“บิ๊กตู่” น้ำตาคลอ บอก ไม่เหงา หลังลาตำแหน่งนายกฯ-“พีระพันธุ์” ก้มกราบลาที่ตัก (คลิป)

“พลเอกประยุทธ์” เผย ภารกิจหลังหมดวาระไม่เหงา เลี้ยงสุนัข อ่านหนังสือ พักสมอง ยอมรับบางครั้งรู้สึกเสียใจกับสิ่งที่พูดไปเพราะเป็นคนขี้โมโห ยืนยันวางยุทธศาสตร์ชาติไม่ใช่สืบทอดอำนาจ สื่อ-ข้าราชการ แห่มอบดอกไม้ล้นหลาม “บิ๊กตู่” น้ำตาคลอ โบกมือลาทำเนียบ “พีระพันธุ์” ก้มกราบลาที่ตัก


วันที่ 31 ส.ค. 2566 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ร่วมรับประทานอาหารกลางวันกับสื่อมวลชน ในโอกาสอำลาตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะเข้าปฏิบัติหน้าที่ที่ทำเนียบรัฐบาลเป็นวันสุดท้าย โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวกับสื่อมวลชนตอนหนึ่งว่า จากนี้จะต้องไปออกกำลังกายเพื่อสร้างกล้ามเนื้อ เนื่องจากไม่ออกกำลังกายเป็นเวลานาน ซึ่งที่ผ่านมาก็พยายามทำงานให้ดีที่สุด แม้จะพูดไม่เพราะบ้าง หลังจากนี้ให้เหตุการณ์นิ่งสักระยะก็อาจจะไปพักผ่อน ซึ่งไม่แน่ใจว่าจะไปถูกหรือไม่ เพราะที่ผ่านมาเดินทางแค่บ้านและทำเนียบ และอยากกลับไปอยู่กับครอบครัว เพราะชีวิตที่ผ่านมาหายไป 8-9 ปี หากช่วยกันรักษาความสงบเรียบร้อยเอาไว้ได้ ประเทศชาติก็จะเดินหน้าต่อไปได้ ซึ่งขณะนี้ความสงบเรียบร้อยอยู่ในระดับที่น่าพอใจ ซึ่งหลายอย่างได้ตั้งหลักเอาไว้แล้ว แต่จะปรับเปลี่ยนอะไรต้องดำเนินการให้มีความต่อเนื่อง 

...

ส่วนกรณีที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ปรึกษาว่าอยากมีห้องส่วนตัวไว้พักผ่อนจะเหมาะสมหรือไม่ ซึ่งตนเองก็ตอบไปว่า แล้วแต่นายกเศรษฐา แต่ที่ทำเนียบรัฐบาลมีห้องสำหรับนอนพักผ่อนอยู่แล้ว แต่ตนไม่ได้ใช้ เนื่องจากมัวแต่รบสื่อมวลชน บางครั้งก็นอนไม่หลับพูดไปโมโหไป ก็กลับมานึกรู้สึกเสียใจ ไม่ควรพูดแต่เชื่อว่าต่างคนก็ต่างเข้าใจกัน พร้อมยอมรับว่าส่วนตัวเป็นคนขี้โมโห แต่คิดเร็วทำเร็ว บางครั้งอาจไม่เหมาะสม แต่ขอดูที่ผลงานออก 

ทั้งนี้หลังหมดวาระจากนายกรัฐมนตรีไปจะไม่เหงา เพราะเป็นคนช่างคิดช่างอ่าน เพราะตนเองชอบอ่านหนังสือไปเรื่อย และเลี้ยงสุนัข ขอพักสมองบ้าง เนื่องจากเจอเอกสารมา 9 ปี ส่วนเพลงที่ตนเองแต่งย้ำว่าชอบทุกเพลง เพราะมันเป็นสิ่งที่เคยทำมา ร้อยเรียงจากบทกวีเขียนจากถ้อยคำที่ต้องพูดคุยกับผู้ใต้บังคับบัญชาปลุกเร้าอารมณ์ให้มีจิตใจในการสู้รบมีสาระบ้าง ตลกบ้าง วันนึงพูดได้เป็น 2-3 ชั่วโมง พร้อมเผยเทคนิคการแต่งเพลง ต้องเขียนเนื้อก่อนค่อยเอาทำนองมาใส่ ซึ่งต่างจากคนอื่นที่มีทำนองก่อนแล้วค่อยใส่เนื้อเพลง

