ตัวแทนแจงกมธ. แก้หนี้-โผผกก. “นายกฯเศรษฐา” ติดประชุม “พท.”

“จุลพันธ์” ย้ำชัดสัปดาห์หน้ากฎหมายกู้ 5 แสนล้านเงินดิจิทัลถึงมือกฤษฎีกาแน่ หอการค้าไทยหนุนกระตุ้นเศรษฐกิจ แนะแจกแค่กลุ่มเปราะบางตัดปัญหาไม่ต้องกู้เงิน “นายกฯนิด” เก็บตัวรับแขก-ตามงานบนตึกไทยคู่ฟ้า จนท.เตรียมห้องพักให้นอนค้างทำเนียบฯไว้พร้อมแล้ว วางคิวส่งท้ายปีลงพื้นที่ ตจว.ยาวเหยียด “โรม” ถล่มปมหลุดปาก สส.ขอตำแหน่ง ผกก. ซัดไม่แก้ปัญหาตั๋วตำรวจแถมสะท้อนระบบอุปถัมภ์ชัดเจน ถามหาสปิริตลาออก เดินหน้าบี้ทุกช่องทาง นักร้อง “ศรีสุวรรณ” ไม่พลาดยื่นร้อง ป.ป.ช.สอยจริยธรรม ป.ป.ช.รับลูกสอบ 360 องศา รองเลขานายกฯยัน 7 ธ.ค. นายกฯติดประชุมพรรค พท.ไม่ว่างไปพบ กมธ.ปมแก้หนี้-หลุดปากโผ ผกก.แต่อาจส่งตัวแทนไปแทน ยันชี้แจงได้ทุกประเด็น ขณะที่ สส.เพื่อไทย-ผบ.ตร.ปัดไม่มีตั๋วใดๆ เปิดบัญชีทรัพย์สิน “ป้อม-ตู่”

หลังจากนายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ออกมาเปิดเผยระบุยังไม่ได้รับร่างพ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนล้านบาทที่ใช้ในโครงการแจกเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท จากรัฐบาล ล่าสุดเป็นที่ชัดเจนแล้วว่า รัฐบาลจะส่งร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวไปถึงคณะกรรมการกฤษฎีกาได้อย่างแน่นอนในสัปดาห์หน้า

...

“เศรษฐา” จี้ รมต.เร่งปั่นงาน

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 24 พ.ย.ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง เข้าปฏิบัติหน้าที่ทำเนียบรัฐบาลตามปกติ โดยเรียกรัฐมนตรีมาหารือ อาทิ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง และนายจักรพงษ์ แสงมณี รมช.ต่างประเทศ เป็นต้น รวมถึงเรียกหน่วยงานต่างๆติดตามงาน กระทั่งเวลา 11.30 น. นายสมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ ประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) นำคณะผู้บริหารสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทยเข้าพบเพื่อหารือประเด็นนโยบายด้านการวิจัย ที่ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้าจากนั้นเวลา 13.30 น. นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย นำคณะเข้าพบหารือขับเคลื่อนโครงการ “พัฒนาเมืองรอง 10 จังหวัด” เป็นเมืองหลัก ที่ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า จากนั้นเวลา 15.20 น. ถึงเดินทางกลับ

ที่นอนในทำเนียบฯ พร้อมแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความคืบหน้าการจัดเตรียมห้องพักนายกฯ บนตึกไทยคู่ฟ้า ที่นายกฯ มีดำริจะเริ่มมานอนพักค้างคืนที่ทำเนียบรัฐบาลในช่วงหลังปีใหม่ ล่าสุดกองสถานที่ยานพาหนะและรักษาความปลอดภัย ทำเนียบรัฐบาล นำเตียงนอนขนาดใหญ่ อุปกรณ์เครื่องนอนเข้าไปจัดเตรียมไว้ในห้องพักเป็นที่เรียบร้อย รวมถึงให้บริษัทเอกชนมาติดตั้งระบบน้ำ บนชั้น 2 ตึกไทยคู่ฟ้าเรียบร้อยแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา กองสถานที่ยานพาหนะและรักษาความปลอดภัยได้ขนย้ายรูปปั้น “นรสิงห์” จำลองที่ตั้งอยู่ที่บริเวณระเบียงด้านหน้าชั้น 2 ตึกไทยคู่ฟ้า สมัยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกฯ และ รมว.กลาโหม ไปตั้งไว้บนโต๊ะมุกชั้น 1 ตึกแสงอาทิตย์ ตึกแฝดติดกับตึกนารีสโมสร

