สมศักดิ์ มอบภารกิจใหม่ 'ป.ย.ป.' หลัง 'สภาพัฒน์' ชง ยุบทิ้ง อ้างซ้ำซ้อน ไม่คุ้ม

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตนได้ประชุมร่วมกับนางชุติมา หาญเผชิญ ผู้อำนวยการสำนักงานขับเคลื่อนการปฎิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติและการสร้างความสามัคคีปรองดอง หรือ ป.ย.ป. นายวันฉัตร สุวรรณกิตติ รองเลขาธิการสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหารือถึงผลการประเมินความคุ้มค่าของสำนักงาน ป.ย.ป. หลังครบกำหนด 5 ปี จากที่จัดตั้งตามคำสั่งหัวหน้าคสช.ที่ 19/2561 เมื่อวันที่ 26 พ.ย.61 ซึ่งผลการประเมินโดยสภาพัฒน์ เห็นว่า ป.ย.ป. ขาดความคุ้มค่าการปฎิบัติภารกิจของรัฐ เนื่องจากมองว่า ผลการดำเนินงานของ ป.ย.ป. เป็นภารกิจของหน่วยงานอื่นที่มีการดำเนินงานอยู่แล้วทั้งสิ้น จึงมีความซ้ำซ้อน รวมถึงยังไม่มีการให้บริการประชาชนโดยตรง ถึงแม้จะมีการช่วยขับเคลื่อนกฎหมายใหม่ แต่ก็ยังไม่พบว่า ประชาชนได้ประโยชน์ที่ชัดเจน 

นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ส่วนหน่วยงานอื่นที่ร่วมประเมินความคุ้มค่า ก็ให้ความเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่า ควรเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลว่า ควรยุบ ป.ย.ป.หรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องของฝ่ายบริหาร โดยเมื่อตนได้รับฟังทุกภาคส่วนแสดงความคิดเห็นแล้ว ก็เห็นทางออกว่า ถ้าตนหางานให้ ป.ย.ป.ขับเคลื่อน และสามารถหารายได้เข้าประเทศได้ จะถือว่า ป.ย.ป.มีผลงานและผ่านการประเมินของสภาพัฒน์หรือไม่ เพราะในอดีต ขณะตนดำรงตำแหน่ง รมว.ยุติธรรมก็ได้ขับเคลื่อนแก้กฎหมายยาเสพติด 24 ฉบับ มาเป็นฉบับเดียว จนนำไปสู่การยึดอายัดทรัพย์เข้าประเทศหลักหมื่นล้านบาท ดังนั้น ตนสามารถมอบหมายให้ ป.ย.ป.บูรณาการแก้กฎหมายเพื่อสร้างรายได้เข้าประเทศได้ 

“ผมมองเห็นปัญหา เพราะอยู่มาแล้วหลายกระทรวง จึงอยากให้โอกาส ป.ย.ป. ลองแสดงฝีมืออีกหน่อย โดยทำกฎหมายอีก 2-3 ฉบับ ก็น่าจะหาเงินเข้าประเทศได้ เพราะผมมองว่า การปฎิรูป หรือ บูรณาการแล้ว ประเทศต้องดีขึ้น เช่น มีรายได้เข้าประเทศมากขึ้น หรือ เก็บภาษี มีคนมาท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้น ดังนั้น เราต้องยอมรับการประเมินของสภาพัฒน์ แต่ก็ต้องมาดูว่า ถ้างานหมด หรือ งานซ้ำซ้อน ก็ต้องหางานให้ใหม่ โดยผมได้มอบหมายให้ ป.ย.ป. ไปบูรณาการกฎหมายส่งเสริมปศุสัตว์ โดยเฉพาะกีฬาสัตว์ ซึ่งผมมองว่า ทำกฎหมายเพียง 6 เดือน แต่จะสามารถหาเงินเข้าประเทศได้กว่า 6 หมื่นล้านบาท จากการเก็บภาษีคนเล่นกีฬาสัตว์ มีรายได้จากการท่องเที่ยว ที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาชมได้ รวมถึงสามารถยกระดับสัตว์ให้มีมูลค่าเหมือนม้าของสหรัฐอเมริกาได้ โดยผมเห็นว่า การทำกฎหมายนี้ อาจจะสามารถเป็นภารกิจของ ป.ย.ป. ที่จะมีตัวชี้วัดที่ชัดเจน ซึ่งร่างกฎหมายนี้ ได้เสนอ ครม.ในเบื้องต้นแล้ว” รองนายกรัฐมนตรี กล่าว 

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

‘ไทย’ ร่วงลงสองอันดับ! ใน IMD World Talent Ranking ปี 2024 ส่วนสิงคโปร์นำโด่ง

จากการจัดอันดับ “ประเทศที่มีความเป็นเลิศในด้านบุคลากรผู้มีความสามารถประจำปี 2024” (The 2024 IMD Worl...

Apple วางขาย iPhone 16 พร้อมนวัตกรรมความยั่งยืน ใช้อะลูมิเนียมรีไซเคิล 85%

Apple ได้สร้างมาตรฐานใหม่ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีอีกครั้ง ด้วยการวางขาย iPhone 16 ที่เน้นความยั่งยืน โด...

ผล 1 ปีกับความคืบหน้า ESG Symposium ส่งไทยสู่สังคมคาร์บอนต่ำ สู้โลกเดือด

เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน เห็นผลเป็นรูปธรรม ตาม 4 ข้อเสนอจากงาน ESG Symposium 2023 ทั้งสร้าง "สระบุรี...

‘ลาซาด้า’ เดินเกมทำกำไร ชู '3 กลยุทธ์' สร้างยุคใหม่อีคอมเมิร์ซ

วาริสฐา เกียรติภิญโญชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ลาซาด้า ประเทศไทย กล่าวว่า ลาซาด้ายังเดินหน้าลงทุนใน...