โฆษกรัฐบาล เผย คืบหน้าการหารือของไทยกับซาอุดีอาระเบีย ถึงความร่วมมือด้านปศุสัตว์คืบหน้า เร่งดำเนินการตามแนวทางที่นายกฯ มอบหมาย เชื่อมั่น จะส่งต่อเป็นความสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม
วันที่ 5 ธันวาคม 2566 นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงความคืบหน้าการทำงานของภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อหารือกับบริษัท Saudi Agricultural and Livestock Investment Company (SALIC) ของซาอุดีอาระเบีย โดยฝ่ายไทยและฝ่ายซาอุดีอาระเบีย พบกันอีกครั้งเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2566 เป็นการพบกันระหว่าง นางสาวนวลละออง ศรีชุมพล นายกสมาคมผู้ส่งออกและนำเข้าปศุสัตว์และผลิตภัณฑ์จากปศุสัตว์ไทย หารือกับตัวแทนผู้บริหารบริษัท SALIC นาย Norberto Giangrande ประธานบริษัท และนาย Fernando Queiroz – CEO บริษัท MINERVA ณ บริษัท SALIC เนื่องจากฝ่ายซาอุดีอาระเบียสนใจในศักยภาพการส่งออกโคเนื้อมีชีวิตของไทยไปยังตลาดอาเซียนและจีน ที่มีมูลค่ากว่า 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
โฆษกรัฐบาล ระบุถึงการหารือครั้งนี้ ว่า ทั้ง 2 ฝ่ายตกลงที่จะเริ่มความร่วมมือในด้านเทคนิค MINERVA ซึ่งเป็นบริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านโคเนื้อที่มีการลงทุนในหลายประเทศทั้งในอเมริกาใต้ และออสเตรเลีย เชื่อมั่นว่าการถ่ายทอดเทคโนโลยีการเลี้ยงและการจัดการแบบบราซิลซึ่งเป็นผู้นำด้านโคเนื้อของโลก จะช่วยให้ไทยสามารถผลิตโคเนื้อในราคาที่แข่งขันกับประเทศออสเตรเลียซึ่งเป็นคู่แข่งสำคัญในตลาดอาเซียนได้
ทั้งนี้ MINERVA ได้เชิญตัวแทนจากกรมปศุสัตว์ และสมาคมผู้ส่งออกฯ ของไทย ไปศึกษาดูงานด้านปศุสัตว์ที่บราซิลในเดือนธันวาคม 2566 หลังจากนั้นทาง MINERVA และ SALIC จะจัดทีมผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิคเดินทางเข้ามาในไทยเพื่อวางแผนเรื่องแนวทางความร่วมมือและการลงทุนของ MINERVA และ SALIC ในช่วงเดือนมกราคม 2567 ต่อไป
...
“การหารือกันอย่างต่อเนื่องของฝ่ายไทยและซาอุดีอาระเบียนี้ เป็นการหารือจากโอกาสที่เปิดขึ้นจากการเดินทางร่วมการประชุมสุดยอด ASEAN – GCC Summit ณ ประเทศซาอุดีอาระเบีย เมื่อระหว่างวันที่ 20-21 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา ของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ซึ่งนายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นในศักยภาพ มาตรฐาน และการจัดการอย่างเป็นระบบของสินค้าปศุสัตว์ไทย ประกอบกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทีมประเทศไทยขานรับ เร่งดำเนินการตามแนวทางที่นายกรัฐมนตรีมอบไว้อย่างทันท่วงที ซึ่งทำให้เห็นความก้าวหน้าของการหารืออย่างชัดเจน ทั้งนี้ เชื่อมั่นว่าโอกาสที่เกิดขึ้นนี้จะส่งต่อเป็นความสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรมต่อชาวไทย”