เร่งปราบเฟกนิวส์มัดใจ นทท.จีน

ต่อมาเวลา 17.31 น. นายเศรษฐาทวีตภาพและข้อความผ่าน X ระบุว่า “สภาหอการค้าไทยเข้ามาเสนอแนวทางยกระดับการท่องเที่ยวไทย โดยมีกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาและการท่องเที่ยว แห่งประเทศไทย (ททท.) เข้าร่วมรับฟังพร้อมกัน ตรงนี้ถือเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่อย่างมาก ทั้งภาคธุรกิจโรงแรม อาหาร สถานที่ท่องเที่ยว แหล่งวัฒนธรรมและอื่นๆจะเปิดโปรเจกต์ใหม่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวเมืองรองช่วงต้นปีหน้า ฝากติดตามกันด้วย ต่อมาได้ทวีตอีกว่า ตนเชิญ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ผู้ช่วย ผบ.ตร.ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และผู้ว่าการ ททท.มาเร่งรัดติดตามการตอบโต้ข่าวเฟกนิวส์ที่มีผลกระทบต่อนักท่องเที่ยวจีน และขอยืนยันว่าประเทศไทยมีความปลอดภัย

จัดหนักทัวร์ยาวลงพื้นที่ส่งท้ายปี

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในวันที่ 25 พ.ย. นายเศรษฐาจะลงพื้นที่เพื่อติดตามงาน จ.สระแก้วแล้ว ต่อจากนั้นวันที่ 27 พ.ย.จะบินลงพื้น จ.สงขลา ไปพบหารือกับนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ช่วงเย็นวันเดียวกันบินไป จ.สุโขทัย และร่วมพิธีเผาเทียน ชมการแสดง แสงสีเสียง พลุ ตะไล ไฟพะเนียง ร่วมลอยพระประทีปพระราชทาน ที่อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย และบินกลับมาเป็นประธานประชุม ครม.ที่ทำเนียบรัฐบาลในวันที่ 28 พ.ย.ก่อนบินลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่ในวันที่ 29 พ.ย.จากนั้นวันที่ 30 พ.ย.ไป จ.อุตรดิตถ์ เช้าวันที่ 1 ธ.ค.ลงพื้นที่ จ.พิษณุโลก ช่วงเย็นบินไป จ.ภูเก็ต ก่อนไป จ.อุดรธานีและหนองบัวลำภู และประชุม ครม.อย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ในวันที่ 3-4 ธ.ค.และร่วมสัมมนาพรรค พท.ในวันที่ 6-7 ธ.ค.แล้วไปลงพื้นที่ จ.กาญจนบุรีในวันที่ 9 ธ.ค.เพื่อตรวจเส้นทางมอเตอร์เวย์ ปัญหาที่ดินทำกิน ปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก และอุโมงค์ผันน้ำแก้ปัญหาภัยแล้ง

สัปดาห์หน้า ก.ม.เงินกู้ถึงกฤษฎีกา

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าหารือกับนายกฯถึงความคืบหน้าการจัดทำร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนล้านบาทในโครงการเงินดิจิทัลวอลเล็ตส่งให้คณะกรรมการ กฤษฎีกาพิจารณาว่า สัปดาห์หน้าค่อยมาตอบชัดๆดีกว่า เมื่อถามย้ำว่านายกฯให้สัมภาษณ์คาดอีกไม่กี่วันจะส่งให้กฤษฎีกาแล้ว สัปดาห์หน้าจะส่งให้กฤษฎีกาได้ใช่หรือไม่ นายจุลพันธ์ตอบว่า “ครับผม”

“สนั่น” แนะแจกเฉพาะกลุ่มไม่ต้องกู้

นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศ ไทย ให้สัมภาษณ์ถึงโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาทว่า ถือเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยตรง อยากให้กำลังใจรัฐบาลให้สามารถจัดสรรเงินให้ถึงมือประชาชนโดยเร็วที่สุด หลังจากที่จัดสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ พบว่า SMEs แต่ละภาคค่อนข้างเดือดร้อน ประชาชนต้องการใช้เงินจับจ่ายใช้สอย ถ้าเป็นไปได้มีกลุ่มเปราะบาง 14-15 ล้านคน โดยจ่ายผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตัง หากทำได้เร็วจะเป็นประโยชน์กับกลุ่มเป้าหมายที่เราอยากจะช่วย เมื่อถามว่า แสดงว่าเห็นว่าควรจ่ายให้สำหรับกลุ่มเปราะบางใช่หรือไม่ นายสนั่นยอมรับว่า ใช่ และไม่ควรจะรอช้าเกินไป เมื่อถามต่อว่า เมื่อจ่ายเฉพาะกลุ่มเปราะบางก็ไม่จำเป็นต้องออก พ.ร.บ.กู้เงินถึง 5 แสนล้านบาทใช่หรือไม่ นายสนั่นตอบว่า คงจะเป็นลักษณะนั้น อย่างโครงการคนละครึ่งที่ประสบความสำเร็จ เมื่อถามย้ำว่า ขณะนี้ประเทศอยู่ในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจตามที่รัฐบาลประเมินหรือไม่ นายสนั่นตอบว่า อาจพูดได้ว่าในไตรมาสที่ 3 จีดีพีโตเพียง 1.5% มาจากสาเหตุจัดตั้งรัฐบาลอยู่ในช่วงสุญญากาศจนใช้งบฯไม่ได้ แต่หากพูดถึงการลงทุนของภาคเอกชนในไตรมาสที่ 3 ถือว่าบวก 8% แต่ส่วนของภาครัฐมีการลงทุนน้อย ทำให้การจับจ่ายใช้สอยของคนแผ่วบางลง แต่ยืนยันว่า เราคงต้องไปต่อ

