นายกฯ ดึงบริษัทยักษ์ใหญ่ลงทุน Data Center ในไทย ชี้ ประเทศได้ประโยชน์มหาศาล

นายกรัฐมนตรี ดึงบริษัทยักษ์ใหญ่ลงทุน Data Center ขนาดใหญ่ในไทย สร้างทั้งเม็ดเงิน โครงสร้างพื้นฐาน มุ่งเป็นศูนย์กลางทางด้าน AI ของภูมิภาค ชี้ ประเทศได้ประโยชน์มหาศาล 

วันที่ 15 พฤศจิกายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการเดินทางเยือนสหรัฐอเมริกาของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ซึ่งจากการพูดคุยกับหลายบริษัทยักษ์ใหญ่ ได้ส่งผลดึงเงินลงทุนจากต่างประเทศเข้ามาในไทย ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศอย่างมหาศาล ดังนี้

1. ดึงเงินลงทุน Data Center ขนาดใหญ่ โดยแห่งหนึ่งลงทุน ประมาณ 5,000 ล้านเหรียญ หรือ 170,000 ล้านบาท โดยตนได้ดึง Microsoft, Google, AWS, Tencent, Alibaba มา มูลค่าราว 850,000 ล้านบาท ซึ่งเท่ากับ 4.8% ของ GDP 

2. เป็นการทำให้มีโครงสร้างพื้นฐานในการทำให้ประเทศไทย กลายเป็นศูนย์กลางทางด้าน AI ของภูมิภาค

3. สร้างความพร้อมในการพัฒนาให้ไทยเป็น Smart City (เมืองอัจฉริยะ) เช่น การทำให้มี Capacity ในการประมวลผลข้อมูลจาก Internet of Things 

4. ดึงให้อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องขยายการผลิตในไทย เช่น ผู้ผลิตฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ (Hard Disk Drive)

5. สร้างงานเป็นจำนวนมากจากการขยายตัวของอุตสาหกรรมที่อยู่ใน ห่วงโซ่อุปทาน

...

6. ทำให้เกิดการพัฒนาความรู้ความสามารถ สำหรับโลกอนาคตให้ประชาชนชาวไทย เช่น AI, Cloud Infrastructure (โครงสร้างพื้นฐานคลาวด์), Robotics (หุ่นยนต์)

7. สร้างดีมานด์มหาศาลให้เกิดการพัฒนาพลังงานไฟฟ้า พลังงานสะอาด พลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy) และเกิดการใช้พลังงานที่ประเทศไทยผลิตเกิน ทำให้ค่าใช้จ่ายพลังงานไฟฟ้าลดลง

8. พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้รัฐสามารถบูรณาการข้อมูลของรัฐ ทำให้รัฐให้บริการประชาชนได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงการนำ AI มาช่วยให้การทำงานรวดเร็วขึ้น

9. ลดการซ้ำซ้อนของการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของรัฐ 

“การดึงบริษัทยักษ์ใหญ่หลายบริษัทมาลงทุนด้าน Data Center ได้พร้อมกันครั้งนี้ นับเป็นความสำเร็จของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เพราะที่ผ่านมาไทยขาดการลงทุนในด้านนี้มาโดยตลอด”

ขณะเดียวกัน นายเศรษฐา ยังได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก โดยขอสรุปจากการหารือกับภาคเอกชนสหรัฐฯ วันนี้มาเล่าให้ฟัง ว่า Western Digital ผู้ผลิต Hard Disk Drive รายใหญ่ระดับโลก เจ้าของส่วนแบ่งตลาดกว่า 40% ตัดสินใจขยายการลงทุนเพิ่มกับไทย ถือเป็นข่าวดี อีกทั้งตนยังได้ชวนให้ Walmart (วอลมาร์ต) บริษัทค้าปลีกของสหรัฐอเมริกา และหนึ่งในบริษัทค้าปลีกที่ใหญ่ที่สุดในโลก ให้จัดซื้อสินค้าท้องถิ่น อาทิ สินค้าโอทอปจากบ้านเรามากขึ้น

นายกรัฐมนตรี ระบุต่อไป ไทยยินดีที่ได้ร่วมมือกับ Google (กูเกิล) ซึ่งออกประกาศแผนขยายการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัลในไทย และริเริ่มโครงการให้นำ AI มาใช้งานในภาครัฐ ฝึกทักษะแรงงานด้าน AI และทักษะขั้นสูงในด้านอื่นๆ พร้อมกันนี้ ไทยยินดีที่ได้ร่วมมือกับ Amazon Web Service (AWS) ผู้ให้บริการคลาวด์อันดับ 1 ของโลก ในการเดินหน้าลงทุนเทคโนโลยีคลาวด์ AI, Machine Learning (ML), Data Analytics และ Internet of Things (IoT) และลงทุน Data Center ระดับโลกเจ้าแรก โดยก่อสร้าง AWS Asia Pacific (Bangkok) Region ในไทย ด้วยงบประมาณกว่า 5,000 ล้านเหรียญ.

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

‘ไต้ฝุ่นยางิ’ ทำ ‘เศรษฐกิจเวียดนาม’ เสียหายกว่า 5 หมื่นล้านบาท

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า พายุไต้ฝุ่นยางิ ถล่มเมียนมา เวียดนาม ลาว และไทยด้วยกำลังลมที่แรงมาก และทำใ...

ท่วมหนักสุด 'ในรอบ 3 ทศวรรษ' พายุบอริสถล่มยุโรป ผลกระทบจากโลกร้อน

จากหย่อมความกดอากาศต่ำที่ชื่อว่า “พายุบอริส” ส่งผลให้มีฝนตกหนักจากออสเตรียไปจนถึงโรมาเนีย จนเกิด “น้...

ฮามาสโวความสามารถสูง ทำสงครามกาซาต่อได้แม้สูญเสีย

นายโอซามา ฮัมดัน ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวเอเอฟพี เมื่อวันที่ 15 ก.ย. ที่นครอิสตันบูลของตุรกี ระบุ “ขบวนก...

สงครามสู้ฮามาสและยอดส่งออกร่วง กดดันจีดีพี ‘อิสราเอล’ Q2 ให้โตเพียง 0.7%

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจของอิสราเอลในไตรมาสที่สองชะลอตัวมากกว่าที่คาดการณ์ไ...