จับตาประชุม Fed คืนนี้ สัญญาณดอกเบี้ยขาลง?

สัปดาห์นี้นับเป็นอีกหนึ่งช่วงเวลาที่คนในวงการตลาดเงินตลาดทุนต้องเกาะติดภาวะตลาดอย่างใกล้ชิด เพราะความผันผวนพร้อมเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ เนื่องจากสัปดาห์นี้จะมีการประชุมของธนาคารกลางขนาดใหญ่ถึง 3 แห่ง คือ ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ระหว่างวันที่ 12-13 ธ.ค. 2566  ส่วนอีก 2 แห่ง คือ ธนาคารกลางยุโรป (ECB) และ ธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) ซึ่งจะประชุมกันในวันที่ 14 ธ.ค. 2566 โดยตลาดคาดการณ์ไว้แล้วว่า ธนาคารกลางทั้ง 3 แห่งนี้น่าจะตัดสินใจ “คง” ดอกเบี้ยนโยบายเอาไว้ที่ระดับเดิม

แต่สิ่งที่ตลาดเฝ้าจับตาดูมากกว่าผลการประชุม คือ ความเห็นจากผู้กำหนดนโยบายของทั้ง 3 ธนาคารกลางนี้ว่า มีมุมมองต่อทิศทางเศรษฐกิจและเงินเฟ้อในระยะข้างหน้าอย่างไร เพราะจะสะท้อนไปถึงแนวโน้มดอกเบี้ยในระยะข้างหน้า

...ในมุมของ Fed ซึ่งมีอิทธิผลต่อตลาดเงินตลาดทุนทั่วโลกมากที่สุด นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า อาจเห็นการปรับ “ลดดอกเบี้ย” เร็วสุดในเดือนมี.ค.2567 หลังตัวเลขเงินเฟ้อล่าสุดออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์เอาไว้

อย่างไรก็ตามช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา สหรัฐ เปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่ดูเหมือนจะแข็งแกร่งเกินกว่าการคาดการณ์ของตลาด ทำให้มุมมองที่มีต่อการลดดอกเบี้ยในเดือน มี.ค. 2567 เริ่มน้อยลง

โดย FedWatch Tool ซึ่งเป็นหนึ่งใน Indicator ที่นักลงทุนนิยมดู บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 98.2% ที่ Fed จะคงดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 12-13 ธ.ค.นี้ และให้น้ำหนัก 92.2% ที่จะคงดอกเบี้ยต่อในการประชุมเดือน ม.ค. 2567

ประเด็นที่น่าจับตา คือ FedWatch Tool ระบุว่า ในการประชุมเดือน มี.ค. 2567 นักลงทุนให้น้ำหนักถึง 47.7% ที่ Fed จะปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% สู่ระดับ 5.00-5.25% หรือพูดง่ายๆ ก็คือ นักลงทุนเกือบครึ่งมองว่า Fed อาจลดดอกเบี้ยลงในการประชุมเดือน มี.ค. 2567 ซึ่งจริงๆ แล้วตัวเลข 47.7% นี้ นับว่าน้อยลงจากการสำรวจรอบก่อนที่นักลงทุนให้น้ำหนักว่า Fed อาจลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือน มี.ค. 2567 ถึง 55.4% เนื่องจากตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่รายงานออกมาเมื่อปลายสัปดาห์ก่อน ดีเกินกว่าที่ตลาดคาดการณ์เอาไว้มาก

ส่วนในฝั่งของ ECB นั้นทีมวิเคราะห์จาก โกลด์แมน แซคส์ ประเมินว่า อาจได้เห็น ECB ปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลงทุกครั้งตั้งแต่เดือน เม.ย. 2567 เป็นต้นไป หลังเริ่มเห็นสัญญาณเงินเฟ้อชะลอตัว เช่นเดียวกับตัวเลขเศรษฐกิจที่มีความเปราะบางมากขึ้น

...โดยสรุปแล้ว เราคิดว่าคงต้องติดตามผลการประชุมของธนาคารกลางเหล่านี้อย่างใกล้ชิด เพื่อดูท่าทีของผู้กำหนดนโยบายต่างๆ ว่ามีมุมมองต่อทิศทางเศรษฐกิจและเงินเฟ้อระยะข้างหน้าอย่างไร แต่โดยรวมๆ แล้วดูเหมือนตลาดจะมั่นใจว่า ประตูดอกเบี้ยขาขึ้นถูกปิดลงไปแล้ว และฝั่งขาลงเริ่มถูกแง้มออกมาให้เห็น!

 

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

‘ไต้ฝุ่นยางิ’ ทำ ‘เศรษฐกิจเวียดนาม’ เสียหายกว่า 5 หมื่นล้านบาท

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า พายุไต้ฝุ่นยางิ ถล่มเมียนมา เวียดนาม ลาว และไทยด้วยกำลังลมที่แรงมาก และทำใ...

ท่วมหนักสุด 'ในรอบ 3 ทศวรรษ' พายุบอริสถล่มยุโรป ผลกระทบจากโลกร้อน

จากหย่อมความกดอากาศต่ำที่ชื่อว่า “พายุบอริส” ส่งผลให้มีฝนตกหนักจากออสเตรียไปจนถึงโรมาเนีย จนเกิด “น้...

ฮามาสโวความสามารถสูง ทำสงครามกาซาต่อได้แม้สูญเสีย

นายโอซามา ฮัมดัน ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวเอเอฟพี เมื่อวันที่ 15 ก.ย. ที่นครอิสตันบูลของตุรกี ระบุ “ขบวนก...

สงครามสู้ฮามาสและยอดส่งออกร่วง กดดันจีดีพี ‘อิสราเอล’ Q2 ให้โตเพียง 0.7%

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจของอิสราเอลในไตรมาสที่สองชะลอตัวมากกว่าที่คาดการณ์ไ...