"นายกฯ เศรษฐา" รับ กังวล สถานการณ์ "อิสราเอล" เริ่มขยับความรุนแรง ยัน เจรจาขอผ่านน่านฟ้า 4 ประเทศ เร็วสุด 2 วัน เร่งช่วยตัวประกันทุกช่องทาง แต่ยังไม่ขอเปิดรายละเอียด จ่อ คุยทูตอิสราเอล ทุกเรื่องพรุ่งนี้
วันที่ 12 ต.ค. ที่กระทรวงการต่างประเทศ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน หลังใช้เวลาประชุมราว 1 ชม. โดยบอกว่า ตนเดินทางมาจากท่าอากาศยาน บน.6 และมีความกังวลอย่างมากถึงความรุนแรงในอิสราเอล ที่เริ่มขยับมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งประชาชนชาวไทยที่อยู่ในเขตอันตรายมีอยู่ประมาณ 6,000 คน และวันนี้เป็นนิมิตหมายอันดีที่ลอตแรกเข้ามาแล้ว แต่ก็ยังมีอีกเยอะมากที่ต้องรีบกลับเข้ามา และเข้าใจดีว่าญาติพี่น้องมีความเป็นห่วง
ส่วนการส่งเครื่องบินของทางกองทัพเข้าไปช่วยเหลือ ในวันที่ 14 ตุลาคม ด้วยแอร์บัส A340 ได้มีการสั่งการให้เตรียมพร้อมตั้งแต่วันนี้ ซึ่งที่หลายคนบอกว่าบินได้เลยเป็นเรื่องที่ไม่ใช่ เพราะต้องมีการขออนุญาตบินผ่านน่านฟ้าทั้ง 4 ประเทศ โดยเราจะใช้เวลาเจรจาให้เร็วที่สุดคือ 48 ชั่วโมง หรือ 2 วัน
ส่วนทางอิสราเอล รายงานว่า มีความพร้อมในการพาคนไทยเข้าไปอยู่ในจุดที่ปลอดภัยได้วันละ 200 คน และสามารถนำเครื่องบินไปรับได้เพียงวันละลำ ส่วนคนไทยที่มีความประสงค์ในการอพยพบินกลับไทยประมาณ 5,000 คน คาดว่าจะใช้เวลาดำเนินการอย่างเร็วที่สุด คือ 1 เดือน ย้ำว่า เรื่องเอกสารการเดินทางเป็นเรื่องรอง ให้ยึดความปลอดภัยเป็นเรื่องสำคัญที่สุด
...
นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายปานปรีย์ รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้เสนอให้มีการบินไปยังประเทศที่ 3 เพื่อเร่งนำคนไทยออกมาก่อน จากนั้นอาจจะหาสายการบินอื่นเข้าไปรับคนไทยกลับมายังประเทศไทยอีกทีหนึ่ง ซึ่งเป็นเรื่องที่ทีมงานกำลังพิจารณา ยอมรับว่า แนวทางเป็นเรื่องที่ยากและมีความสับสน เพราะประเทศที่สาม อาจจะติดในเรื่องของเอกสารการเดินทาง หากบางคนไม่มีพาสปอร์ตหรือหนังสือเดินทางอาจจะเข้าไม่ได้ เป็นเรื่องละเอียดอ่อน จึงต้องให้ทางการทูตพิจารณาอีกครั้ง
ยืนยันว่า งานเอกสารจะไม่เป็นอุปสรรคในการขนย้ายคนไทยกลับประเทศซึ่งตนได้สั่งงานในลำดับสูงสุดว่าการนำพี่น้องกลับมาที่ไทย เป็นเรื่องสำคัญที่สุด
นายเศรษฐา ยังวิงวอนฝ่ายเอกชนที่มีเครื่องบินเหลือ หวังว่าจะมาร่วมช่วยกันซึ่งทางรัฐบาลพร้อมที่จะประสานการขออนุญาตบินผ่านน่านฟ้า
ส่วนการเจรจาขอปล่อยตัวประกัน ยืนยันว่า ทางรัฐบาลได้ทำการเจรจาทุกช่องทางที่สามารถเป็นไปได้ ย้ำว่าเราต้องมีความหวังและความพยายามเพราะเป็นเรื่องที่น่าเศร้าว่า ประเทศไทยไม่ได้เป็นประเทศคู่ขัดแย้งแต่มีจำนวนผู้เสียชีวิตสูงที่สุด และเชื่อว่าประเทศอื่นก็เห็นใจประเทศไทย
ส่วนเมื่อถามถึงการประสานงานกับสายการบินพาณิชย์ไว้ทั้งสิ้น 4 สายการบิน รวมถึงการบินไทยที่ยังรอการพิจารณา ในส่วนของการบินไทยยังติดขัดปัญหาตรงไหน นายเศรษฐา บอกว่า เป็นเรื่องที่น่าเห็นใจว่า การบินไทยอาจจะไม่ได้มีเที่ยวบินจากกรุงเทพฯ ไปยังกรุงเทลอาวีฟโดยตรง ซึ่งการแก้ปัญหาอาจจะให้บินไปประเทศใกล้เคียงและให้สายการบินอื่นบินไปรับส่ง ยืนยันว่า การบินไทย ตระหนักดีถึง ความเดือดร้อนของประชาชน
ขณะที่เรื่องแรงงานในพื้นที่สีแดง แต่ถูกบังคับให้ทำงาน นายกฯ กล่าวว่า กำลังพูดคุยเพราะเป็นเรื่องสิทธิมนุษยชน และยืนยันจะช่วยเหลือให้เต็มที่ รวมถึงเรื่องการอพยพ
เมื่อถามถึงการส่งเจ้าหน้าที่เพิ่มเติม จะเข้าไปช่วยส่วนใด นายกฯ กล่าวว่า เป็นการไปช่วยอำนวยความสะดวกเพื่อให้คนไทยเดินทางออกมาให้เร็วที่สุด ซึ่งมีเรื่องความละเอียดอ่อนเยอะมาก
ส่วนเรื่องรถลำเลียงในการช่วยอพยพ ทางกองทัพมีการประสานไปตลอด
ขณะที่เรื่องรับศพคนไทยในอิสราเอลกลับประเทศ รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ ทางทูตมีการเร่งดำเนินการกับทางอิสราเอล แต่เรื่องนี้ทางอิสราเอลก็จะมีการชดเชยร่วมด้วย
ส่วนการพูดคุยกับทูตอิสราเอลประจำประเทศไทยในวันพรุ่งนี้ คือ การขอความเห็นใจ เพราะไทยไม่ใช่คู่ขัดแย้งแต่สูญเสียมากที่สุด รวมถึงมีการพูดคุยเรื่องตัวประกัน เรื่องเปิดน่านฟ้า ยืนยันว่าจะคุยทุกเรื่อง
