ครูจวง สส.ก้าวไกล ยินดีมติ ครม. ยกเลิกครูเวร แนะหนุนงบติดวงจรปิดทุกโรงเรียน

“ครูจวง” สส.ก้าวไกล ยินดีมติ ครม. ยกเลิกครูนอนเวร หนุนนายกฯ-รมว.ศึกษาธิการ จัดงบติดกล้องวงจรปิดทุกโรงเรียน ได้ประโยชน์หลายอย่าง ย้ำ ภาระครูมีอีกมากต้องลด แนะเลิกตามที่ก้าวไกลเคยเสนอ 

วันที่ 23 มกราคม 2567 นายปารมี ไวจงเจริญ หรือ ครูจวง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีการยกเลิกครูเวรที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เพิ่งมีมติในวันนี้ ว่า เป็นเรื่องน่ายินดี ขอบคุณที่รับฟังเสียงครูจนนำไปสู่การออกมติ ครม. ยกเลิกครูนอนเวร ซึ่งเป็นภาระและความเจ็บปวดของครูมาเนิ่นนาน

หลังจากนี้ ตนปรารถนาให้นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ รวมถึงผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการ โปรดพิจารณาจัดสรรงบประมาณเพื่อติดตั้งกล้องวงจรปิดในทุกโรงเรียน เพราะมีประโยชน์หลายอย่าง เช่น ในแง่ความปลอดภัย สามารถใช้กล้องสอดส่องพฤติกรรมของคนที่ผ่านเข้า-ออกโรงเรียน ช่วยดูแลพื้นที่ทั้งในและรอบโรงเรียน ที่อาจเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ อาทิ สนามเด็กเล่น จุดรับ-ส่งนักเรียน ห้องส้วม และโรงอาหาร เพื่อเป็นข้อมูลให้โรงเรียนนำไปปรับปรุงพื้นที่ หรือซ่อมแซมส่วนที่ชำรุดได้ทันท่วงที อันจะทำให้ผู้ปกครองรู้สึกอุ่นใจในความปลอดภัยของบุตรหลานที่อยู่ภายในโรงเรียนมากขึ้น 

ขณะที่แง่การพัฒนาการเรียนการสอน สามารถใช้ประโยชน์จากกล้องวงจรปิดในการสังเกตพฤติกรรมของเด็กขณะเล่นของเล่นหรือขณะทำกิจกรรมต่างๆ ซึ่งจะช่วยให้โรงเรียนและพ่อแม่ผู้ปกครองเห็นถึงความสามารถ ความถนัด สมรรถนะ และทักษะที่ต่างกันของเด็กแต่ละคน สามารถนำไปพัฒนาเพื่อส่งเสริมสมรรถนะและทักษะของเด็ก หรือนำไปปรับการเรียนการสอนได้อย่างเหมาะสมกับเด็กแต่ละคน นอกจากนี้ กล้องวงจรปิดยังช่วยสแกนใบหน้านักเรียนขณะเดินเข้า-ออกเพื่อเช็กเวลาเรียน ส่งข้อมูลแจ้งไปยังผู้ปกครอง หรือใช้ในการตรวจอุณหภูมิร่างกายของเด็กแต่ละคน เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของโรคติดต่อ รวมถึงช่วยประหยัดค่าน้ำค่าไฟให้โรงเรียน เพราะใช้ตรวจสอบได้ว่าบริเวณใดในโรงเรียนที่ครูหรือเจ้าหน้าที่หลงลืมปิดน้ำปิดไฟหรือตรวจสอบไม่ทั่วถึงบ้าง 

...

นายปารมี เผยต่อไปว่า การที่ รมว.ศึกษาธิการ เสนอนโยบายคืนอัตรานักการภารโรง 12,000 คนให้กับโรงเรียน ตนเห็นด้วยและสนับสนุน เพราะจะช่วยลดภาระครู แต่ทำเพียงแค่นี้ยังไม่พอ ยังมีภาระงานครูอีกมากที่ต้องลดและเลิก ตามที่พรรคก้าวไกลเคยเสนอในหลายโอกาส เช่น ยกเลิกพิธีการจัดโต๊ะตั้งบอร์ดที่ใช้แรงงานครูโดยไม่จำเป็นในการประเมินผลทุกประเภท ลดงานธุรการเอกสาร โดยเฉพาะโครงการต่างๆ ที่มีตัวชี้วัดมากมาย เป็นภาระใหญ่หลวงของครูไทย และเป็นโครงการเบี้ยหัวแตกที่เป็นภาระทางงบประมาณที่สูงมาก ควรนำงบเหล่านี้ไปสู่นักเรียนจะดีกว่า

“ดิฉันปรารถนาความร่วมมือและการรับฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่าย เพื่อร่วมกันทำให้การศึกษาไทยดีขึ้นกว่าเดิม ครูไทยมีความสุขในการสอน นักเรียนไทยมีความสุขในการเรียน”

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

‘ไทย’ ร่วงลงสองอันดับ! ใน IMD World Talent Ranking ปี 2024 ส่วนสิงคโปร์นำโด่ง

จากการจัดอันดับ “ประเทศที่มีความเป็นเลิศในด้านบุคลากรผู้มีความสามารถประจำปี 2024” (The 2024 IMD Worl...

Apple วางขาย iPhone 16 พร้อมนวัตกรรมความยั่งยืน ใช้อะลูมิเนียมรีไซเคิล 85%

Apple ได้สร้างมาตรฐานใหม่ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีอีกครั้ง ด้วยการวางขาย iPhone 16 ที่เน้นความยั่งยืน โด...

ผล 1 ปีกับความคืบหน้า ESG Symposium ส่งไทยสู่สังคมคาร์บอนต่ำ สู้โลกเดือด

เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน เห็นผลเป็นรูปธรรม ตาม 4 ข้อเสนอจากงาน ESG Symposium 2023 ทั้งสร้าง "สระบุรี...

‘ลาซาด้า’ เดินเกมทำกำไร ชู '3 กลยุทธ์' สร้างยุคใหม่อีคอมเมิร์ซ

วาริสฐา เกียรติภิญโญชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ลาซาด้า ประเทศไทย กล่าวว่า ลาซาด้ายังเดินหน้าลงทุนใน...