นโยบายการเงิน – การคลัง ไปด้วยกัน สภาพัฒน์ หนุน รัฐบาล คุย ธปท.เคลื่อนเศรษฐกิจ

นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) กล่าว เลขาธิการ สศช.กล่าวว่าแม้การขับเคลื่อนเศรษฐกิจช่วงครึ่งปีหลัง 2567 แม้ว่าจะมีงบลงทุนออกมาสู่ระบบเศรษฐกิจ แต่ก็ต้องจับตาสัญญาณเศรษฐกิจหลายๆตัวที่ชะลอลงเช่นกันโดยตอนนี้ เรื่องของการบริโภคที่ลดลง การซื้อสินค้าคงทนของประชาชนที่ลดลงซึ่งสาเหตุที่สำคัญก็คือเรื่องของหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง สถาบันการเงินมีความระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น

โดยในส่วนนี้ก็ต้องยอมรับว่ากลุ่มคนที่ได้รับผลกระทบคือประชาชน และเอสเอ็มอีซึ่งบางส่วนเริ่มมีปัญหาเรื่องสภาพคล่อง ขณะที่เศรษฐกิจไทยนั้นเผชิญกับปัจจัยที่กดดันทำให้การเติบโตทางเศรษฐกิจไม่ได้ตามที่มีการคาดหวัง

ทั้งนี้ในส่วนของเรื่องเสถียรภาพทางเศรษฐกิจยังมีความจำเป็นซึ่งขณะนี้ต้องดูเรื่องเสถียรภาพที่เป็นความไม่แน่นอนในต่างประเทศ ส่วนเรื่องการที่ทำในเรื่องของการเร่งเศรษฐกิจในประเทศตรงนี้ต้องเอาข้อมูลมากางดูให้ชัดเจน ถึงข้อดีข้อเสีย สิ่งที่เกิดขึ้น ซึ่งจะเป็นข้อมูลที่แต่ละฝ่ายมีอยู่ ให้เข้าใจว่าทำอย่างไรให้เดินหน้าไปด้วยกันได้

“ในภาพใหญ่ของเศรษฐกิจ ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่นโยบายการเงินและการคลังของประเทศต้องไปในทิศทางเดียวกัน  ฝั่งหนึ่งเป็นเรื่องการพัฒนาให้เติบโตอีกฝั่งหนึ่งเป็นเรื่องเสถียรภาพ  ซึ่งบางช่วงเวลาต้องให้ความสำคัญกับเรื่องเสถียรภาพ บางช่วงเวลาต้องให้ความสำคัญกับเรื่องการเติบโต การพัฒนาเศรษฐกิจ ตอนนี้สิ่งสำคัญคือการที่ทั้งสองส่วนต้องมีการพูดคุยกัน ต้องปรับจูนเข้าหากัน ทั้งนี้การที่คุณพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ท่านใหม่จะไปคุยกับ ธปท.ในรายละเอียดกันก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี ที่จะต้องมีการพูดคุยกันซึ่งจะทำให้การทำงานในช่วงถัดไป มีความสอดคล้องกันมากขึ้น”

นายดนุชากล่าวว่าเมื่อนโยบายการคลังเดินหน้าไปในหลายมาตรการแล้ว นโยบายการเงินมีความยืดหยุ่นมากขึ้น ครัวเรือน และเอสเอ็มอีที่มีหนี้ในระดับสูงก็จะสามารถลดภารระในส่วนนี้ได้มากขึ้น  กลุ่มนี้ต้องการเงินลงทุนตอนนี้ไม่ใช่ธุรกิจขนาดใหญ่ แต่เป็นเอสเอ็มอีกับครัวเรือน โดยที่ผ่านมาธนาคารพาณิชย์ก็ช่วยมาในระดับหนึ่งแล้ว แต่หากว่าทางนโยบายในภาพใหญ่ทำให้เกิดความยืดหยุ่นมากขึ้นก็จะทำให้มีสภาพคล่องทางเศรษฐกิจของครัวเรือนและเอสเอ็มอีมีมากขึ้นได้

“กระสุนทางเศรษฐกิจนั้นมาจากสองส่วน ในเรื่องของดอกเบี้ยนโยบายตอนนี้ 2.5% ก็ต้องดูว่าเหมาะสมหรือไม่อย่างไร ขณะที่กระสุนอีกอันคือเรื่องของพื้นที่ทางการคลังว่าเพียงพอหรือไม่ ซึ่งต้องมาดูร่วมกันด้วย ซึ่งที่ผ่านมาการลดอัตราดอกเบี้ยของแบงก์ที่ลดดอกเบี้ยลง 0.25% นั้นก็ช่วยค่าใช้จ่ายของประชาชนได้บางส่วน ซึ่งเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่ดีที่ต้องขอบคุณสถาบันการเงินที่ลดดอกเบี้ยลงมา แต่ในส่วนนี้หน่วยงานที่กำกับดูแลก็อาจไปพูดคุยกับแบงก์ให้ลด MRR หรือ MLR ปรับ net interest margin ลงมาในส่วนนี้ลงมาอีกในส่วนของขาที่ลงมาเป็นเงินกู้เพิ่มได้ ซึ่งหากลดขาการปล่อยกู้และลดตัวพรีเมียมลงมาก็ขึ้นอยู่กับต้นทุนการเงินของแต่ละแบงก์ด้วย ซึ่ง ธปท.ช่วยหารือในส่วนนี้ได้ เพราะภาวะแบบนี้แบงก์พาณิชย์ต้องลงมาช่วยด้วยเหมือนกัน” นายดนุชา กล่าว

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

‘ไต้ฝุ่นยางิ’ ทำ ‘เศรษฐกิจเวียดนาม’ เสียหายกว่า 5 หมื่นล้านบาท

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า พายุไต้ฝุ่นยางิ ถล่มเมียนมา เวียดนาม ลาว และไทยด้วยกำลังลมที่แรงมาก และทำใ...

ท่วมหนักสุด 'ในรอบ 3 ทศวรรษ' พายุบอริสถล่มยุโรป ผลกระทบจากโลกร้อน

จากหย่อมความกดอากาศต่ำที่ชื่อว่า “พายุบอริส” ส่งผลให้มีฝนตกหนักจากออสเตรียไปจนถึงโรมาเนีย จนเกิด “น้...

ฮามาสโวความสามารถสูง ทำสงครามกาซาต่อได้แม้สูญเสีย

นายโอซามา ฮัมดัน ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวเอเอฟพี เมื่อวันที่ 15 ก.ย. ที่นครอิสตันบูลของตุรกี ระบุ “ขบวนก...

สงครามสู้ฮามาสและยอดส่งออกร่วง กดดันจีดีพี ‘อิสราเอล’ Q2 ให้โตเพียง 0.7%

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจของอิสราเอลในไตรมาสที่สองชะลอตัวมากกว่าที่คาดการณ์ไ...