Thailand Turbulence ประเทศไทยตกหลุมอากาศ

ตกใจกันถ้วนหน้ากับตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ไทยประจำไตรมาสหนึ่งขยายตัว 1.5% ส่งผลสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ปรับลดคาดการณ์จีดีพีไทยประจำปี 2567 จากเดิม 2.7% มาอยู่ที่ 2.0-3.0% โดยมีค่ากลางที่ 2.5% ซึ่งตัวเลข 1.5% นี้ถือว่าดีกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ ทั้งยังช่วยให้ไทยไม่ต้องเจอกับปัญหาเศรษฐกิจถดถอยทางเทคนิค (Technical Recession) และที่เติบโตขนาดนี้ได้ เพราะมีแรงส่งจากการบริโภคภายในประเทศและภาคท่องเที่ยวมาช่วยเอาไว้  

ก็ในเมื่อตัวเลขออกมาดีเกินคาด (1.5%) แล้วยังจะมาตกอกตกใจอะไรกันอีก? ในโลกแห่งการเปรียบเทียบหันไปมองจีดีพีเพื่อนบ้าน ปรากฏว่าเรารั้งท้ายในอาเซียน ดูกันเฉพาะไตรมาสหนึ่งในบรรดาห้าประเทศอาเซียนรุ่นก่อตั้ง เวียดนามโต 5.7% มาเลเซีย 4.2% อินโดนีเซีย 5.1% ฟิลิปปินส์ 5.7% ส่วนสิงคโปร์ตัวเลขล่าสุดออกมาเมื่อวานนี้ (23 พ.ค.) จีดีพีไตรมาสหนึ่งขยายตัว 2.7% ดูอาการแล้วเศรษฐกิจไทยมีปัญหาโตต่ำเรื้อรัง สาเหตุใหญ่มาจากปัจจัยภายนอกที่ไทยควบคุมไม่ได้ เช่น ความไม่แน่นอนจากภูมิรัฐศาสตร์ สงครามกาซา สงครามรัสเซีย-ยูเครน ยังไม่มีวี่แววยุติ, สหรัฐ-จีน ทำสงครามการค้าและมีมาตรการกีดกันทางการค้าออกมา 

นี่คือปัจจัยภายนอกแล้วปัจจัยภายในมีหรือไม่? เดือนนี้พฤษภาคม หากจำกันได้เมื่อวันที่ 14 พ.ค. เพิ่งครบรอบ 1 ปีการเลือกตั้งหลังยุคพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรัฐประหารผู้ผันตัวมาเป็นนายกรัฐมนตรี จากวันเลือกตั้ง 14 พ.ค.2566 ผ่านไปกว่าสามเดือน คณะรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน เข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนรับหน้าที่ เท่ากับว่าเป็นสามเดือนกว่าที่ว่างเปล่ารัฐบาลรักษาการทำนโยบายใหม่ๆ ไม่ได้ นี่คือเวลาที่ประเทศไทยเสียไปกับกระบวนการเลือกตั้งตามรัฐธรรมนญู 2560 อย่างไรก็ตาม นั่นเป็นเรื่องของอดีตไม่อยากฟื้นฝอยหาตะเข็บ มาดูเรื่องปัจจุบันกันดีกว่า 

วานนี้ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมาก 6 ต่อ 3 เสียง มีคำสั่งรับคำร้องนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีไว้พิจารณา โดยไม่สั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ กรณีที่นายกฯ เศรษฐาแต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบานเป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ทั้งที่รู้ว่าอยู่แล้วว่านายพิชิต ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งนายกฯ ต้องชี้แจงภายใน 15 วัน หรือขยายเวลาออกไป ระหว่างนั้นศาลรัฐธรรมนูญจะแสวงหาข้อเท็จจริงไปพร้อมๆ กันด้วย 

นี่เป็นกระบวนการที่กำหนดไว้ตามรัฐธรรมนูญ ปี 2560 ถูกต้องตามกฎหมายทุกประการ วานนี้ระหว่างที่ศาลมีคำสั่ง นายกฯ เศรษฐาอยู่ที่ญี่ปุ่นกำลังหารือกับผู้บริหารบริษัทมิตซุย, อายิโนะโมะโต๊ะ และโซนี บิ๊กเนมที่คนไทยคุ้นเคยเป็นอย่างดี มองในมุมนักธุรกิจ ลองจินตนาการดูว่า เมื่อมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น บรรดานักลงทุนต่างชาติที่เคยคุยกับนายกฯ เศรษฐาจะคิดอย่างไร จะกล้ามาลงทุนในไทยอีกหรือไม่ถ้ามองในแง่ความต่อเนื่องของรัฐบาลพลเรือน

อดเชื่อมโยงไม่ได้กับเหตุการณ์สิงคโปร์แอร์ไลน์ตกหลุมอากาศอย่างแรงจนต้องลงจอดฉุกเฉินที่สนามบินสุวรรณภูมิเมื่อวันก่อน หากรัฐบาลไทยตกหลุมอากาศอย่างแรงขึ้นมาบ้างคนที่บาดเจ็บล้มตายหนีไม่พ้นประชาชนตาดำๆ ถึงคราวนี้ไม่ต้องร้องแรกแหกกระเชอว่าทำไมเศรษฐกิจไทยโตช้า

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

‘ไต้ฝุ่นยางิ’ ทำ ‘เศรษฐกิจเวียดนาม’ เสียหายกว่า 5 หมื่นล้านบาท

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า พายุไต้ฝุ่นยางิ ถล่มเมียนมา เวียดนาม ลาว และไทยด้วยกำลังลมที่แรงมาก และทำใ...

ท่วมหนักสุด 'ในรอบ 3 ทศวรรษ' พายุบอริสถล่มยุโรป ผลกระทบจากโลกร้อน

จากหย่อมความกดอากาศต่ำที่ชื่อว่า “พายุบอริส” ส่งผลให้มีฝนตกหนักจากออสเตรียไปจนถึงโรมาเนีย จนเกิด “น้...

ฮามาสโวความสามารถสูง ทำสงครามกาซาต่อได้แม้สูญเสีย

นายโอซามา ฮัมดัน ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวเอเอฟพี เมื่อวันที่ 15 ก.ย. ที่นครอิสตันบูลของตุรกี ระบุ “ขบวนก...

สงครามสู้ฮามาสและยอดส่งออกร่วง กดดันจีดีพี ‘อิสราเอล’ Q2 ให้โตเพียง 0.7%

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจของอิสราเอลในไตรมาสที่สองชะลอตัวมากกว่าที่คาดการณ์ไ...