูด รัฐบาลพร้อมรับฟังเพื่อนำข้อคิดเห็นไปสู่การแก้ปัญหา และถือว่าเราต้องช่วยกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในที่ประชุมพรรคไม่ได้เอ่ยถึงกรณีนายวรชัย เหมะ ที่ปรึกษาของรองนายกฯ วิจารณ์การทำงานของนายกฯแต่อย่างใด

“อนุทิน” ฮึ่มนโยบายเรือธงถูกหัก

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึง กรณีกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เตรียมนำเรื่องกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด เข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (กรรมการ ป.ป.ส.) ว่า ตนและพรรค ภท.ไม่เห็นด้วยกับคณะกรรมการควบคุมยาเสพติดของ สธ.เพราะเป็นกรรมการชุดเดียวกันที่เคยแนะนำตนสมัยเป็น รมว.สธ.ให้นำกัญชาออกจากบัญชียาเสพติด ตอนนั้นเชื่อหมอ สธ.พาตนไปทำแคมเปญเรื่องกัญชา ไม่มีโรงพยาบาลไหนที่ไม่มีคลินิกกัญชา ขอย้ำหากออก พ.ร.บ.กัญชา ทุกอย่างจบ เพราะอย่าลืมว่าเวลาเจรจาการเมืองต้องสนับสนุนนโยบายของพรรคร่วมทุกพรรคอยู่แล้ว เราไม่อยากให้มีปัญหา ไม่ได้ห่วงเรื่องกัญชาห่วงเรื่องภาพรวม ถ้าปรับเปลี่ยนบ่อยๆหรือปรับเปลี่ยนตามใจผู้บริหารใครจะมาลงทุน วันหนึ่งหากปรับ ครม.แล้วภท.ไปดู สธ.อีก ต้องเอากัญชาออกจากยาเสพติดตามนโยบายเรือธงของ ภท.แบบนี้คนมาลงทุนก็ขาดความเชื่อมั่น นักลงทุนต้องการความยั่งยืนไม่ใช่มิติกัญชาอย่างเดียว แต่หมายถึงส่วนอื่นๆด้วย

ดิ้นสู้ตายตามสัญชาตญาณ

เมื่อถามว่า จะต่อสู้ในชั้นคณะกรรมการ ป.ป.ส.อย่างไร นายอนุทินตอบว่า ไม่ต่อสู้ ไม่เคยสู้ใครอยู่แล้ว แต่จะใช้เหตุผล โหวตก็แพ้ แต่จะโหวตโน ถ้าโหวตโดยใช้มติกระทรวงมหาดไทยมีแค่ 3-4 เสียง แต่ไม่ทราบว่า ปลัดกระทรวงมหาดไทยจะเห็นด้วยกับตนหรือไม่ เราจะไปบังคับทุกคนได้อย่างไร ตนไม่เคยสั่งใครให้โหวตตาม ทุกคนต้องใช้ดุลพินิจของตัวเอง เมื่อถามว่า ถูกมองเป็นการหักหน้าหรือไม่ นายอนุทินตอบว่า ไม่ใช่ถูกหักหน้า หากถูกหักหน้าคงไปร่วมประท้วงกับผู้ชุมนุมต้านกัญชากลับไปเป็นยาเสพติดที่หน้าทำเนียบแล้ว เมื่อถามว่าปฏิบัติตามข้อสั่งการนายกฯทุกเรื่อง รวมถึงสนับสนุนโยบายพรรคพท. อาทิ ดิจิทัลวอลเล็ต นโยบายให้ต่างชาติเช่าที่ดิน 99 ปี ให้ต่างชาติซื้อคอนโด 75% แต่นโยบายของภท.กลับถูกหักหน้า นายอนุทินตอบว่า ไม่ได้ถูกหักหน้า สื่อชอบถามให้มีเรื่องกัน ทุกอย่างเป็นไปตามสัญชาตญาณ วันนี้ไม่ได้ดูแล สธ.จะไปแทรกแซงรมว.สธ.ได้อย่างไร แต่ไม่อยากให้มีบรรทัดฐานว่า รัฐมนตรีคนไหนเข้ามาแล้วทำตามใจรัฐมนตรี ควรทำให้เป็นกฎหมายเพื่อความยั่งยืน

“ลุงป้อม” บายดินเนอร์พรรคร่วม

ที่ทำเนียบรัฐบาล ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรฯ ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าพรรค พปชร. เป็นเจ้าภาพงานเลี้ยงพรรคร่วมรัฐบาลว่า จะจัดขึ้นในวันที่ 15 ก.ค. เวลา 18.00 น. ส่วนสถานที่ยังพิจารณาอยู่ โดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรค พปชร.มอบหมายให้ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติฯ ประธานที่ปรึกษาพรรค พปชร.เข้าร่วมงานแทน ต่อมาเวลา 15.00 น. ที่พรรค พปชร. พล.อ.ประวิตรกล่าวกับผู้สื่อข่าวหลังประชุมพรรค พปชร.ว่า สบายดี ได้กำชับลูกพรรคทุกคนให้ทำงานอย่างดี ส่วนงานเลี้ยงอาหารค่ำพรรคร่วมรัฐบาลวันที่ 15 ก.ค. มี ร.อ.ธรรมนัสอยู่แล้วไม่จำเป็นต้องไป