“โรม” ขยี้นายกฯระบบอุปถัมภ์

อีกเรื่องกรณีนายกฯหลุดคำพูดกลางวงประชุมสส.พรรคเพื่อไทย (พท.) เรื่องมีคนผิดหวังและสมหวังขอตำแหน่งระดับผู้กำกับสถานีตำรวจ โดยเมื่อเวลา 09.30 น.ที่อาคารอนาคตใหม่ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรค ก.ก. ตั้งโต๊ะแถลงหัวข้อ “Policy Watch”ประเด็น “หยุดระบบตั๋วและปฏิรูปตำรวจไทย” นายรังสิมันต์กล่าวตอนหนึ่งถึงปัญหาตั๋วตำรวจว่า หลายเหตุการณ์ที่ผ่านมา เป็นบทเรียนนำไปสู่การทบทวน สังคายนาตำรวจอย่างจริงจัง กลายเป็นว่าวันนี้เราเห็นคำพูดที่พูดได้อย่างเป็นธรรมชาติจากนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯเกี่ยวกับระบบอุปถัมภ์ นี่คือเรื่องใหญ่ที่แสดงให้เห็นว่า ระบบอุปถัมภ์ในองค์กรตำรวจไม่ได้หมดไป วันต่อมาคำชี้แจงของนายเศรษฐาก็ไม่สะท้อนถึงความ รู้สึกผิดชอบชั่วดี แต่สะท้อนระบบอุปถัมภ์ คนมีอำนาจอย่างนายกฯควรแก้ปัญหา ไม่ใช่เข้าร่วมกับปัญหา วันนี้ปรากฏการณ์ใหม่ คือ การเงียบไม่ชี้แจง

ชงกระดุม 5 เม็ดปฏิรูปตำรวจ

นายรังสิมันต์ กล่าวว่า เราต้องติดกระดุม 5 เม็ดปฏิรูปตำรวจ เม็ดแรก ต้องทำให้การเลือก ผบ.ตร.มาจากความสามารถ อาทิ เปิดโอกาสให้รอง ผบ.ตร.ที่สมัครเป็น ผบ.ตร.แสดงวิสัยทัศน์แก่สังคม สร้างแพลตฟอร์มออนไลน์ให้มีระบบยืนยันชัดเจนว่า เป็นตำรวจแต่ไม่เปิดเผยตัวตน ให้ตำรวจสมัครใช้บริการเพื่อโหวตได้ว่า รอง ผบ.ตร.คนใดสมควรขึ้นเป็น ผบ.ตร. เม็ดที่สอง กระจายอำนาจตำรวจให้จังหวัดและประชาชนเข้ามามีบทบาท เม็ดที่สาม นายกฯต้องไม่ทำให้ตำรวจหิวต้องยกระดับงบประมาณ อะไรที่ไม่จำเป็นตัดไป และนำเงินมาให้ตำรวจระดับล่าง เม็ดที่สี่ ต้องส่งเสริมให้ตำรวจชั้นประทวนมีโอกาสเติบโต มีความหวังในหน้าที่การงานและเม็ดที่ห้า ต้องเลิกให้ตำรวจทำในสิ่งที่ไม่จำเป็น อย่างการยกโขยงไปเป็นขบวนของผู้บังคับบัญชามากเกินกว่าเหตุ ต้องลดภาระของตำรวจเหล่านี้ให้น้อยลง โดยให้ตำรวจเหล่านี้มีจุดมุ่งหมาย คือการทำงานเพื่อประชาชน