จากนั้นสื่อมวลชนขอให้พลเอกประยุทธ์ร้องเพลงให้ฟังซักหนึ่งผลงานเพลง พลเอกประยุทธ์ปฏิเสธเพราะจำเนื้อเพลงไม่ค่อยได้ และอธิบายด้วยว่าเพลงคืนความสุขให้ประเทศไทย ท่อนที่ร้องว่า “เราจะทำตามสัญญา ขอเวลาอีกไม่นาน ตนคิดอย่างนั้นจริงๆ” หากสถานการณ์ในประเทศสงบเรียบร้อยโอนไปนานแล้ว ไม่ได้ตั้งใจจะอยู่จนถึงขนาดนี้ ยืนยันว่าที่ต้องอยู่จนถึงขนาดนี้เป็นไปตามกลไกของการเลือกตั้ง พร้อมระบุด้วยว่าอำนาจมาพร้อมกับความรับผิดชอบ ซึ่ง 9 ปีที่ผ่านมา ตนและ ครม.ระมัดระวังตัวมาโดยตลอด แนวคิดทางการเมืองหลายคนอาจจะไม่เหมือนกัน แต่ต้องทำการเมืองอย่างสร้างสรรค์ หากแบ่งแยกเป็นกลุ่มกลุ่มจะเกิดอันตราย จึงต้องมีหลักพื้นฐานสำคัญ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ จึงไม่ขอวิพากษ์วิจารณ์อะไรมาก เพราะส่วนตัวไม่มีอำนาจอะไรอยู่แล้ว และไม่เคยคิดว่าตนมีอำนาจ ทุกอย่างมาตามขั้นตอนและระเบียบของกฎหมาย

พร้อมมองว่ารัฐบาลขณะนี้ไม่ใช่รัฐบาลปรองดองแต่ทุกคนต้องมีความปรองดองกัน และมีส่วนร่วมกัน เพราะไม่สามารถสั่งใครให้ปรองดองกันได้ และระหว่างพูดคุยกับสื่อมวลชนเจ้าหน้าที่ได้ เปิดเพลง สะพาน ที่นายกรัฐมนตรีเป็นคนแต่งและนายกมนตรีได้ร้องคลอ และโอบไหล่นายอนุทินและนายธนกรไปด้วย

นอกจากนี้นายกรัฐมนตรียังกล่าวทิ้งท้ายถึงเกรียนคีบอร์ด ด้วยว่า ขอฝากความรักความคิดถึงตนไม่โกรธเคืองใครทั้งสิ้นไม่ว่าจะรัก จะชมหรือจะชอบหรือไม่ชอบ จะด่า จะว่า เพราะเป็นโลกโซเชียลมีเดียแต่ทุกคนต้องมีภูมิคุ้มกันเอาไว้บ้าง ไม่ใช่ใครเกลียดก็เกลียดด้วยทุกอย่างต้องมีเหตุมีผล หากทุกคนบิดเบี้ยวไปหมดจะเป็นอันตรายกับประเทศ ซึ่งสื่อโซเชียลมีเดียไม่ว่าจะเป็น Facebook TikTok ไม่เคยทำเอง เพราะไม่ชอบ แต่ก็ต้องติดตามเพราะเป็นเรื่องของการพัฒนา

