รมว.แรงงาน เผย ไม่เห็นด้วยเรื่องขึ้นค่าแรงขั้นต่ำน้อย เตรียมหาข้อมูลขึ้น 400 บาท ในบางอาชีพ บางพื้นที่แทน เรื่องกองทุนประกันสังคม สั่งหาแหล่งลงทุนใหม่แล้ว ต้องมีเป้าดอกผล 5% เห็นด้วยกับก้าวไกล ค่าคลอดบุตร 20,000-25,000 บาท
วันที่ 5 มกราคม 2567 เมื่อเวลา 18.07 น. ที่อาคารรัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 วาระแรก วงเงิน 3,480,000 ล้านบาท
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวชี้แจงสภาฯ ทางกระทรวงแรงงานได้งบประมาณมาทั้งหมด 6.1 หมื่นล้านบาท โดยขอบคุณสมาชิกที่แนะนำเรื่องดีๆ โดยตนเองจะนำไปหารือข้าราชการในกระทรวงเพื่อปรับใช้
ส่วนเรื่องค่าแรงขั้นต่ำที่มองว่าขึ้นน้อยเกินไป เป็นเพราะคณะกรรมการไตรภาคียืนยันเรื่องการขึ้นค่าแรงอย่างนั้นถึง 2 ครั้ง จึงต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรี ยอมรับตนเองไม่เห็นด้วย แต่เรื่องนี้จะมีการหารือในวันที่ 17 ม.ค. อีกครั้ง โดยตนเองก็จะไปทำการบ้านกับเพื่อนๆ หลายกระทรวงในการหาข้อมูล ว่าจะเป็นไปได้หรือไม่ที่จะมีการปรับขึ้นค่าแรง 400 บาท ในบางอาชีพ บางพื้นที่ เช่น โรงแรม เพื่อไม่ให้กระทบกับนายจ้างในระดับตำบล ชุมชน
ส่วนการอัปสกิล รีสกิล กระทรวงแรงงาน มีเป้าหมายถึง 1 ล้านตำแหน่ง ส่วนการจัดส่งแรงงานไปต่างประเทศ ตั้งเป้าหมายไว้ที่ 1 แสนตำแหน่ง จะมีการฝึกอบรบภาษาต่างประเทศให้กับแรงงาน เช่น ภาษาเกาหลี ญี่ปุ่น จีน อังกฤษ มลายู รวมถึงจะพิจารณาเรื่องการส่งแรงงานนวดแผนไทยด้วย เพราะเป็นที่นิยมของต่างชาติ
ขณะที่การเลือกตั้งบอร์ดประกันสังคม ยอมรับว่าผิดหวังที่มีผู้มาใช้สิทธิ์แค่แสนกว่าคน โดยในการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในอีก 2 ปีข้างหน้า จึงหารือว่าอาจจะไม่ต้องเข้าคูหา แค่สแกนใบหน้าก็สามารถเลือกตั้งในบ้านได้เลย
...
พร้อมยอมรับว่าข้อเสนอะแนะของสมาชิกที่มองว่ากองทุนประกันสังคม จะล้มละลายใน 30 ปีข้างหน้า แต่ในฐานะที่ตนเองเข้ามากำกับดูแลได้สั่งการวางเป้าหมายให้ต้องมีดอกผล 5% และตนเองเริ่มหากองทุนที่ให้ผลตอบแทนที่ได้ผลดีทั้งในประเทศ และต่างประเทศแล้ว ว่ามีกองทุนไหนที่ให้ผลตอบแทนที่ดี แต่มีข้อแม้ต้องนำไปลงทุนในกองทุนที่มีความเสี่ยงน้อยได้แค่ 40%
ส่วนเรื่องสิทธิ์รักษาพยาบาลตาม ม.40 นั้น ยืนยันว่าสามารถไปรักษาในสิทธิ์บัตรทองได้ โดยหลังจากนั้นประกันสังคมจะดูแลต่อให้
ขณะที่ งบกรมสวัสดิการ จำนวน 5 ล้านบาท เป็นการตั้งไว้เพื่อวันแรงงาน ให้ชาวแรงงานได้จัดกิจกรรม ส่วนอีก 1 ล้านบาท ยืนยันว่าไม่ได้เจียดไว้ดูงานต่างประเทศ แต่เป็นเพราะสำรองไว้ไปประชุมในการเป็นสมาชิกกับต่างประเทศ โดยตนเองก็ให้เป้าหมายไปว่า การไปสัมมนาแต่ละครั้งมีการขับเคลื่อนด้วย
นายพิพัฒน์ ยังกล่าวถึงมาตรการ 3 ขอ ในระบบประกันสังคม ทั้งขอเลือก ขอคืน ขอกู้ คือนำเงินที่ส่งประกันสังคมมาใช้ก่อน หรือจะเลือกเป็นบำเหน็จ บำนาญ และนำเงินที่ส่งมากู้ได้
ทั้งนี้ตนเองเห็นด้วยที่ทางพรรคฝ่ายค้านเสนอเรื่องการส่งเสริมการคลอดบุตร 20,000-25,000 บาท โดยเราจะทำแบบขั้นบันได แน่นอนว่าไม่เกิน 3 ปี จะไปถึงแน่นอน แต่ขอหารือเพื่อนสมาชิก นายจ้าง ลูกจ้าง และรัฐก่อน ว่าอยากจะทำอะไรที่เป็นสิ่งดีๆ หรืออยากเปลี่ยนแปลงในสิ่งใดบ้าง โดยตนเองพร้อมยอมรับในสิ่งใหม่ๆ หรือหากใครมีข้อคิดเห็นสามารถส่งมาเป็นจดหมาย หรือมาหาที่กระทรวงได้ ตนเองพร้อมรับฟังเพื่อให้กระทรวงแรงงานพัฒนาในสิ่งที่ดีได้.