จัดไซส์ 5 ตั๋วตำรวจ ขอกันโจ๋งครึ่ม

นายรังสิมันต์ ให้สัมภาษณ์ว่า ถ้าฟังจากนายกฯ ชี้แจงทั้งหมด ตอนนี้เขาใช้วิธีการเงียบ ตนพยายามหาข้อมูลจากนาตาชา ในองค์กรตำรวจ ค่อนข้างยืนยันไปในทิศทางเดียวกัน คำที่เขาใช้กันคือ ตั๋วการเมืองมีแน่ แต่มันยังอยู่ในระหว่างการทำโผถ้าโผออกมาคงจะได้เห็นชัดเจน แต่ถ้าตอบคำถามว่า ตั๋วเพื่อไทย มันจะไซส์ไหนนั้น ขอจัดตั๋วเอาไว้ 5 ประเภท คือ 1.ตั๋วช้าง 2.ตั๋ว สร.1 คือโค้ดที่หมายถึงนายกฯ 3.ตั๋ว ผบ.ตร. 4.ตั๋วนาย สมมติผู้บังคับบัญชาจะย้ายไปที่ไหนจะหิ้วตำรวจคนสนิท 2-3 คนไปด้วย และ 5.คือตั๋วอื่นๆบางทีมีพระสงฆ์ไปขอให้ก็มีหรือผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองเขียนขอกันโดยตรงก็มี ถ้าถามตนว่าตั๋ว สร.1 มันขนาดไหน มันเกือบจะที่สุดรองมาจากตั๋วช้าง ไม่รู้ว่าตั๋วเพื่อไทยในรอบนี้ นายกฯทำแบบไหน วันที่ 7 ธ.ค. คณะ กมธ.ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ จะเชิญนายกฯมาชี้แจงและคงได้ติดตามกัน

วัดใจสปิริต “เศรษฐา” ลาออก

นายรังสิมันต์กล่าวว่า ตนมองคำพูดของนายกฯ ชัดเจนว่า หมายถึงเรื่องตั๋ว ถ้าบอกว่าตัวเองเป็นคนน่าเชื่อถือ มีสติสัมปชัญญะในการพูด เราไม่ได้มีคนวิกลจริตเป็นนายกฯ แบบนั้นนายกฯต้องรับผิดชอบ ต้องเดินตามกฎหมาย คำถามคือว่า คุณอยากใช้มาตรฐานไหน ความผิดที่ชัดเจนแบบนี้ ถ้าเป็นปกติประเทศอื่นที่เขาเป็นอารยะ ถ้าเจออะไรที่มันมีความผิดมาก นายกฯจะมีความรับผิดชอบทางการเมืองก่อน เช่น ในต่างประเทศเขาก็อาจจะลาออก นายกฯจะมีสปิริตแสดงความรับผิดชอบทางการเมืองลาออกหรือไม่ เป็นเรื่องของนายกฯที่ต้องตัดสินใจ และเป็นสิ่งที่เราต้องใช้เป็นตัววัดคุณภาพของนายกฯคนนี้ นายกฯจะเดินต่อไปก็ได้ แต่ในแง่ของกระบวนการทางกฎหมาย ฝ่ายค้านขอเวลาในการหารือยังมีเวลา เราอาจจะรอดูหลังจากกรรมาธิการเรียกนายกฯมาชี้แจงก่อน หลังจากนั้นจะมาตัดสินใจกันว่าจะเดินกันอย่างไร แต่แน่นอนช่องทางกฎหมายการตรวจสอบตรงนี้มันไม่ได้มีแค่ฝ่ายค้าน ต้องรอดูกันว่ากระบวนการตรวจสอบจะใช้กับนายกฯคนนี้ได้หรือไม่

“ศรีฯ” ยื่น ป.ป.ช.สอยจริยธรรม

เมื่อเวลา 10.00 น.ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน ยื่นเรื่องให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและ รมว.คลัง กรณีการก้าวก่ายแทรกแซงการแต่งตั้งนายตำรวจระดับ ผกก.หรือไม่ โดยนายศรีสุวรรณกล่าวว่า จากกรณีนายกฯพูดในที่ประชุมสส.พรรคเพื่อไทย วันที่ 21 พ.ย. หลุดปากพูดในทำนอง สส.วิ่งเต้นฝากนายตำรวจระดับ ผกก. คำพูดของนายกฯเป็นเรื่องขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 186 วรรค 2 เข้าข่ายฝ่าฝืนจริยธรรม รวมถึง สส.ที่มีพฤติการณ์ขอตำแหน่ง ผกก.ผ่านนายกฯเข้าข่ายผิดจริยธรรรมเช่นกัน ตอนหาเสียงนายเศรษฐายืนยันหนักแน่นจะไม่ทุจริต ใช้อำนาจแทรกแซงโยกย้ายข้าราชการ สร้างระบบอุปถัมภ์ วันนี้ความจริงถูกเปิดเผยพฤติการณ์ ป.ป.ช.สามารถเรียกนายกฯมาสอบว่า สส.คนใดเสนอให้โยกย้ายผู้กำกับ สิ่งที่ นายกฯชี้แจงมาเหมือนแก้ตัวน้ำขุ่นๆหาเหตุอ้างว่า ตัวเองไม่ได้ทำ แต่คำพูดของนายกฯเป็นประจักษ์พยานชัดเจน เป็นใบเสร็จ ไม่สามารถลบล้างสิ่งที่พูดไปได้ นายกฯชอบพูดอย่างทำอย่างมาหลายครั้ง ทำให้ความน่าเชื่อถือผู้นำประเทศหายไป ถูกจับได้ก็ปฏิเสธพัลวัน สีข้างแดงเถือก