นายกฯรับรางวัลศิษย์เก่าดีเด่น

เมื่อเวลา 14.00 น. ที่ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ รับมอบรางวัล The President’s Award of Service จากคณะผู้บริหารและผู้แทนจากมหาวิทยาลัยบัณฑิตศึกษาแคลร์มอนต์ รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ที่มอบแก่ศิษย์เก่าที่ทำคุณประโยชน์ โดยนายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกฯ เปิดเผยว่า นายกฯยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับรางวัล ย้ำความมุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพชีวิตของชาวไทยมากขึ้น เฉพาะการส่งเสริมให้เยาวชนไทยรับการศึกษาที่สูงขึ้น

ครม.ไฟเขียวงบทหารเออร์ลี่

น.ส.เกณิกา อุ่นจิตร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ครม.มีมติเห็นชอบโครงการเกษียณอายุราชการก่อนกำหนดของกระทรวงกลาโหม ปีงบประมาณ 2568 -2570 ตามแผนปรับลดกำลังพลนายทหารชั้นนายพลให้เหลือร้อยละ 50 ของกระทรวงกลาโหมตั้งแต่งบฯปี 2551-2571 เริ่มดำเนินการเดือน ก.ค.2567 เพื่อให้ทันเกษียณอายุราชการภายในเดือน ต.ค.2567 โดยใช้วงเงิน 600 ล้านบาท แบ่งระยะเวลา 3 ปี ตั้งแต่งบฯปี 2568-2570 วงเงิน 200 ล้านบาท/ปี ได้ประมาณการผู้เข้าร่วมโครงการฯรวม 3 ปี ประมาณ 732 นาย (ปีละ 244 นาย) สามารถประหยัดงบฯได้ 4,479.84 ล้านบาท

ก.ก.ติวเข้ม สส.เน้นงานสภาฯ 3 ก.

เมื่อเวลา 13.00 น. ที่รัฐสภา พรรค ก.ก.นัดประชุม สส.ประจำสัปดาห์ มีวาระเตรียมการประชุมสภาฯ มี สส.เข้าร่วมประชุมพร้อมเพรียง โดยนายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ โฆษกพรรค ก.ก.ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุม ว่า วาระประชุมตามคอนเซปต์ 3 ก. ได้แก่ กฎหมาย, กระทู้ และกรรมาธิการ โดย ก.กฎหมาย มี 2 ฉบับ คือ ร่างแก้ไข พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง ที่นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ เสนอสร้างความโปร่งใสเงินนอกงบประมาณ และร่าง ป.แพ่งและพาณิชย์หรือกฎหมายไม่ตีเด็ก ก.กระทู้ ที่หวังให้นายกฯและรัฐมนตรีมาตอบกระทู้ เพราะสภาฯเป็นเวทีสื่อสาร มีกระทู้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรค ถามนายกฯ และ ก.กรรมาธิการ มีประเด็นร้อนอุทยานแห่งชาติทับลาน ที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ

ขู่บอร์ด ธ.ก.ส.แจกเงินผิด ก.ม.

นายจุลพงศ์ อยู่เกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) แถลงกรณีนายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง ระบุรัฐบาลยังไม่ได้สอบถามคณะกรรมการกฤษฎีกา เรื่องการนำเงินจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) มาใช้ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ตผิดวัตถุประสงค์หรือไม่ ว่า ธ.ก.ส.จะนำออกเงินทดรอง เพื่อแจกในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 170,000 ล้านบาท ขัด พ.ร.บ. ธ.ก.ส.2509 อย่างแน่นอน ขัดวัตถุประสงค์ที่ต้องนำไปเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์การเกษตร หรือส่งเสริมอาชีพทางการเกษตร หากรัฐบาลอ้างมาตรา 28 พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ มาตรา 28 ก็บัญญัติว่า หน่วยงานรัฐจะทำตามที่ได้รับการมอบหมายจากรัฐบาลนั้น ให้กระทำได้เฉพาะกรณีที่อยู่ภายในขอบเขตแห่งวัตถุประสงค์ของหน่วยงานนั้น ดังนั้น กรณีนี้ขอเตือนบอร์ด ธ.ก.ส.หากลงมติให้นำเงินไปใช้ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต เสี่ยงต่อการทำผิดกฎหมาย

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

‘ไทย’ ร่วงลงสองอันดับ! ใน IMD World Talent Ranking ปี 2024 ส่วนสิงคโปร์นำโด่ง

จากการจัดอันดับ “ประเทศที่มีความเป็นเลิศในด้านบุคลากรผู้มีความสามารถประจำปี 2024” (The 2024 IMD Worl...

Apple วางขาย iPhone 16 พร้อมนวัตกรรมความยั่งยืน ใช้อะลูมิเนียมรีไซเคิล 85%

Apple ได้สร้างมาตรฐานใหม่ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีอีกครั้ง ด้วยการวางขาย iPhone 16 ที่เน้นความยั่งยืน โด...

ผล 1 ปีกับความคืบหน้า ESG Symposium ส่งไทยสู่สังคมคาร์บอนต่ำ สู้โลกเดือด

เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน เห็นผลเป็นรูปธรรม ตาม 4 ข้อเสนอจากงาน ESG Symposium 2023 ทั้งสร้าง "สระบุรี...

‘ลาซาด้า’ เดินเกมทำกำไร ชู '3 กลยุทธ์' สร้างยุคใหม่อีคอมเมิร์ซ

วาริสฐา เกียรติภิญโญชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ลาซาด้า ประเทศไทย กล่าวว่า ลาซาด้ายังเดินหน้าลงทุนใน...