"นพ.เอกภพ" คณะทำงาน สธ.พรรคภูมิใจไทย โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า รัฐสภา เยอรมนีผ่านร่างกฎหมายกัญชา อนุญาตให้ผู้มีอายุ 18 ปีขึ้นไปครอบครองกัญชาเพื่อใช้เองได้ไม่เกิน 25 กรัม และปลูกในบ้านได้คนละ 3 ต้น ให้กลุ่ม Cannabis club จำหน่าย จ่าย แจก กัญชาให้กับสมาชิกได้ ชี้ไทยเสียโอกาสเป็นผู้นำ เพราะเกมการเมือง-บิดเบือนโจมตี
เมื่อวันที่ 17 ส.ค.66 นพ.เอกภพ เพียรพิเศษ คณะทำงานด้านสาธารณสุข พรรคภูมิใจไทย (ภท.) โพสต์เฟซบุ๊ก "หมอเอก Ekkapob Pianpises" ระบุถึงสถานการณ์ล่าสุด ที่รัฐสภาประเทศเยอรมนี ได้ผ่านการรับรองร่างกฎหมาย ระบุว่า ล่าสุดรัฐบาลประเทศเยอรมนี ได้นำร่างกฎหมายกัญชาเข้าสภาเพื่อผ่านการรับรองแล้ว จะเป็นประเทศในสหภาพยุโรปที่มีการอนุญาตให้ผู้มีอายุ 18 ปีขึ้นไปครอบครองกัญชาเพื่อใช้เองได้ไม่เกิน 25 กรัม และปลูกในบ้านได้คนละ 3 ต้น รวมถึงมีกลุ่ม Cannabis club ที่น่าจะคล้ายๆวิสาหกิจชุมชนของเราทำการจำหน่าย จ่าย แจก กัญชาให้กับสมาชิกได้ จากเยอรมนีซึ่งเป็นผู้นำประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรป ก็อาจจะสร้างความเปลี่ยนแปลงต่อเนื่องไปสู่ประเทศอื่นๆต่อไป นี่คือความเปลี่ยนแปลงที่โลกเดินมาสู่เส้นทาง "กัญชาถูกกฎหมาย" หรือ legalization ซึ่งประเทศไทยเราได้เริ่มต้นมาก่อน แต่ต้องสะดุดหยุดลงด้วยประเด็นทางการเมือง
...
นพ.เอกภพ ระบุต่อว่า มีมหาวิทยาลัยไทยที่ทำวิจัยเรื่องคัดแยกสายพันธุ์ และปรับแต่งสายพันธุ์กัญชาจนเชี่ยวชาญ มีหน่วยงานที่มีเครื่องมือตรวจสารประกอบในกัญชาแบบละเอียดในระดับชั้นนำของเอเชีย มีเกษตรกรที่เริ่มเรียนรู้การเพาะปลูก ดูแลเก็บเกี่ยวกัญชาที่มีคุณภาพสูง ในวันนี้เริ่มมีโอกาสของตลาดในต่างประเทศเพิ่มขึ้น ที่ผ่านมาประเทศไทยมีความจำเป็นที่จะต้องประกาศให้กัญชาออกจากรายชื่อยาเสพติด โดยประกาศกระทรวงสาธารณสุขตามความเห็นชอบของคณะกรรมการ ป.ป.ส. และควบคุมโดยกฎหมายของสาธารณสุข จากนั้นก็มีการเสนอร่างกฎหมาย พ.ร.บ.กัญชา-กัญชง เข้าสู่สภาผู้แทนราษฎรจนผ่านในขั้นตอนรับหลักการ นำไปพิจารณารายมาตราโดยกรรมาธิการ ที่มาจากตัวแทนของทุกพรรคการเมือง
"แต่เมื่อกฎหมายที่ผ่านกรรมาธิการมาแล้ว กลับเข้ามาเพื่อลงมติรายมาตรา กลับถูกเกมการเมืองเตะถ่วงจนพิจารณาไม่เสร็จทันก่อนยุบสภา กฎหมายกัญชาของไทยจึงยังค้างอยู่ในระบบ รอให้รัฐบาลใหม่ยกขึ้นมานำเสนอต่อสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาอีกครั้ง ซึ่งมีกรอบเวลาที่จะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จ ก่อนกฎหมายที่ทำมาแล้วจะตกไป จนต้องมาเริ่มกระบวนการกันใหม่" นพ.เอกภพ ระบุ
นพ.เอกภพ ระบุต่อว่า จากที่เราเริ่มต้นมาก่อนเป็นผู้นำในระดับโลก แต่กลับกำลังจะกลายเป็นผู้ตามอย่างน่าเสียดาย ซึ่งในตอนนี้เราก็ยังทันที่จะตั้งต้นเดินหน้าต่อจากพื้นฐานที่มีและปิดช่องว่างในทุกทาง ที่มีความกังวลห่วงใย สุดท้ายคือ "การนำของใต้ดินให้ขึ้นมาอยู่บนดิน" จะควบคุมได้ง่ายและเป็นประโยชน์ต่อประชาชนโดยรวมมากกว่า ที่ผ่านมาเราอาจจะได้รับข้อมูลที่บิดเบือนว่า "กัญชาเสรี" แต่ความเป็นจริงแล้วสิ่งที่ทำคือกัญชาถูกกฎหมาย