KEX เพิ่มทุนใช้หนี้ ขายผู้ถือหุ้นเดิม 3.2 บาท คาดได้เงิน 9 พันล้าน

นายคิน เฮ็ง เน็ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KEX เปิดเผยมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 7/2567 ซึ่งประชุมเมื่อวันที่ 13 มิ.ย. 2567 ว่า ที่ประชุมกรรมการมีมติให้เสนอต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2567 เพื่อพิจารณาอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ

โดยเพิ่มจำนวน 1,409,250,000 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิมจำนวน 890,000,000 บาท เป็นทุนจดทะเบียนใหม่จำนวน 2,299,250,000 บาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 2,818,500,000 หุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท 
 

พร้อมกันนี้มีมติให้เสนอต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2567 เพื่อพิจารณาอนุมัติการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนตามวัตถุประสงค์ ดังต่อไปนี้

การจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 2,812,500,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท เพื่อเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น (Rights Offering) ไม่ว่าคราวเดียวหรือหลายคราว 

ในอัตราส่วนการจัดสรรหุ้น 0.6196 หุ้นสามัญเดิม ต่อ 1 หุ้นสามัญเพิ่มทุน โดยมีราคาเสนอขายหุ้นละ 3.20 บาท กรณีที่มีเศษของหุ้นที่เกิดจากการคำนวณให้ปัดเศษของหุ้นนั้นทิ้ง 
 

ทั้งนี้ ผู้ถือหุ้นเดิมอาจจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนเกินกว่าสิทธิของตนได้ (Oversubscription) โดยที่ผู้ถือหุ้นเดิมที่จองซื้อเกินกว่าสิทธิจะได้รับการจัดสรรหุ้นที่จองซื้อเกินกว่าสิทธิก็ต่อเมื่อมีหุ้นเหลือจากการจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทฯ ที่ได้จองซื้อตามสิทธิครบถ้วนทั้งหมดแล้วเท่านั้น

การจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทที่จองซื้อเกินกว่าสิทธิ ไม่ว่าในสถานการณ์ใดๆ ก็ตาม จะต้องไม่ทำให้ผู้ถือหุ้นนั้น และบุคคลที่กระทำการร่วมกัน (Concert Party) ถือหุ้นเพิ่มขึ้นจนถึงหรือข้ามจุดที่ต้องทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ (Tender Offer)  

อย่างไรก็ตาม การจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทที่จองซื้อเกินกว่าสิทธิตามรายละเอียดข้างต้น จะต้องไม่ทำให้ผู้ที่จองซื้อเกินกว่าสิทธิรายใดถือหุ้นของบริษัทฯในลักษณะที่เป็นการฝ่าฝืนข้อจำกัดการถือหุ้นของคนต่างด้าวตามที่ระบุไว้ในข้อบังคับของบริษัทฯ ซึ่งปัจจุบันมีข้อจำกัดห้ามคนต่างด้าวถือหุ้นเกินร้อยละ 49 ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด

นอกจากนี้ ในกรณีที่มีหุ้นสามัญเพิ่มทุนเหลือจากการจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทฯ ตามสัดส่วนการถือหุ้น (Rights Offering) และการจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมที่จองซื้อเกินกว่าสิทธิ (Oversubscription) แต่ละราย บริษัทจะนำเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติการลดทุนจดทะเบียนของบริษัทโดยการตัดหุ้นสามัญเพิ่มทุนส่วนที่เหลือจากการเสนอขายดังกล่าวทิ้งต่อไป

ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทกำหนดวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนตามสัดส่วนการถือหุ้น (Rights Offering) (Record Date) ในวันที่ 2 ส.ค. 2567 

และกำหนดวันจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ ในช่วงระหว่างวันที่ 21 ส.ค. 2567 ถึงวันที่ 27 ส.ค. 2567 (รวม 5 วันทำการ) อย่างไรก็ดี สิทธิในการจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนยังมีความไม่แน่นอนเนื่องจากต้องรอการอนุมัติจากที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2567
 