เมื่อถามว่าพลเอกประยุทธ์ประทับใจอะไรกับการนั่งตำแหน่งนายกรัฐมนตรีตลอด 9 ปีที่ผ่านมา พลเอกประยุทธ์ ระบุว่า ความรักความสามัคคี ความเข้าใจว่าเราทำหน้าที่เพื่อใคร เพื่อประเทศชาติประชาชนและสถาบัน

ส่วนหวังอะไรกับรัฐบาลใหม่ นายกรัฐมนตรีถามกลับว่าสื่อมวลชนหวังอะไรสื่อมวลชนตอบกลับว่าหวังให้พัฒนาประเทศ พลเอกประยุทธ์จึงตอบว่าตนก็หวังเช่นนั้น 

ส่วนหลังจากนี้จะแสดงความคิดเห็นทางการเมืองหรือไม่นั้น ส่วนตัวขอดูก่อนว่าควรหรือไม่ควร เพราะไม่อยากให้เกิดความขัดแย้งไปมากกว่านี้ ขอให้ทุกคนช่วยกันให้บ้านเมืองสงบ พร้อมปฏิเสธตอบว่าความขัดแย้งจะกลับมาหรือไม่ แต่ในฐานะประชาชนคนหนึ่งไม่อยากให้ความขัดแย้งกลับมา อะไรที่ผิดพลาด อะไรที่เสียหายก็อย่าไปทำมันอีก หากเราไม่เรียนรู้วันข้างหน้าจะอยู่กันอย่างไร 

ส่วนอะไรที่ประทับใจที่สุด พลเอกประยุทธ์ ระบุว่า การประชุม ครม.ที่เรียบร้อยทุกสัปดาห์ ทุกคนเห็นชอบร่วมกันทุกคนเสนอโครงการในกรอบการปฏิรูปและยุทธศาสตร์ชาติ ไม่ใช่การร่างไว้เพื่อสืบทอดอำนาจ ซึ่งถูกประเทศก็มีแบบนี้ ซึ่ง 9 ปีที่ผ่านมามองว่าความสำเร็จมีเกินครึ่ง เพราะหลายเรื่องเป็นเรื่องยาก ติดขัดเรื่องข้อกฎหมาย และมีความพึงพอใจกับทุกโครงการของรัฐบาล เพราะเป็นโครงการที่เป็นประโยชน์กับประชาชน

จากนั้นสื่อมวลชนขอให้นายกรัฐมนตรีเซ็นหนังสือมาเหนือเมฆ ที่นายกรัฐมนตรีเขียนพร้อมมอบดอกกุหลาบสีแดงเป็นกำลังใจให้นายกรัฐมนตรีด้วย พร้อมระบุว่าขอบคุณทุกคนจากหัวใจไม่เคยโกรธใคร ขอให้มีความสุข 

เมื่อถามว่า มีอะไรอยากจะฝากบอกประชาชนที่สนับสนุนหรือไม่ พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า ขอให้ช่วยให้กำลังใจในการทำงานร่วมกันด้วยความรักความสามัคคีภายใต้พื้นฐานกรอบกฎหมาย

ส่วนที่ประชาชนหลายคนใจหายที่นายกฯ พ้นจากตำแหน่ง พลเอกประยุทธ์ ระบุว่า ก็รู้สึกใจหายเช่นเดียวกัน ฉะนั้นขอฝากประเทศชาติบ้านเมืองไว้ในมือทุกคนด้วย

อย่างไรก็ตามก่อนขึ้นห้องทำงานบนตึกไทยคู่ฟ้านายกรัฐมนตรีได้โบกมือส่งสัญลักษณ์ไอเลิฟยู และ วายทูเค ให้กับสื่อมวลชนด้วย และช่วงที่ขึ้นไปยังห้องทำงานก็ได้หยุดแล้วโบกมือลาสื่อมวลชนอีกครั้ง ก่อนขึ้นไปสักการะพระพรหมเจ้าที่บนตึกไทยคู่ฟ้า จากนั้นข้าราชการและลูกจ้างภายในทำเนียบรัฐบาลได้นำดอกไม้เข้าอำลานายกรัฐมนตรี โดยนายกรัฐมนตรีได้มีการให้โอวาทและถ่ายรูปร่วมกัน