ป.ป.ช.รับลูกลุยสอบ 360 องศา

ขณะที่นายภูเทพ ทวีโชติธนากุล ผู้ช่วยเลขา ธิการ ป.ป.ช. และรองโฆษก ป.ป.ช. กล่าวว่าเป็นหน้าที่ที่ ป.ป.ช.ต้องตรวจสอบเรื่องหลุดปากเรื่องสส.ขอตำแหน่ง ผกก.โดยพิจารณาจากพยานหลักฐานทั้งคลิปที่นายกฯพูด ข้อมูลของนายศรีสุวรรณ หรือที่ผู้หวังดีส่งมาให้ประกอบกันทั้งหมด รวมถึงสามารถส่งเจ้าหน้าที่ไปหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ ยิ่งถ้าเป็นเรื่องที่สาธารณะให้ความสนใจจะจัดลำดับขึ้นมาดำเนินการก่อน ผู้สื่อข่าวถามว่า อะไรเป็นพยาน หลักฐานสำคัญที่บ่งชี้ความผิดได้ เพราะขณะนี้มีแค่คำพูดที่เป็นคลิปของนายกฯ นายภูเทพตอบว่า เป็นหน้าที่ ป.ป.ช. ต้องดำเนินการว่า เรื่องที่ปรากฏตามสื่อมีที่มาที่ไปอย่างไร และขอข้อมูลจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เรื่องการแต่งตั้งระดับผู้กำกับ ต้องหาข้อเท็จจริงทั้งหมด 360 องศา ไม่ได้รับฟังแค่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เมื่อถามว่า ป.ป.ช.กดดันหรือไม่ ที่ต้องสอบนายกฯ นายภูเทพ ตอบว่า เป็นงานประจำของ ป.ป.ช.อยู่แล้ว ป.ป.ช.ตรวจสอบนายกฯมาหลายคน รวมถึงรัฐมนตรี เจ้าหน้าที่รัฐ ก็เป็นงานปกติ ป.ป.ช.

7 ธ.ค.นายกฯไม่ว่างแจง กมธ.

เมื่อเวลา 11.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกฯฝ่ายการเมือง เปิดเผยถึงกรณีที่นายชัยชนะ เดชเดโช ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ประสานเพื่อเชิญนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและรมว.คลัง ไปตอบคำถาม เกี่ยวกับการแก้หนี้นอกระบบ และการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจ ตามที่เป็นประเด็นอยู่ในขณะนี้ต่อ กมธ.ตำรวจในวันที่ 7 ธ.ค. แต่เนื่องจากวันดังกล่าวพรรคเพื่อไทย (พท.) จัดสัมมนาพรรคที่ จ.นครราชสีมา ล่วงหน้าอยู่แล้ว ไม่สามารถเข้าไปตอบคำถามได้ ยืนยันนายกฯพร้อมตอบคำถาม และชี้แจงในประเด็นดังกล่าว ขอให้นายชัยชนะประสานมาที่ตนอีกครั้ง เพื่อดูเวลาที่ตรงกัน ส่วนนายกฯจะไปเองหรือมอบหมายใครไป คงต้องดูในรายละเอียดกันอีกครั้ง แต่ยืนยันประเด็นนี้สามารถชี้แจงได้

“วรวัจน์” ยัน พท.ไม่มีตั๋วตำรวจ

นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล สส.แพร่ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า ข้อเท็จจริงการประชุม สส.พรรค พท.ทุกๆสัปดาห์ นายกฯ ประกาศชัดเจนในที่ประชุมว่า การโยกย้ายแต่งตั้งอะไรก็แล้วแต่ ทุกคนไม่ต้องเสียเวลาฝากที่นายกฯเพราะไม่มีอำนาจ สมาชิกทุกคนรับรู้กันทั้งหมดแล้ว ประเด็นที่เกิดขึ้นนั้น สส.อีสาน นำเรื่องร้องเรียนไปแจ้งต่อนายกฯถึงปัญหากลุ่มหมวกกันน็อกหนี้นอกระบบคุกคามประชาชน ตั้งแต่ยุคพรรคไทยรักไทยมีการนำเอาผู้กำกับและนายอำเภอดึงเอาลูกหนี้ และเจ้าหนี้มาคุยกัน ทำให้แก้ไขปัญหาได้ นายกฯรับโจทย์ไป ยังมีเรื่องยาเสพติด จึงมาเล่าให้ฟังว่าได้ไปดำเนินการแก้ไขปัญหาแล้ว และจะเรียกประชุมใหญ่ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องต่อเนื่องต่อไป สามารถแก้ไขปัญหาได้ระดับหนึ่ง บางคนบางพื้นที่สมหวัง บางคนบางพื้นที่ผิดหวัง เรื่องที่นายกฯพูดไม่เกี่ยวข้องกับการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจ เป็นไปไม่ได้ที่นายกฯจะมาเล่าเรื่องการโยกย้ายแต่งตั้งตำรวจต่อหน้าสื่อเต็มไปหมด

