เรื่องของอุณหภูมิ

หากเพื่อนๆเป็นนักวิ่งระยะไกลคงพอจะทราบดีว่า การวิ่งระยะไกลกับสภาพอากาศที่ร้อนนั้นย่อมส่งผลกับการวิ่งของเราอยู่แล้ว

โดยมีการวิเคราะห์ผลการแข่งขัน เพื่อดูว่าอุณหภูมิในการแข่งขันนั้นมีผลต่อเวลาในการวิ่งอย่างไรบ้าง

ซึ่งการเก็บข้อมูลครั้งนี้จะเป็นการเก็บข้อมูลของรายการวิ่งใหญ่ๆทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น World Marathon Majors และโอลิมปิกมากกว่า 900 งาน โดยใช้เวลากว่า 20 ปี หรือถ้านับเป็นจำนวนครั้งของนักวิ่งที่ทำได้ก็ประมาณ 4.7 ล้านครั้ง

ผลจากการเก็บข้อมูลมาวิเคราะห์ออกมาว่า... นักวิ่งมืออาชีพสามารถทำเวลาได้ออกมาดีที่สุดในช่วงของวันที่มีอุณหภูมิต่ำ 5-10 องศาเซลเซียส

หลังจากนั้นยังมีการวิจัยต่อไปเพื่อให้ทราบว่าเวลาที่นักวิ่งทำได้กับอุณหภูมิในวันแข่งนั้นมีความสัมพันธ์กัน และยังเป็นความสัมพันธ์ที่มีผลอย่างมาก ซึ่งจากผลงานวิจัยนี้ชี้ชัดว่า หากอุณหภูมิในวันแข่งมีการเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นแม้จะเพียงเล็กน้อยก็ตาม มันสามารถเปลี่ยนแปลงเวลาของนักวิ่งไปได้เยอะเลย

ยกตัวอย่างให้เข้าใจง่ายขึ้นก็คือ...หากในวันแข่งมีอุณหภูมิอยู่ที่ 10–15 องศาเซลเซียส นักวิ่งจะสามารถทำเวลาได้ช้ากว่าในวันที่มีอุณหภูมิ 5-10 องศาเซลเซียสนั่นเอง ซึ่งผลต่างจะอยู่ที่ประมาณ 5 นาที

แต่ถ้าวันไหนมีอุณหภูมิสูงขึ้นถึง 20-25 องศาเซลเซียสแล้วล่ะก็ เวลาในการวิ่งนั้นจะดีดขึ้นเฉลี่ยแล้วก็สูงถึง 19 นาที หรือถ้าวันไหนร้อนมากๆ อุณหภูมิสูง ประมาณ 30 องศาเซลเซียส เวลาเฉลี่ยในการวิ่งนั้นจะสูงขึ้นถึงครึ่งชั่วโมงได้เลย

เมื่อทราบกันแล้วว่าอุณหภูมิมีผลอย่างมากกับเวลาในการวิ่งแล้ว ถ้าอย่างนั้นเวลามีการแข่งขันเราควรจะต้องมีแต้มต่อให้กับรายการวิ่งที่มีอากาศร้อนหรือไม่...ซึ่งตรงนี้ได้มีนักวิจัยได้ลองนำเวลาของนักวิ่งชั้นนำที่ทำได้มาอิงตามอุณหภูมิของรายการที่นักวิ่งเหล่านั้นลงแข่ง

ผลคือเป็นการเปลี่ยนแปลงของเจ้าของสถิติโลก จากตอนที่ Denis Kimetto ถ้าอิงตามผลวิจัยจะกลายเป็น Kenenisa Bekele ที่เป็นเจ้าของสถิติโลก แต่คิดดูแล้วเรื่องพวกนี้ก็คงสรุปออกมาได้ยาก เพราะว่าถ้าจะวัดอุณหภูมิกันขนาดนี้ คงจะต้องเทียบกับปัจจัยรอบด้านอย่างอื่นด้วย เช่น เรื่องลม ความชื้น ความกดอากาศด้วยหรือไม่

อีกเรื่องหนึ่งที่เป็นปัญหาระดับโลกที่น่าสนใจมากๆนั่นก็คือ Climate Change สิ่งที่มนุษย์เราไม่มีทางหนีพ้นนั่นก็คือปัญหาภาวะโลกร้อน อย่างที่เรารู้ๆกันว่าโลกร้อนขึ้นทุกปี การทำลายสถิติของนักวิ่งก็จะยากขึ้นไปด้วย

หากนักวิ่งอยากจะวิ่งเพื่อทำลาย PB ของตัวเอง ก็คงอยากจะไปวิ่งในอากาศเย็นกว่า หรือถ้าวิ่งในรายการที่มีการจัดขึ้นในช่วงฤดูร้อน อาจจะมีปัญหามากขึ้น เพราะเหล่านักวิ่งมักจะทำเวลาได้ไม่ดีสักเท่าไหร่

@@@@@@@

เพจ วิ่งไหนดี : Wingnaidee ได้นำเสนอเรื่องของอุณหภูมิกับการออกไปวิ่งมีผลอย่างไร ซึ่งแน่นอนมีผลอยู่แล้ว 100 เปอร์เซ็นต์

การวิ่งในอุณหภูมิที่เย็นย่อมจะดีกว่าในอุณหภูมิที่ร้อน

แต่นั่นเป็นการบ่งชี้ถึงการสร้างสถิติ หรือทำลายสถิติของนักวิ่งระดับมืออาชีพ

แต่กับเราๆท่านๆที่เลือกไม่ได้ ยิ่งในบ้านเรา ที่อุณหภูมิร้อนมีมากกว่าหนาว ก็ต้องฝึกซ้อมให้ดีเข้าไว้ ไม่อย่างนั้นจะส่งผลถึงสภาพร่างกายของเราได้

ที่สำคัญก่อนออกไปวิ่ง ควรเช็กสภาพอากาศ อุณหภูมิไว้หน่อยก็จะดีกับตัวเรา ที่ไม่ต้องรับบทหนักกับอุณหภูมิที่ไม่เอื้ออำนวย

จนมากเกินไป...

ฟ้าคำราม

คลิกอ่านคอลัมน์ “เรียงหน้าชน” เพิ่มเติม

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

‘ไต้ฝุ่นยางิ’ ทำ ‘เศรษฐกิจเวียดนาม’ เสียหายกว่า 5 หมื่นล้านบาท

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า พายุไต้ฝุ่นยางิ ถล่มเมียนมา เวียดนาม ลาว และไทยด้วยกำลังลมที่แรงมาก และทำใ...

ท่วมหนักสุด 'ในรอบ 3 ทศวรรษ' พายุบอริสถล่มยุโรป ผลกระทบจากโลกร้อน

จากหย่อมความกดอากาศต่ำที่ชื่อว่า “พายุบอริส” ส่งผลให้มีฝนตกหนักจากออสเตรียไปจนถึงโรมาเนีย จนเกิด “น้...

ฮามาสโวความสามารถสูง ทำสงครามกาซาต่อได้แม้สูญเสีย

นายโอซามา ฮัมดัน ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวเอเอฟพี เมื่อวันที่ 15 ก.ย. ที่นครอิสตันบูลของตุรกี ระบุ “ขบวนก...

สงครามสู้ฮามาสและยอดส่งออกร่วง กดดันจีดีพี ‘อิสราเอล’ Q2 ให้โตเพียง 0.7%

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจของอิสราเอลในไตรมาสที่สองชะลอตัวมากกว่าที่คาดการณ์ไ...