แห่ส่ง รัฐบาลประยุทธ์ 9 ปี “บิ๊กตู่” น้ำตาคลอ โบกมือลาทำเนียบ


จากนั้นเวลา 13.50 น. หลังจากพลเอกประยุทธ์ได้พบปะกับข้าราชการที่ร่วมอำลา ได้เดินออกจากตึกไทยคู่ฟ้าเพื่อไปทักทายกับบรรดาแฟนคลับที่มารอบริเวณข้างสนามหญ้าข้างตึกไทยคู่ฟ้า 

ช่วงหนึ่ง พลเอกประยุทธ์ ได้หันกลับมามองพร้อมกวาดสายตามองรอบตึกไทยคู่ฟ้า พร้อมกับยกมือไหว้ และเดินไปทักทายกับประชาชน 

พลเอกประยุทธ์ เปิดเผยหลังทักทายประชาชนว่า รู้สึกดีใจที่หลายคนเข้าใจการทำงานและเราก็ทำทุกอย่างมาเพื่อให้พวกเขามาโดยตลอด และก็ต้องทำงานเดินหน้าต่อไปให้ได้ 

อย่างไรก็ตามก่อนที่ พลเอกประยุทธ์ จะขึ้นรถเดินทางออกจากทำเนียบรัฐบาล พลเอกประยุทธ์ ได้สวมกอดกับ นายพีระพันธุ์ สารัฐวิภาค เลขาธิการนายกรัฐมนตรี และนายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ขณะที่ นายพีระพันธุ์ ได้ก้มกราบลงที่ตักพลเอกประยุทธ์ ส่วนพลเอกประยุทธ์ได้ยกมือลูบศีรษะ 

ทั้งนี้ก่อนที่รถจะเคลื่อนออกไป พลเอกประยุทธ์ ได้เปิดกระจกโบกมือให้กับข้าราชการประจำทำเนียบ และบรรดาแฟนคลับตลอดเส้นทาง โดยมีการเปิดเพลง “สู้เพื่อแผ่นดิน” ที่แต่งโดยพลเอกประยุทธ์คลอไปด้วย.

นายพีระพันธุ์ สารัฐวิภาค เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ก้มกราบลงตัก พล.อ.ประยุทธ์ ก่อนเดินทางออกจากทำเนียบรัฐบาล
นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กราบลาที่อก พล.อ.ประยุทธ์

ภาพ : ธนัท ชยพัทธฤทธี

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

‘ไต้ฝุ่นยางิ’ ทำ ‘เศรษฐกิจเวียดนาม’ เสียหายกว่า 5 หมื่นล้านบาท

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า พายุไต้ฝุ่นยางิ ถล่มเมียนมา เวียดนาม ลาว และไทยด้วยกำลังลมที่แรงมาก และทำใ...

ท่วมหนักสุด 'ในรอบ 3 ทศวรรษ' พายุบอริสถล่มยุโรป ผลกระทบจากโลกร้อน

จากหย่อมความกดอากาศต่ำที่ชื่อว่า “พายุบอริส” ส่งผลให้มีฝนตกหนักจากออสเตรียไปจนถึงโรมาเนีย จนเกิด “น้...

ฮามาสโวความสามารถสูง ทำสงครามกาซาต่อได้แม้สูญเสีย

นายโอซามา ฮัมดัน ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวเอเอฟพี เมื่อวันที่ 15 ก.ย. ที่นครอิสตันบูลของตุรกี ระบุ “ขบวนก...

สงครามสู้ฮามาสและยอดส่งออกร่วง กดดันจีดีพี ‘อิสราเอล’ Q2 ให้โตเพียง 0.7%

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจของอิสราเอลในไตรมาสที่สองชะลอตัวมากกว่าที่คาดการณ์ไ...