อานิสงส์ท่องเที่ยวดันคอนโดพัทยาฟื้น จับตาแสนสิริผุดคอนโดหรู

ปัจจุบันการเปิดตัวโครงการใหม่ในพัทยาเริ่มกลับมาคึกคัก ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากตลาดท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวกลับ รวมทั้งแผนการเปิดตัวของผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์จากกรุงเทพฯ และผู้ประกอบการในพื้นที่ ซึ่งจะเป็นโครงการที่น่าสนใจ เนื่องจากอยู่ในทำเลหาซื้อที่ดินมาพัฒนาโครงการยาก แต่ตั้งแต่ปี 2566 ตลาดคอนโดมิเนียมในพัทยาเริ่มฟื้นตัว

ภัทรชัย ทวีวงศ์  ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัท คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย กล่าวว่า ภาพรวมอสังหาริมทรัพย์จังหวัดชลบุรี มีการเปิดตัวโครงการใหม่ในโซนนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร บางแสน ศรีราชา แต่หลังจากที่ตลาดเริ่มกลับมาดีขึ้น หน่วยขายที่มีอยู่ในตลาดปรับตัวลดลง ทำให้ดีเวลลอปเปอร์รายใหญ่กลับเข้ามาทำตลาดอีกครั้ง
 

จากข้อมูลตัวเลขพบว่า ซัพพลายที่เปิดใหม่กลับเข้ามาสูงขึ้นเรื่อยๆ แต่ยังมีคอนโดมิเนียมจำนวน 27 โครงการ จำนวน 9,972 ยูนิต มูลค่าโครงการรวม 10,000 ล้านบาท ที่หยุดดำเนินการขายและก่อสร้างหลังจากเผชิญวิกฤติโควิด-19 ที่ผ่านมากระจายอยู่ในหลายพื้นที่ของพัทยา หากโครงการไหนที่ตั้งอยู่ในทำเลที่ดีจะมีดีเวลลอปเปอร์รายใหญ่ทั้งในกรุงเทพฯและพัทยา ออกมาซื้อโครงการไปพัฒนาทำต่อ

อย่างไรก็ตามแนวโน้มอสังหาริมทรัพย์ในพัทยาดูดีขึ้น โดยเฉพาะทำเลจอมเทียน มี 2 โซน โซนหน้าหาดพัทยา มีซัพพลายเกิดใหม่ค่อนข้างน้อย เพราะที่ดินค่อนข้างหายากส่วนใหญ่จะเป็นโครงการจากผู้พัฒนารายใหญ่ รวมทั้งโครงการร่วมทุนกับต่างชาติ อาทิ โครงการอารมณ์จอมเทียน โครงการสกายพาร์ค ลูเชียน จอมเทียนพัทยา กับเส้นพัทยาสาย2 จะเป็นโซนที่ขายดี เพราะราคาที่ดินต่ำกว่าราคาหน้าหาด ถ้าเป็นโครงการโลว์ไรส์ ราคา 70,000-100,000 บาท ถ้าเป็นโครงการไฮไรส์ ราคา 80,000-150,000 บาท

โดยก่อนหน้านี้ “แสนสิริ” ได้ที่ดินหน้าหาดพัทยาแปลงหนึ่งไปพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมหรือจะเปลี่ยนทำเป็นโรงแรม THE STANDARD แทนหรือไม่ หรือจะขึ้นคอนโดซูเปอร์ ลักชัวรีบนสุดยอดทำเล ที่หายังาก หากเป็นเช่นนั้นจริง คาดว่า จะเป็นคอนโดราคาสูงสุดในพัทยาราคาทะลุ250,000 บาทต่อตร.ม.ส่วนหนึ่งจะเป็นกลุ่มลูกค้าที่ซื้อเพื่อลงทุน เพราะผลตอบแทนจากการปล่อยเช่าสูงถึง7%

ภัทรชัย ระบุว่า ตลาดคอนโดมิเนียมพัทยากำลังฟื้นตัว สังเกตได้จากซัพพลายใหม่เริ่มเข้ามาจากกลุ่มผู้ประกอบการรายใหญ่โดยเฉพาะเซกเมนต์คอนโดหรู ที่มีซัพพลายน้อย แต่มีอัตราการดูดซับสูง ในทำเลริมชายหาดอย่างวงศ์อมาตย์ ราคาพุ่งขึ้นบางโครงการสูงถึง 188,000 บาทต่อ ตร.ม. คาดการณ์ว่าในปี 2567 จะมีการเปิดใหม่กว่า 5,000 ยูนิตสูงสุดในรอบ 3 ปี!

หลังจาก ปี 2566 คอนโดมิเนียมในพัทยาเปิดตัวเพิ่มขึ้น 3,302 ยูนิต โตขึ้นถึง 123% (YoY) หลังจากเกิดโควิด-19 โดยเฉพาะทำเลจอมเทียน เป็นศูนย์รวมการเปิดตัวคอนโดมิเนียมมีสัดส่วนถึง 43% พระตำหนัก 28% เมืองพัทยา 16% สะท้อนถึงการลงทุนในการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมที่กระจายอยู่ในทุกทำเลซึ่งโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ในเมืองพัทยาที่เพิ่งเปิดตัวครึ่งหลังของปี 2566ถูกดูดซับรวดเร็ว เช่น ทำเลเมืองพัทยาอัตราการขายได้สูงสุด 87% ทำเลจอมเทียน 79% ขณะที่ทำเลวงศ์อมาตย์ อัตราดูซับลดลง เพราะจำนวนโครงการเหลือน้อย

ตลาดอสังหาริมทรัพย์เมืองพัทยายังสามารถเติบโตได้ดี เพราะมีทั้งโครงการสาธารณูปโภคขนาดใหญ่ เช่น รถไฟฟ้า เส้นทางรถไฟความเร็วสูง โครงการมิกซ์ยูสของภาคเอกชนรายใหญ่อย่างแอสเสทเวิรด์ กลุ่มซีพี ซึ่งจะมี Branded Residences เข้ามาอยู่ในโครงการตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าต่างชาติ

“ต้องยอมรับว่า พัทยาถือเป็นเมืองที่มีความพร้อมรองรับกลุ่มนักลงทุนต่างชาติ เพราะอยู่ในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ส่งผลให้ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์มั่นใจที่เข้ามาลงทุนพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมในพัทยาอย่างต่อเนื่องเพราะกลุ่มลูกค้าที่ซื้อคอนโดมิเนียมจะมีทั้งกลุ่มคนไทยที่ซื้อเป็นบ้านหลังที่สองเพื่อพักผ่อนหรือทำงาน และกลุ่มลูกค้าต่างชาติจาก รัสเซีย ฮ่องกง ยุโรป และจีน”
 

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