‘บอนด์อินเดีย’ จ่อผงาดดัชนีโลก มิ.ย.นี้ JPMorgan คาดดึงเงินเข้า 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์
วันที่ส่ง: 10/05/2024 - ผู้เขียน: กรุงเทพธุรกิจ
“เจพีมอร์แกน เชส” ธนาคารขนาดใหญ่ที่สุดของสหรัฐเตรียมนำ ตราสารหนี้อินเดีย เข้ารวมในการคำนวณดัชนีตราสารหนี้ของตลาดเกิดใหม่ หรือ Government Bond Index-Emerging Markets (GBI-EM) ในวันที่ 28 มิ.ย.2567 โดยได้รับการสนับสนุนจากลูกค้าส่วนใหญ่ที่พร้อมเข้าซื้อขายตราสารทางการเงินนี้
“กลอเรีย คิม” ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยดัชนีระดับโลกของเจพีมอร์แกน ประมาณการว่า เงินทุนไหลเข้าจากต่างประเทศจะอยู่ระหว่าง 2 - 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์โดยอิงตามน้ำหนักที่เป็นกลางของดัชนี ซึ่งหมายถึงสัดส่วนการลงทุนในแต่ละประเทศสมาชิกของดัชนีจะมีการปรับเปลี่ยนเพื่อรักษาความเสี่ยงโดยรวมของดัชนี
รวมทั้ง ตลาดอินเดียได้รับเสียงตอบรับจากตลาดส่วนใหญ่เป็นไปในเชิงบวกเนื่องจากลูกค้าต้องการใช้ข้อมูลดัชนีเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการซื้อขายตราสารทางการเงินในตลาดพันธบัตรรัฐบาลอินเดีย
“จากกระบวนการให้คําปรึกษาด้านการกํากับดูแลดัชนีประจําปี ข้อเสนอแนะของตลาดจนถึงขณะนี้ส่วนใหญ่เป็นไปในเชิงบวก โดยลูกค้าดัชนีส่วนใหญ่ของเราตั้งค่าให้ซื้อขายในตลาด IGB แล้ว” กลอเรีย คิม กล่าว
คิม กล่าวเพิ่มเติมว่า "แน่นอนว่าการเข้าสู่ตลาดใหม่ย่อมมีปัญหาในช่วงเริ่มต้นเสมอ แต่ประเด็นที่เราพบส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับความพร้อมด้านการดำเนินงานและความยืดหยุ่นของคู่เทรด และธนาคารผู้ดูแลหลักทรัพย์มากกว่าอุปสรรคในการเข้าสู่ตลาด" อย่างไรก็ดี ต้องคำนึงถึงการปฏิรูปที่รัฐบาลอินเดียได้ดำเนินการไว้ด้วย
เมื่อกันยายนปีที่แล้ว JPMorgan เคยประกาศว่าจะรวมพันธบัตรของอินเดียไว้ในดัชนีตลาดเกิดใหม่ โดยจะมีสัดส่วนการลงทุนสูงสุดไม่เกิน 10% นอกจากนี้ เจพี มอร์แกนประเมินว่า ปัจจุบันดัชนีตลาดเกิดใหม่มีมูลค่าการบริหารจัดการสินทรัพย์อยู่ที่ 2.16 แสนล้านดอลลาร์
"เราเคยเห็นในอดีตว่า สินทรัพย์ที่ติดตามดัชนีมีแนวโน้มคงที่ โดยทั่วไปแล้วจะมีการลงทุนอย่างต่อเนื่อง" คิมกล่าว
บอนด์อินเดียโชว์ฟอร์มเด่น ดึงเงินไหลเข้าไม่หยุด
ตั้งแต่เจพี มอร์แกนประกาศรวมพันธบัตรรัฐบาลอินเดียไว้ในดัชนีตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้ว ตลาดตราสารหนี้ของอินเดียได้รับเงินทุนไหลเข้าราว 8 พันล้านดอลลาร์ โดยมีการไหลเข้าอย่างเต็มที่ แม้ว่าจะมีเงินไหลออกบ้างในเดือนเมษายน ซึ่งตรงกับช่วงที่ตลาดตราสารหนี้ทั่วโลกเกิดการเทขาย
ดัชนีชี้วัดตราสารหนี้ของบลูมเบิร์กบ่งชี้ว่า พันธบัตรรัฐบาลอินเดียมีผลตอบแทนดีกว่าพันธบัตรของประเทศอื่น ๆ ในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ ซึ่งคาดว่าเงินทุนที่ไหลเข้าเกิดขึ้นจากการที่อินเดียจะรวมอยู่ในดัชนีระดับโลกครั้งนี้ ซึ่งส่งผลกระทบต่อสินทรัพย์ประเภทต่าง ๆ ของอินเดีย ทำให้พันธบัตรของบริษัทเอกชนอินเดียก็มีผลตอบแทนที่ดีกว่าพันธบัตรของบริษัทในประเทศอื่น ๆ ในกลุ่มตลาดเกิดใหม่เช่นกัน
