“สว.สถิตย์” ชง เปลี่ยนเขตในกทม.เป็นเทศบาล เพื่อเป็นรูปแบบกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น

“สถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์” เสนอกระจายอำนาจ กทม. ควรเปลี่ยนเขตเป็นเทศบาล เพื่อประโยชน์ดูแลประชาชนได้ทั่วถึง ชี้ จะเป็นต้นแบบในการกระจายอำนาจท้องถิ่นไปสู่จังหวัดอื่นๆ ที่มีความพร้อมในการเลือกตั้งผู้ว่าฯ

วันที่ 23 มกราคม 2567 ที่รัฐสภา นายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ สมาชิกวุฒิสภา อดีตปลัดกระทรวงการคลัง ได้อภิปรายเกี่ยวกับการเปลี่ยนโครงสร้างกรุงเทพมหานคร ตามที่คณะกรรมาธิการการปกครองส่วนท้องถิ่น วุฒิสภา ได้นำเสนอ โดยนายสถิตย์กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีการปกครอง 3 ระดับ คือ ราชการส่วนกลาง ราชการส่วนภูมิภาค และราชการส่วนท้องถิ่น และมีความพยายามที่จะลดราชการส่วนภูมิภาคให้เหลือเฉพาะราชการส่วนกลาง และราชการส่วนท้องถิ่นตามความเหมาะสมของสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป ในส่วนราชการส่วนท้องถิ่นตามที่คณะกรรมาธิการฯได้รายงานว่า ปัจจุบันแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ คือ รูปแบบทั่วไปและรูปแบบพิเศษ 

“ผมขอตั้งข้อสังเกตว่า ไม่ควรจะแบ่งเป็นรูปแบบทั่วไปและรูปแบบพิเศษ แต่ควรมีเพียงรูปแบบเดียว และแบ่งออกเป็น 2 ระดับคือ ระดับจังหวัด และระดับเทศบาล ในส่วนของกรุงเทพมหานคร ก็ควรแบ่งออกเป็นระดับจังหวัด และระดับเทศบาลเช่นกัน ในระดับจังหวัด มีผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครซึ่งมาจากการเลือกตั้งมา ในระดับเขตมี 50 เขต ซึ่งคณะกรรมาธิการฯ เสนอให้เป็น 50 นครเพื่อให้บริหารท้องถิ่นได้ดีขึ้นนั้น ผมเสนอว่า 50 เขตดังกล่าว สมควรแปลงสถานะเป็นเทศบาลตามรูปแบบเทศบาลทั่วไป โดยอาจเป็นเทศบาลนคร หรือเป็นเทศบาลเมืองแล้วแต่ขนาดของแต่ละเทศบาล หรืออาจปรับเปลี่ยนจำนวนเทศบาลให้แตกต่างไปจาก 50 เขตเดิมก็ได้ สิ่งสำคัญคือต้องเป็นรูปแบบของเทศบาล ไม่ใช่รูปแบบเขตอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน เพราะรูปแบบเทศบาลจะทำให้ดูแลบริหารท้องถิ่นได้ใกล้ชิดสอดคล้องกับความต้องการของประชาชนในท้องถิ่นนั้นๆ ได้ดีกว่า” นายสถิตย์ กล่าว 

...

นายสถิตย์ กล่าวอีกว่า ในภาพรวมของประเทศ รูปแบบองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น นอกจากจะมีองค์การบริหารส่วนจังหวัดในระดับจังหวัดแล้ว ในระดับการบริหารท้องถิ่น ควรมีเฉพาะรูปแบบของเทศบาลเท่านั้น องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นควรมีเฉพาะรูปแบบเทศบาล ไม่ว่าจะเป็นเทศบาลนคร เทศบาลเมือง เทศบาลตำบล องค์การบริหารส่วนตำบล ต้องพัฒนาไปเป็นเทศบาลตำบล โดยเกลี่ยขนาดให้เหมาะสมกับการเป็นเทศบาล  

นายสถิตย์เสนอต่อไปว่า ต้องมีการจัดวางโครงสร้างที่สมดุลระหว่างส่วนกลางและส่วนท้องถิ่น ในส่วนของกรุงเทพมหานครนั้น ต้องแบ่งอำนาจบริหารระหว่างกระทรวงมหาดไทยกับกรุงเทพมหานครให้มีความชัดเจน และในส่วนกรุงเทพมหานครเอง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร จะมีหน้าที่ดูแลในภาพรวมในเชิงมหภาคของกรุงเทพมหานคร ส่วนเทศบาลทำหน้าที่บริหารท้องถิ่นในท้องถิ่นที่รับผิดชอบ โดยรูปแบบนี้ควรจะเป็นต้นแบบในการกระจายอำนาจท้องถิ่นไปสู่จังหวัดอื่นๆ ที่มีความพร้อมในการเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัด เช่น เชียงใหม่ หรือ ภูเก็ต คือ จะมีผู้ว่าราชการจังหวัดดูแลภาพรวม และมีเทศบาลบริหารท้องถิ่นของตน ทั้งในรูปแบบเทศบาลนคร เทศบาลเมือง เทศบาลตำบล ในส่วนขององค์การบริหารส่วนตำบลก็ปรับเปลี่ยนเป็นเทศบาลตำบล จะได้มีเพียงรูปแบบจังหวัดกับเทศบาลเท่านั้น

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

ลมพายุใหญ่ทำให้หลายอย่างในสหรัฐชัดขึ้น

นอกจากจะทำความเสียหายร้ายแรงในรัฐฟลอริดาแล้ว พายุเฮลีนยังพัดต่อไปทำความเสียหายร้ายแรงในรัฐอื่นอีกด้ว...

นายกฯ อิสราเอลชี้ สังหารผู้นำฮามาส ‘จุดเริ่มต้นยุติสงครามกาซา’

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงาน ตามที่กองทัพอิสราเอลแถลงว่า หลังจากไล่ล่ามาอย่างยาวนาน กองทัพก็ “ขจัด นายยาห์...

ทุกคะแนนมีค่า ‘แฮร์ริส-ทรัมป์’ เดินสายให้สัมภาษณ์ขยายฐานเสียง

สำนักข่าวเอพีรายงาน เมื่อไม่กี่วันก่อน คามาลา แฮร์ริส ให้สัมภาษณ์ชาร์ลามาญ (Charlamagne tha God) เจ้...

เปิดประสบการณ์เยือน ‘กัมพูชา’ ครั้งแรกของนักการทูตแรกเข้า (3) | World Wide View

เสียมราฐ เป็นจังหวัดสำคัญทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของกัมพูชา หลาย ๆ คนรู้จักในฐานะที่ตั้งของนครวัดและโ...