“ธนกร” ฝากถึง “ชัยธวัธ” ปรับทัศนคติ สส.พรรคก้าวไกล อย่าเหมารวมคดีมาตรา 112 เป็นการเมือง พ่วงในร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม หวังปลดล็อกคนผิดร้ายแรง ชี้ ต้องเข้าใจกฎหมายคุ้มครองสถาบัน
วันที่ 20 มกราคม 2567 นายธนกร วังบุญคงชนะ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แบบบัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) และอดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี นายวีรนันท์ ฮวดศรี สส.ขอนแก่น เขต 1 พรรคก้าวไกล ออกมาแสดงความเห็น หลังศาลจังหวัดเชียงราย อ่านคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ภาค 5 ในคดีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ลงโทษจำคุก นายมงคล ถิระโคตร หรือ บัสบาส นักกิจกรรมใน จ.เชียงราย รวม 50 ปี โดยอ้างการกระทำความผิด ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 มีมูลเหตุจูงใจมาจากการเมืองและเสนอใช้การเมืองคลี่คลายปัญหาผ่านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ของพรรคก้าวไกลนั้น ตนจึงขอเตือน นายวีรนันท์ รวมไปถึงพรรคก้าวไกลด้วยว่า อย่าเหมารวมคดีที่มีความร้ายแรงตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ที่คนกระทำผิดจาบจ้วง ล่วงละเมิดพระมหากษัตริย์บุคคลสำคัญของชาติ มารวมอยู่ในคดีทางการเมือง เพราะเป็นคนละเรื่อง ไม่เกี่ยวกับการเมือง
ส่วนคำถามว่าทางพรรคก้าวไกลเสนอให้สภาผู้แทนราษฎรหาทางออกเรื่องมาตรา 112 ร่วมกันผ่าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม จะเป็นไปได้หรือไม่ นายธนกร ระบุว่า พรรคก้าวไกลต้องเข้าใจหลักการเรื่องกฎหมายคุ้มครองพระมหากษัตริย์ซึ่งเป็นบุคคลสำคัญของชาติ เป็นศูนย์รวมจิตใจของประชาชน ซึ่งคนไทยรักและเทิดทูนมาตลอด คนที่ทำผิดกฎหมายดังกล่าวก็แสดงถึงว่ามีเจตนาคิดร้าย ถือเป็นเรื่องร้ายแรง จะมาเสนอนิรโทษกรรม ยกโทษให้โดยเหมารวมให้เป็นคดีทางการเมืองไม่ได้ และเชื่อว่าเมื่อเสนอเข้ามาในสภาฯ มั่นใจว่า สส.ส่วนใหญ่ ไม่เห็นด้วยอย่างแน่นอน
...
พร้อมกันนี้ นายธนกร ยังกล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า “เข้าใจว่าพรรคก้าวไกลมีความพยายามจะขับเคลื่อนและหาทางออกในเรื่องคดีมาตรา 112 เนื่องจากมีกลุ่มสนับสนุนพรรคของตัวเองรวมอยู่ด้วย แต่ขอให้ยึดหลักกฎหมายที่ถูกต้อง เพราะสถาบันไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง และการจาบจ้วง หมิ่นประมาท เป็นกฎหมายอาญา ขนาดบุคคลทั่วไปยังไม่ยอมความกันเลย กฎหมายนี้จึงมีไว้เพื่อปกป้องสถาบันจากการถูกปองร้ายในรูปแบบต่างๆ ป้องกันไม่ให้กลุ่มที่คิดลดทอนหรือคิดล้มล้างได้ จึงขอเรียกร้องไปยัง นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้ปรับทัศนคติความคิดของ สส.ในพรรคเสียใหม่ ให้เข้าใจหลักกฎหมายนี้”