ปิดม่านไปอย่างสวยงาม สำหรับ งานมหกรรมศิลปะการแสดงและดนตรีนานาชาติกรุงเทพฯ ครั้งที่ 25 (Bangkok’s 25th International Festival of Dance & Music) ที่รวบรวมโชว์ระดับมาสเตอร์พีซจากทั่วโลกมาจัดแสดงตลอด 8 สัปดาห์เต็ม ณ หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย
งานนี้ถือเป็นปรากฏการณ์ที่สร้างสีสันให้วงการศิลปะการแสดงของเมืองไทย เพราะเป็นการรวมตัวกันของนักแสดงและนักดนตรีคลาสสิกชั้นนำกว่า 2,000 ชีวิต กับการเปิดม่าน 20 รอบการแสดง
นอกจากจะสร้างความประทับใจให้ผู้ชมที่เข้าร่วมงานมากกว่า 40,000 คน งานมหกรรมครั้งนี้ยังเปิดโอกาสให้เยาวชนไทยได้เรียนรู้ศิลปะการแสดงจากศิลปินระดับท็อปของโลกผ่านมาสเตอร์คลาส หรือการสอนเชิงสาธิต โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ภายใต้ โครงการเพื่อเยาวชน “Student Outreach Program” (SOP) ซึ่งขยายผลไปสู่การร่วมเวทีแสดงของศิลปินระดับโลกกับศิลปินไทยมืออาชีพและเยาวชนไทยมากพรสวรรค์
...
ในฐานะผู้อำนวยการกลุ่มพัฒนาการศึกษาสำหรับผู้มีความสามารถพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ “เอกสิทธิ์ ปิยะแสงทอง” บอกเล่าว่า โครงการเพื่อเยาวชนเป็นกิจกรรมที่ดี ที่เปิดโอกาสให้เยาวชนได้เข้าถึงศิลปะการแสดงหลากหลายจากทั่วโลก ทำให้เยาวชนสามารถนำไปต่อยอดในการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ต่อไป
ด้าน “ราซีน่าร์ อูเบรอย บาจาจ” ผู้จัดงานมหกรรมศิลปะการแสดงและดนตรีนานาชาติกรุงเทพฯ กล่าวว่า โครงการเพื่อเยาวชนเป็นส่วนหนึ่งของมหกรรมศิลปะการแสดงและดนตรีนานาชาติกรุงเทพฯ เรามุ่งมั่นที่จะจัดโครงการนี้ทุกปี เพื่อยกระดับมาตรฐานการศึกษาด้านศิลปะการแสดงและดนตรีสำหรับเยาวชนในประเทศไทย ด้วยการเปิดโอกาสให้ศิลปินจากทั่วโลกมีส่วนร่วมกับศิลปินรุ่นใหม่ในประเทศ โดยมีความหวังว่าการหล่อหลอมความเข้าใจในด้านดนตรี การเต้นรำ การละคร และศิลปะอื่นๆ จากวัฒนธรรม ชุมชน และประเพณีที่แตกต่างกัน จะช่วยเสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์ สร้างแรงบันดาลใจในการคิดนอกกรอบ และสร้างคนรุ่นต่อไปให้เป็นพลเมืองโลกที่แท้จริงในอนาคต พร้อมเปิดโอกาสให้เยาวชนผู้ด้อยโอกาสมีส่วนร่วมกับงาน ซึ่งได้รับการสนับสนุนอย่างดีจากหลายภาคส่วน ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน
งานนี้เหล่าเยาวชนผู้เข้าร่วมโครงการมีโอกาสได้ทำกิจกรรมมาสเตอร์คลาสร่วมกับศิลปินดังระดับโลกมากมาย อาทิ วงออร์เคสตราเก่าแก่สุดของสวิตเซอร์แลนด์ “ลูเซิร์น ซิมโฟนี ออร์เคสตร้า” (Lucerne Symphony Orches tra), คลาสการเรียนการสอนจาก Concert master นักไวโอลินนำของวงออร์เคสตราเก่าแก่สุดจากอิตาลี, ฟังประสบการณ์การเติบโตในสายอาชีพศิลปะการแสดงจากศิลปินฮิปฮอปฝรั่งเศส, เรียนเต้นกับหัวหน้าทีมนักเต้นจากละครบรอดเวย์ชื่อดัง West Side Story และคอนดักเตอร์แนวหน้าของบรอดเวย์ ที่มาโค้ชนักร้องเยาวชนไทยในการสื่ออารมณ์ผ่านเพลง, เรียนบัลเล่ต์กับ Principal Dancer นักเต้นหลักของคณะบัลเล่ต์ชื่อก้องโลกจากเยอรมนี Stuttgart Ballet นอกจากนี้ ยังมีการแสดงรอบพิเศษ The Magnificent Six โชว์มายากล ที่เปิดให้เยาวชนผู้ด้อยโอกาส ผู้พิการจากมูลนิธิต่างๆ รวมถึงนักเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานคร 2,000 คน จาก 80 โรงเรียนหรือองค์กร ได้ร่วมรับชมการแสดงโดยไม่มีค่าใช้จ่าย
...
สำหรับผลลัพธ์ที่ได้รับการขยายออกไปในปีนี้คือ การเปิดโอกาสให้เยาวชนไทยที่มีความสามารถ และศิลปินไทยระดับมืออาชีพ ได้ร่วมแสดงกับศิลปินระดับโลกบนเวทีของมหกรรม เช่น การแสดงของเยาวชนไทยในโปรดักชันโอเปรา อาอิดา (Aida) ร่วมกับคณะโอเปราชั้นนำจากรัสเซีย หรือการร่วมงานของวงรอยัลแบงค์คอกซิมโฟนีออร์เคสตร้า (Royal Bangkok Symphony Orchestra) กับนักดนตรีและคอนดักเตอร์แนวหน้าของบรอดเวย์ ตลอดจนถึงนักดนตรีและคอนดักเตอร์ของคณะ Stuttgart Ballet จากเยอรมนี นับเป็นการยกระดับมาตรฐานการแสดงในประเทศไทยสู่ระดับโลก!!
...
