วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.เคจีไอฯ TOP ประเด็น ESG เป็นความท้าทายของกรณีน้ำมันรั่ว
วันที่ส่ง: 06/09/2023 - ผู้เขียน: กรุงเทพธุรกิจ
น้ำมันรั่วที่ SBM-2 เมื่อสองวันที่แล้ว
เมื่อวันที่ 3 กันยายน ประมาณ 21.00 น. เกิดเหตุน้ำมันรั่วประมาณ 50,000 – 100,000 ลิตร ขณะขนถ่ายน้ำมันดิบที่ SBM-2 จากนั้นบริษัทได้เข้าควบคุมสถานการณ์บริเวณที่เกิดเหตุทันที โดยได้ทำการปิดวาล์วท่อน้ำมันที่เชื่อมกับ SBM-2 โดยบริษัทได้มีการวางทุ่นล้อมคราบน้ำมัน (oil boom) รอบเรือบรรทุกน้ำมันอยู่แล้ว ทำให้ปริมาณน้ำมันที่รั่วส่วนใหญ่ถูกกักเก็บไว้ใน oil boom พร้อมทั้งมีการเตรียมสารเคมี เพื่อขจัดคราบน้ำมันและป้องกันการลุกลามของน้ำมันในทะเล สำหรับปริมาณน้ำมันรั่วส่วนที่เหลือ (คาดว่าจะมีปริมาณน้อย) กระจายอยู่ประมาณ 5 กม. จากพื้นที่ SBM-2 โดยในขณะนี้บริษัทสามารถคุม
สถานการณ์ได้แล้ว และไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว นอกจากนี้ ผู้บริหารคาดว่าเหตุการณ์น้ำมันรั่วครั้งนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อการเดินเครื่องโรงกลั่นน้ำมันของบริษัทอย่างมีนัยสำคัญ และบริษัทมีประกันที่คุ้มครองความเสียหายดังต่อไปนี้
i) ความเสียหายอันเกิดจากทรัพย์สิน: วงเงินคุ้มครองอยู่ที่ 255 ล้านดอลลาร์ฯ สำหรับอุปกรณ์ และ 761 ล้านดอลลาร์ฯ สำหรับสต็อกน้ำมันดิบ (ความรับผิดส่วนแรก 50 ล้านดอลลาร์ฯ ต่อครั้ง) ซึ่งครอบคลุมมูลค่าของน้ำมันดิบที่เสียหายในในกรณีนี้ด้วย แต่เราคาดว่ามูลค่าความเสียหายจะต่ำกว่าความรับผิดส่วนแรก
ii) ความเสียหายอันเกิดจากธุรกิจหยุดชะงัก: วงเงินคุ้มครองอยู่ที่ 1,121 ล้านดอลลาร์ฯ (ความรับผิดส่วนแรก 60 วันต่อครั้ง)
iii) ความรับผิดต่อบุคคลที่สาม: วงเงินคุ้มครองอยู่ที่ 50 ล้านดอลลาร์ฯ (ความรับผิดส่วนแรก US$10,000 ดอลลาร์ฯ ต่อครั้ง) ซึ่งครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการขจัดครบน้ำมันด้วย
iv) ความรับผิดต่อสิ่งแวดล้อม: วงเงินคุ้มครองอยู่ที่ 25 ล้านดอลลาร์ฯ (ความรับผิดส่วนแรก 1 ล้านดอลลาร์ฯ ต่อครั้ง) ซึ่งครอบคลุมค่าชดเชยต่อบุคคลที่สามจากการสูญเสียรายได้เพราะน้ำมันรั่วกรณีนี้ด้วย
คาดว่าจะใช้เวลาซ่อม SBM-2 อย่างน้อยหนึ่งเดือน
เราคาดว่ากรณีน้ำมันรั่วของ TOP จะเกิดบริเวณสายส่งน้ำมันลอยน้ำ (floating hoses) ของ SBM-2 ดังแสดงใน Figure 1 ซึ่งคล้ายๆ กับกรณีน้ำมันรั่วของ PTT Global Chemical (PTTG.BK/PTTGC TB)* เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2556 ซึ่งเกิดจากความเสียหายที่วัสดุของสายส่งน้ำมันลอยน้ำ โดยในครั้งนั้น PTTGC ใช้เวลาประมาณหนึ่งเดือนในการซ่อม, เปลี่ยนอุปกรณ์ใหม่ และกลับมาเปิดดำเนินการทุ่นผูกเรือกลางทะเล (Single Point Mooring: SPM) ได้อีกครั้ง ในขณะเดียวกันกรณีน้ำมันรั่วของ Star Petroleum Refining (SPRC.BK/SPRC TB)* เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2565 เกิดจากการรั่วไหลของอุปกรณ์ใต้ทะเล ทำให้การซ่อมแซมยากกว่า และกระบวนการขออนุญาตหน่วยงานทางการเพื่อดำเนินการซ่อมแซมมีความเข้มงวดมากกว่า ทั้งนี้ SPRC คาดว่าจะกลับมาเปิดดำเนินงาน SPM ได้อีกครั้งภายใน 4Q66F ซึ่งหมายความว่าน่าจะใช้เวลาซ่อมนานถึงเกือบสองปี
Valuation
เราคาดว่าต้นทุนในการดำเนินงานโรงกลั่นของ TOP จะสูงขึ้นประมาณ US$1/bbl เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นจากการขนส่งน้ำมันแบบ ship-to-ship เพราะบริษัทมีแผนจะใช้ SBM-1 (capacity ต่ำกว่า) แทนในช่วงที่มีการซ่อม SBM-2 นอกจากนี้ เรายังประเมินว่าต้นทุนการดำเนินงานของ TOP ที่เพิ่มขึ้นทุกๆ US$1/bbl เป็นเวลาหนึ่งเดือน จะกระทบกับประมาณการกำไรของเราประมาณ 250 ล้านบาท (ประมาณ 2% ของประมาณการกำไรเต็มปีของเรา) และจะกระทบกับราคาเป้าหมายของเราประมาณ 0.50 บาท/หุ้น (ประมาณ 1% ของราคาเป้าหมายของเรา) ทั้งนี้เนื่องจากเรามองว่า downside จากกรณีน้ำมันรั่วค่อนข้างจำกัด ดังนั้นเราจึงยังคงคำแนะนำซื้อ TOP โดยประเมินราคาเป้าหมายปี 2566F ที่ 62.00 บาท อิงจาก EV/EBITDA ที่ 6.5x แต่เราถอด TOP ออกจากรายการหุ้นเด่นกลุ่มพลังงานของเรา เนื่องจากประเด็น ESG โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของคะแนนทางด้านสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ เรายังเชื่อว่าราคาหุ้น TOP จะได้รับผลกระทบจากประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
Risk
ความผันผวนของราคาน้ำมันดิบ, GRM และ spread ของผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี รวมถึงกรณีน้ำมันรั่วเมื่อวันที่ 3 กันยายน และการเลื่อนกำหนด COD ของโครงการ CFP จาก 3Q66 เป็นปี 2568
คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ
‘ไต้ฝุ่นยางิ’ ทำ ‘เศรษฐกิจเวียดนาม’ เสียหายกว่า 5 หมื่นล้านบาท
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า พายุไต้ฝุ่นยางิ ถล่มเมียนมา เวียดนาม ลาว และไทยด้วยกำลังลมที่แรงมาก และทำใ...
ท่วมหนักสุด 'ในรอบ 3 ทศวรรษ' พายุบอริสถล่มยุโรป ผลกระทบจากโลกร้อน
จากหย่อมความกดอากาศต่ำที่ชื่อว่า “พายุบอริส” ส่งผลให้มีฝนตกหนักจากออสเตรียไปจนถึงโรมาเนีย จนเกิด “น้...
ฮามาสโวความสามารถสูง ทำสงครามกาซาต่อได้แม้สูญเสีย
นายโอซามา ฮัมดัน ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวเอเอฟพี เมื่อวันที่ 15 ก.ย. ที่นครอิสตันบูลของตุรกี ระบุ “ขบวนก...
สงครามสู้ฮามาสและยอดส่งออกร่วง กดดันจีดีพี ‘อิสราเอล’ Q2 ให้โตเพียง 0.7%
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจของอิสราเอลในไตรมาสที่สองชะลอตัวมากกว่าที่คาดการณ์ไ...
ยอดวิว