หวังไว้ (ไม่รู้) ได้เปล่า

มหกรรมกีฬาเอเชียนเกมส์ 2022 เดินทางมาถึงครึ่งทางแล้ว ต้องถือว่าทัพนักกีฬาไทยยังคงโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมเดินหน้าไล่ล่าเหรียญรางวัลกัน อย่างต่อเนื่อง

มีผลงานเซอร์ไพรส์ไห้ได้ลุ้นกันตลอด

ในส่วนฟุตบอลชาย กีฬามหาชนของเรา ก็เป็นที่ทราบกันดีว่าจอดป้ายแค่รอบ 16 ทีมสุดท้าย ไปแบบน่าเสียดาย หลังจากเสีย 2 ประตูง่ายๆจนปราชัยให้กับอิหร่าน 0-2

เมื่อผลงานออกมาเช่นนี้ ก็ต้องมาวิเคราะห์กันด้วยเหตุด้วยผลว่าทำไมแข้งไทยถึงมาได้ไกลแค่นี้

แน่นอนล่ะว่าผลงานในสนามก็ส่วนหนึ่ง

การที่เราเสีย 2 ประตูในรอบน็อกเอาต์ ปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นความผิดพลาดจากการตัดสินใจในเสี้ยววินาทีของตัวนักเตะเอง  แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เช่นกันว่าเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นได้ตลอดเวลาในโลกของฟุตบอล

เป็นเรื่องของประสบการณ์

ในเรื่องของแท็กติกต่างๆ ส่วนตัวแล้วผมมองว่า “โค้ชหระ” อิสสระ ศรีทะโร ทำผลงานได้ดี เพียงแต่คุณภาพนักเตะที่มีให้เขาได้ใช้งานนั้น อาจจะเทียบไม่ได้กับพวกตัวหลักที่ไม่ได้ถูกปล่อยตัวมาให้ร่วมทีม

ซึ่งโดยรวมการที่ทีมชาติไทยชุดนี้ผ่านเข้าถึงในรอบน็อกเอาต์ และสู้อิหร่านได้แบบเกือบมีลุ้นก็ถือว่าน่าพอใจ และที่สำคัญยิ่งก็ต้องใช้คำว่า “น่าเสียดาย”

ทีม “ช้างศึกจูเนียร์” ชุดนี้มาลุย “หางโจวเกมส์” ด้วยความขลุกขลักติดขัด

เรียกนักเตะตัวหลักจากชุดชิงแชมป์อาเซียน แต่ได้ไม่ตามเป้า บทสุดท้ายเรียกไป 22 คน ได้มา 21 คน แถมในจำนวนนั้นเป็นผู้เล่นตัวหลักของสโมสรเพียงแค่คนเดียวเท่านั้น

แน่นอนว่าเรื่องของความฟิตมีปัญหา

ซึ่งแฟนบอลเอง ก็มีบางส่วนหนึ่งที่เข้าใจตัวของสโมสร เพราะเกมไทยลีกไม่ได้หยุดให้ แต่ก็มีอีกส่วนหนึ่งตั้งคำถามว่า “ทำไมถึงไม่ทำเพื่อชาติ”

นี่เป็นสำหรับทีมชาติไทยมาทุกยุคทุกสมัย นับตั้งแต่โลกของฟุตบอลสมัยใหม่เปิดฉากขึ้น

และนี่ก็เป็นบทเรียนที่ซ้ำแล้วซ้ำเล่าของเรา

หลายคนเรียกร้องให้สมาคมกีฬาฟุตบอลฯปรับเปลี่ยนวิธีประกาศรายชื่อนักเตะทีมชาติไทยใหม่ ด้วยการประกาศเรียกรายชื่อผู้เล่นออกผ่านสื่อมวลชนไปเลย

แฟนบอลจะได้รู้ว่าสโมสรใดไม่ปล่อยตัวนักเตะให้กับทีมชาติบ้าง และด้วยเหตุผลอะไร!!

สำหรับทีม “ช้างศึกจูเนียร์” มีเป้าหมายใหญ่รออยู่ในรายการชิงแชมป์เอเชียที่กาตาร์ เดือน เม.ย.ปีหน้า

คงต้องจับจ้องว่าสมาคมกีฬาฟุตบอลฯและ บจก.ไทยลีก จะสนับสนุนงานของ “โค้ชหระ” ได้มากน้อยแค่ไหน

เนื่องจากที่ผ่านมานอกจากเหมือนจะ “ไม่ซัพพอร์ต” แล้ว แถมออกไปในแนวให้รับเผือกร้อนเสียด้วยซ้ำ

ก็ได้แต่หวังว่าอะไรๆมันจะดีขึ้น

เพราะครั้งนี้เรามีตั๋วโอลิมปิกเกมส์ 2024 เป็นเดิมพัน.

พาวเวอร์บอมบ์

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่