อีกทั้ง กำหนดการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 6,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท เพื่อรองรับการปรับสิทธิของใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ภายใต้โครงการเสนอขายหลักทรัพย์ต่อกรรมการ ผู้บริหารและ/หรือ พนักงานของบริษัท (“ESOP Warrants”)  เนื่องจากการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น (Rights Offering) ในกรณีที่ราคาเฉลี่ยต่อหุ้นของหุ้นสามัญเพิ่มทุนมีราคาต่ำกว่าร้อยละ 90 ของราคาตลาดของหุ้นสามัญของบริษัท  

ในการนี้ บริษัทได้คำนวณประมาณการราคาการใช้สิทธิ และอัตราการใช้สิทธิที่ปรับปรุงใหม่ ราคาการใช้สิทธิเท่ากับ 3.65 บาทต่อหุ้น โดยเป็นเพียงการประมาณการเท่านั้น

จากการกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นเดิมที่มีสิทธิได้รับการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนตามสัดส่วนการถือหุ้น (Rights Offering) (Record Date) ในวันที่ 2 ส.ค. 2567   ดังนั้น วันแรกที่ผู้ซื้อหุ้นสามัญจะไม่ได้รับสิทธิในการจองซื้อหุ้นสามัญที่ออกใหม่ (วันที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ประกาศเครื่องหมาย“XR”) คือ วันที่ 1 ส.ค. 2567

ทั้งนี้ วันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิในการเข้าร่วมประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2567 (Record Date) ยังคงกำหนดเป็น วันที่ 28 มิถุนายน 2567 

วัตถุประสงค์ของการเพิ่มทุน จะนำเงินที่ได้จากการเพิ่มทุนมาเพื่อใช้ชำระคืนหนี้เงินกู้ยืมของบริษัทเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางการเงินเพื่อให้บริษัทมีโครงสร้างเงินทุนและอัตราส่วนทางการเงินที่เหมาะสม และเป็นไปตามข้อกำหนดของสถาบันการเงิน และรองรับโอกาสในการจัดหาเงินทุนในอนาคต

นอกจากนี้ บริษัทจะใช้เงินเพิ่มทุนเพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง การซื้อยานพาหนะขนส่ง การบำรุงรักษาอุปกรณ์เพื่อการดำเนินงาน เป็นต้น ซึ่งจะช่วยเสริมสภาพคล่องของบริษัทฯ เพื่อสนับสนุนการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการลงทุนที่จำเป็นสำหรับการรักษาความสามารถในการแข่งขันของบริษัทในระยะยาว

บริษัทจะนำเงินที่ได้รับจากการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้นจำนวนรวมประมาณ 9,000 ล้านบาท ไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์ ดังนี้


 

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

‘ไต้ฝุ่นยางิ’ ทำ ‘เศรษฐกิจเวียดนาม’ เสียหายกว่า 5 หมื่นล้านบาท

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า พายุไต้ฝุ่นยางิ ถล่มเมียนมา เวียดนาม ลาว และไทยด้วยกำลังลมที่แรงมาก และทำใ...

ท่วมหนักสุด 'ในรอบ 3 ทศวรรษ' พายุบอริสถล่มยุโรป ผลกระทบจากโลกร้อน

จากหย่อมความกดอากาศต่ำที่ชื่อว่า “พายุบอริส” ส่งผลให้มีฝนตกหนักจากออสเตรียไปจนถึงโรมาเนีย จนเกิด “น้...

ฮามาสโวความสามารถสูง ทำสงครามกาซาต่อได้แม้สูญเสีย

นายโอซามา ฮัมดัน ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวเอเอฟพี เมื่อวันที่ 15 ก.ย. ที่นครอิสตันบูลของตุรกี ระบุ “ขบวนก...

สงครามสู้ฮามาสและยอดส่งออกร่วง กดดันจีดีพี ‘อิสราเอล’ Q2 ให้โตเพียง 0.7%

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจของอิสราเอลในไตรมาสที่สองชะลอตัวมากกว่าที่คาดการณ์ไ...