นอกจากนี้ เงินสำรองระหว่างประเทศของอินเดียยังแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ปัจจัยเหล่านี้ช่วยให้สกุลเงินรูปีแข็งค่าขึ้น แม้ดอลลาร์จะแข็งค่าเทียบกับสกุลเงินอื่น ๆ ทั่วโลกก็ตาม
อินเดียปฏิรูปตลาดเงินรับนักลงทุนต่างชาติ
นักลงทุนต่างชาติแห่ซื้อพันธบัตรอินเดีย ส่งผลกระทบเชิงบวกต่อตลาดโดยรวม ทางบริษัท Bloomberg Index Services Ltd. ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ Bloomberg LP บริษัทที่ให้บริการข้อมูลทางการเงินชั้นนำระดับโลก ก็มีแผนที่จะรวมประเทศอินเดียไว้ในดัชนีตลาดเกิดใหม่ของตัวเองเช่นกัน โดยคาดว่าจะมีผลตั้งแต่เดือนมกราคมปีหน้า การตัดสินใจดังกล่าวถือเป็นการแข่งขันกับผู้ให้บริการดัชนีรายอื่น ๆ
อย่างไรก็ตาม การที่อินเดียจะเข้าสู่ดัชนีโลกนั้น นักลงทุนต่างชาติยังมีความกังวล เนื่องจากขั้นตอนการเตรียมความพร้อมเพื่อเข้ามาซื้อขายในตลาดอินเดียมีความยุ่งยาก โดยเฉพาะกระบวนการเอกสารที่ซับซ้อน
เจพี มอร์แกน ชี้ว่ารัฐบาลอินเดียได้ดำเนินการปฏิรูปตลาดเพื่อดึงดูดนักลงทุนต่างชาติอย่างมากมาย ซึ่งรายละเอียดของการปฏิรูป ได้แก่ การขยายเวลาการจับคู่คำสั่งซื้อขายสำหรับนักลงทุนสถาบันต่างชาติ รวมทั้งการปรับกระบวนการยื่นขอลงทุนให้สะดวกยิ่งขึ้น โดยใช้แบบฟอร์มใบสมัครเพียงฉบับเดียว และการยกระดับความสะดวกในการลงทะเบียนเปิดบัญชี ด้วยการยอมรับลายเซ็นดิจิทัลและสำเนาเอกสารที่สแกน
นอกจากนี้ คิม ยังกล่าวอีกว่า มีกองทุนรวม ETF และกองทุน UCITS (Undertakings for Collective Investment in Transferable Securities) หลายกองทุนที่เน้นการลงทุนในตราสารหนี้ของอินเดียโดยเฉพาะ ซึ่งกองทุนเหล่านี้สามารถซื้อขายได้ระหว่างวัน จะช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้กับนักลงทุน
“มาตรการเหล่านี้ช่วยยกระดับการเข้าถึงตลาดและการซื้อขายตราสารหนี้โดยรวมให้กับนักลงทุนสถาบันต่างชาติ ทำให้นักลงทุนรู้สึกมั่นใจมากขึ้นในการลงทุนตลาดตราสารหนี้รัฐบาลอินเดีย” คิมกล่าว
อ้างอิง bloomberg
คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ
‘ไต้ฝุ่นยางิ’ ทำ ‘เศรษฐกิจเวียดนาม’ เสียหายกว่า 5 หมื่นล้านบาท
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า พายุไต้ฝุ่นยางิ ถล่มเมียนมา เวียดนาม ลาว และไทยด้วยกำลังลมที่แรงมาก และทำใ...
ท่วมหนักสุด 'ในรอบ 3 ทศวรรษ' พายุบอริสถล่มยุโรป ผลกระทบจากโลกร้อน
จากหย่อมความกดอากาศต่ำที่ชื่อว่า “พายุบอริส” ส่งผลให้มีฝนตกหนักจากออสเตรียไปจนถึงโรมาเนีย จนเกิด “น้...
ฮามาสโวความสามารถสูง ทำสงครามกาซาต่อได้แม้สูญเสีย
นายโอซามา ฮัมดัน ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวเอเอฟพี เมื่อวันที่ 15 ก.ย. ที่นครอิสตันบูลของตุรกี ระบุ “ขบวนก...
สงครามสู้ฮามาสและยอดส่งออกร่วง กดดันจีดีพี ‘อิสราเอล’ Q2 ให้โตเพียง 0.7%
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจของอิสราเอลในไตรมาสที่สองชะลอตัวมากกว่าที่คาดการณ์ไ...
ยอดวิว