ผบ.ตร.ปัดไม่เคยมี สส.ขอมา

ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 จ.เชียงใหม่ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. กล่าวถึงกรณีการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับรอง ผบก.-สว.ประจำปี 2566 ที่มีกระแสข่าวว่ามีตั๋วจากนักการเมืองว่า เป็นกระแสข่าวที่อยู่ในสังคมแต่มันไม่ได้เกี่ยว ตั้งแต่ตนยืนอยู่ในตำแหน่งตรงนี้ยังไม่มีใครเอาตั๋วมา นายกฯไม่เคยโทร.มา ไม่มียืนยัน ไม่มี สส.ไหนมาทั้งนั้น ตนเดินสายการเมืองมาหรือเปล่า เขารู้ว่าขอตนไม่ได้ไม่มีแน่นอน ให้เวลาเป็นตัวพิสูจน์ เดี๋ยวผลออกมาก็จะรู้ว่าตำแหน่งพวกนี้เป็นการเมืองหรือไม่ เพราะว่ากรอบของนายพลตนตั้งหลักกรอบไว้ให้แล้ว ได้มีการกำชับกับผู้บัญชาการไปแล้วว่าในระดับนายพลตนทำกรอบไว้ให้แล้ว ให้เป็นไปตามกฎหมายมันบังคับ ทำอะไรไม่ได้ กระแสมันไปแบบนั้น ยืนยันเสร็จตามกรอบเวลาภายในสิ้นเดือนนี้แน่นอน

กกต.เล็งใช้งบประชามติ 3 พันล้าน

ที่โรงแรมเซ็นทรา บาย เซ็นทารา ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. กล่าวถึงข้อเสนอแก้ไข พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติเกี่ยวกับจำนวนผู้มีสิทธิออกเสียงที่ต้องออกมาใช้สิทธิเกินกึ่งหนึ่ง และต้องได้เสียงเกินกึ่งหนึ่งของผู้มาใช้สิทธิว่า กกต.ไม่มีความเห็นเรื่องนี้ แค่ติดตามความเคลื่อนไหวว่าจะมีประชามติหรือไม่ ในฐานะฝ่ายปฏิบัติ กตต.มีความพร้อมไม่ว่าจะมีประชามติเมื่อใด ส่วนงบประมาณทำประชามติคาดว่าจะใช้ 3,000 ล้านบาท จากเดิมครั้งที่ผ่านมาใช้ 2,700 ล้านบาท เพราะมีจำนวนผู้มีสิทธิออกเสียงเพิ่มขึ้น ทำให้มีหน่วยออกเสียงและกรรมการประจำหน่วยเพิ่มตามไปด้วย

เหลือคดีโกงเลือกตั้งไม่ถึง 100 คดี

นายแสวงยังกล่าวถึงความคืบหน้าพิจารณาเรื่องร้องเรียนการเลือกตั้งวันที่ 14 พ.ค.2566 ว่า คณะกรรมการสืบสวนและเลขาธิการ กกต.พิจารณาคำร้องอยู่ทุกสัปดาห์ ปัจจุบันมีร้องเรียนเหลืออยู่ไม่ถึง 100 เรื่อง เรื่องที่ไม่ซับซ้อน กกต.พิจารณาไปแล้ว ตอนแรกมีสำนวนกว่า 300 เรื่อง แต่เมื่อมาพิจารณายังไม่ถึงขั้นกระทำผิด จึงยกคำร้อง ส่วนคำร้องที่เหลือจะพิจารณาให้เสร็จโดยเร็ว ส่วนที่สังคมตั้งคำถาม กกต.พิจารณาคำร้องเฉพาะผู้สมัครสอบตก หรือผู้มีสิทธิเลือกตั้งเท่านั้น คงไม่ใช่ กกต.พิจารณาจากสิ่งที่ได้จากการควบคุมการเลือกตั้ง ข้อมูลการข่าว การแจ้งเบาะแสผู้ตรวจการเลือกตั้ง และชุดเคลื่อนที่เร็ว เมื่อนำมาตรวจสอบยังไม่มีมูลเพียงพอ จึงยกคำร้องไป

ขีดเส้นตาย 2 สส.หาสังกัดใหม่

นายแสวงกล่าวว่า ส่วนกรณี 2 สส.ที่ถูกพรรคก้าวไกลขับจากสมาชิกพรรคนั้น ต้องหาสังกัดใหม่ใน 30 วัน ถ้าหาไม่ทันเวลาที่กำหนด ต้องพ้นสมาชิกภาพ สส. และเลือกตั้งแทนตำแหน่งที่ว่าง ทั้ง 2 คน ยังมีเวลาหาพรรคใหม่ หรืออาจไปเป็นสมาชิกพรรคใด ก็ได้ กรณี สส.ที่ถูกพรรคขับออกจากสมาชิกวันที่ 31 ต.ค. ต้องหาพรรคใหม่ให้ทันในวันที่ 1 ธ.ค. ส่วนอีกกรณีจะพ้นวันที่ 7 ธ.ค.

“ธรรมนัส” แถลงปราบหมูเถื่อน

เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ แถลงความคืบหน้าการปราบหมูเถื่อนว่า กลุ่มผู้กระทำผิดที่ถูกออกหมายจับ หมายค้น มีการมอบตัว โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ทำสำนวนส่งไปที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีการซัดทอดไปถึงนักการเมืองใหญ่ แต่ยังเปิดเผยชื่อไม่ได้ เพราะมีกฎหมายคุ้มครอง สรุปหมูเถื่อน 161 ตู้คอนเทนเนอร์ที่จับได้สาวถึงต้นตอทั้งหมดมีนักการเมืองใหญ่ กลุ่มนักการเมือง กลุ่มพ่อค้า กลุ่มชิปปิ้ง ลูกจ้างร่วมขบวนการ นักการเมืองใหญ่มีอักษรย่อ ป.ตามกระแสข่าวใช่หรือไม่นั้น อย่าไปเอ่ยเช่นนั้น ผิดกฎหมาย ในส่วนการขยายผลต่อได้ตั้งทีมพญานาคราชเป็นชุดปฏิบัติการพิเศษ ทำงานเชิงรุก ได้รับนโยบายจากนายกฯเซ็ตซีโร่ห้องเย็นทั่วประเทศ และห้องเย็นตามรถบรรทุกให้ขึ้นทะเบียนใหม่ ถ้าไม่มาขึ้นทะเบียนภายในวันที่ 15 ธ.ค.ถือเป็นผู้ประกอบการเถื่อน จะดำเนินคดีอาญาทันที ส่วนที่ชาวบ้านกลัวโรคระบาดจากหมูเถื่อน 161 ตู้ที่ยึดไว้ โดยไม่มีการทำลายจริงนั้น ภายในสิ้นเดือน พ.ย.จะทำลายและฝังกลบทั้งหมด จะเปิดเผยให้สังคมทราบ มีคณะกรรมการตรวจสอบทั้งหมด

แฉนักการเมือง-ขรก.เอี่ยวแก๊ง

พ.ต.ต.สุริยา สิงกมล อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวว่า ตัวละครที่เกี่ยวข้องขบวนการค้าหมูเถื่อนขอสงวนไว้ แต่สื่อมีข้อมูลเปิดเผยไปแล้วบางส่วน ทุกรายละเอียดนำเรียนผู้บริหารสูงสุดแล้ว มีจำนวนผู้ร่วมขบวนการที่เป็นข้าราชการ และอดีตข้าราชการอยู่หลักสิบ ข้าราชการฝ่ายการเมืองไม่ถึง 10 คน และมีกลุ่มนายทุน กลุ่มขบวนการบริษัท ความผิดแบบนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้ ถ้าความต้องการหมูเถื่อนไม่เกิดขึ้น กลุ่มข้าราชการ นักการเมืองคงไม่เอาหมูเข้ามาขายเอง ต้องมีกลุ่มที่สั่ง ดีเอสไอจะดำเนินการให้ครบทั้งวงจร เพราะเป็นกลุ่มอาชญากรใหญ่ สร้างความเสียหายด้านอาหาร อาชีพเกษตรกร จะจับคนผิดให้ถึงต้นตอ ภายในต้นปีนี้ทุกอย่างจะคลี่คลาย ใครมีข้อมูลเบาะแส แจ้งมาโดยตรงที่กระทรวง เกษตรฯ และดีเอสไอ

“นายกฯ ตู่” 9 ปี รวยขึ้น 1.5 ล้าน บ.

วันเดียวกัน สำนักงาน ป.ป.ช.เปิดเผยบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง 18 ราย ที่น่าสนใจคือ บัญชีทรัพย์สินอดีตรัฐมนตรีในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กรณีพ้นตำแหน่งเมื่อวันที่ 5 ก.ย.2566 จำนวน 9 ราย อาทิ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกฯและ รมว.กลาโหม ที่เปิดเผยทรัพย์สินครั้งแรกในรอบ 9 ปี หลังจากที่เคยยื่นไว้เมื่อปี 2557 มีทรัพย์สินรวม 130,191,162 บาท ไม่มีหนี้สิน เป็นของ พล.อ.ประยุทธ์ 98,663,683บาท และของนางนราพร จันทร์โอชา คู่สมรส 31,527,479 บาท เมื่อเทียบกับตอนที่ยื่นเข้ารับตำแหน่งวันที่ 4 ก.ย.2557 มี 128,664,535 บาท มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 1,526,627 บาท ขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อดีตรองนายกฯ แจ้งสถานะโสด มี 89,214,637บาท ที่น่าสนใจในรายการทรัพย์สินอื่นๆ ในนั้นมีนาฬิกาข้อมือ TW STEEL มูลค่า 15,000 บาท อยู่เพียง 1 เรือน มีหนี้สิน 757 บาท จากเงินเบิกเกินบัญชีเมื่อเทียบกับกรณีเข้ารับตำแหน่งปี 2557 มี 87,373,757บาท รวม 9 ปี เพิ่มขึ้น 1,840,880 บาท

“วีรศักดิ์”เครดิตดีค้ำหนี้ 2.6 พันล้าน

นายดอน ปรมัตถ์วินัย อดีต รมว.ต่างประเทศ มี 137,061,019 บาท พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล อดีตรมช.กลาโหม มีทรัพย์สิน 36,852,539 บาท นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล อดีต รมช.คมนาคม มี 574,263,202 บาท ที่น่าสนใจนายวีรศักดิ์แจ้งมีหนี้สินทั้งสิ้น 2,653,428,984 บาท จากการค้ำประกันสินเชื่อธนาคาร 5 แห่ง ส่วนนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ อดีต รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา แจ้งบัญชีทรัพย์สินกรณีพ้นตำแหน่งรองประธานกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 1 ก.ย.2566 มี 1,572,623,591 บาท มีหนี้สิน 2,484,915 บาท นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ อดีต รมว.คลัง ยื่นกรณีพ้นตำแหน่งประธานกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร เมื่อวันที่ 5 ก.ย.66 มี 25,801,551 บาท

“กฤษฎา” รับเบี้ยประชุมปี 13 ล้าน

ส่วนบัญชีทรัพย์สินของ ครม.รัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน ที่น่าสนใจ อาทิ นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ รมช.คลัง มี 73,458,483 บาท มีหนี้สิน 79,064บาท ที่น่าสนใจแจ้งว่า มีรายได้ปีละประมาณ 16,011,155 บาท ในจำนวนนี้เป็นเบี้ยประชุมต่อปีมากถึง 13,071,528 บาท นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม มี86,149,553 บาท พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ มี 79,847,966 บาท มีหนี้สิน 268,961 บาท นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมว.วัฒนธรรม มี 63,361,757 บาทเป็นของนายเสริมศักดิ์ 34,635,030 บาท และของนางระเบียบรัตน์ พงษ์พานิช คู่สมรส 28,726,726 บาท ทั้งนี้ นายภูเทพ ทวีโชติธนากุล ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช.และรองโฆษก ป.ป.ช. เปิดเผยว่า ในส่วนของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และ รมว.คลัง ได้ยื่นขอขยายเวลายื่นบัญชีทรัพย์สินออกไป 30วัน

อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

‘ไต้ฝุ่นยางิ’ ทำ ‘เศรษฐกิจเวียดนาม’ เสียหายกว่า 5 หมื่นล้านบาท

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า พายุไต้ฝุ่นยางิ ถล่มเมียนมา เวียดนาม ลาว และไทยด้วยกำลังลมที่แรงมาก และทำใ...

ท่วมหนักสุด 'ในรอบ 3 ทศวรรษ' พายุบอริสถล่มยุโรป ผลกระทบจากโลกร้อน

จากหย่อมความกดอากาศต่ำที่ชื่อว่า “พายุบอริส” ส่งผลให้มีฝนตกหนักจากออสเตรียไปจนถึงโรมาเนีย จนเกิด “น้...

ฮามาสโวความสามารถสูง ทำสงครามกาซาต่อได้แม้สูญเสีย

นายโอซามา ฮัมดัน ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวเอเอฟพี เมื่อวันที่ 15 ก.ย. ที่นครอิสตันบูลของตุรกี ระบุ “ขบวนก...

สงครามสู้ฮามาสและยอดส่งออกร่วง กดดันจีดีพี ‘อิสราเอล’ Q2 ให้โตเพียง 0.7%

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจของอิสราเอลในไตรมาสที่สองชะลอตัวมากกว่าที่คาดการณ์ไ...