WHA Group เปิดกลยุทธ์ WE SHAPE THE FUTURE สร้างธุรกิจยั่งยืน

นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่นจำกัด (มหาชน) หรือ WHA Group กล่าวว่า พันธกิจ WHA: WE SHAPE THE FUTURE ของดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป ที่มุ่งมั่นในการเป็นผู้สร้าง สร้างทั้งความเจริญ สร้างอาชีพ และรายได้ให้กับผู้คนและสังคมเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น สู่เป้าหมายสูงสุด คือสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับเศรษฐกิจของประเทศไทย 

ด้วยศักยภาพจากระบบอีโคซิสเต็มที่ครบวงจรและแข็งแกร่งของทั้ง 4 กลุ่มธุรกิจ ที่จะสนับสนุนให้เกิดการต่อยอดพัฒนาโซลูชันทางธุรกิจและอุตสาหกรรม รวมทั้ง ยังช่วยเสริมความสามารถในการแข่งขันและผลักดันให้ประเทศไทยกลายเป็น The World’s Best Investment Destination สำหรับนักลงทุนจากต่างประเทศทั่วโลก 

"เราตระหนักดีว่า การกระตุ้นให้เกิดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) จะเป็นส่วนสำคัญที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจ-ของประเทศไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน"

สำหรับแนวคิด WHA: WE SHAPE THE FUTURE ต่อยอดมาจากการที่ ดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป ใช้แนวทางการพัฒนาสู่ความยั่งยืนมาเป็นระยะเวลานานนับตั้งแต่เริ่มดำเนินธุรกิจ สอดรับกับทิศทางการพัฒนาธุรกิจของกลุ่มบริษัทในปัจจุบันภายใต้พันธกิจ “The Ultimate Solution for Sustainable Growth” 

โดยวางแนวทางการพัฒนาที่ยึดหลักบรรษัทภิบาล การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ โครงการการทรานสฟอร์มธุรกิจสู่ดิจิทัลภายในองค์กร (Digital Transformation) และการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ เพื่อสร้างคุณค่าและการเติบโตที่ยั่งยืนให้กับองค์กร ตลอดจนผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วนในระยะยาว 

ขณะเดียวกัน ดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป ยังคงเดินหน้าภารกิจ “Mission To The Sun” ซึ่งมี 9 โครงการ เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ ๆ สู่การยกระดับการพัฒนาองค์กร และบุคลากรของบริษัทฯ มุ่งสู่การเป็น Technology Company ในปี 2567 

โดยขณะนี้ มี 3 โครงการที่มีความคืบหน้าอย่างชัดเจนเป็นรูปธรรม นั่นคือ Green Logistics, Digital Health Tech และ Circular 

สำหรับผลการดำเนินงานของ ดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป ในช่วงครึ่งแรก ของปี 2566 มีความโดดเด่น มีรายได้รวมและส่วนแบ่งกำไรกว่า 5,600 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27% และกำไรสุทธิ 1,390 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 46% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า จึงทำให้คาดว่ารายได้ และกำไรตลอดทั้งปีนี้จะเติบโต 10% ทำ All Time High อีกครั้งเป็นสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง สะท้อนการเติบโตอย่างแข็งแกร่งของธุรกิจทั้ง 4 กลุ่ม 

โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมที่มีผลประกอบการที่ดีเหนือความคาดหมาย ยังส่งผลให้บริษัทฯ ปรับเพิ่มเป้าหมายการดำเนินงานของสิ้นปี 2566 ให้สูงขึ้นจากที่กำหนดไว้ก่อนหน้าในช่วงต้นปี

"ทั้งนี้ ผลจากกระแสการย้ายฐานการผลิต บริษัทฯ จึงได้ปรับเป้ายอดขายที่ดินรวม ทั้งในประเทศไทยและเวียดนาม สำหรับปี 2566 จาก 1,000 ไร่ ที่เคยประกาศไว้เมื่อต้นปี เป็น 2,750 ไร่"

ปัจจุบันมีนิคมอุตสาหกรรม 13 แห่งในประเทศไทยและเวียดนาม คิดเป็นพื้นที่รวม 71,300 ไร่ โดยยังอยู่ระหว่างการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมแห่งใหม่อีก 1 แห่ง และส่วนขยายโครงการนิคมอุตสาหกรรมอีก 3 แห่งในประเทศไทย รวมพื้นที่ซึ่งอยู่ระหว่างการพัฒนา 5,700 ไร่ 

สำหรับในประเทศเวียดนาม เร่งการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมเหงะอาน เฟส 2 ที่มีพื้นที่รวมกว่า 2,215 ไร่ ให้ทันกับความต้องการของลูกค้า ส่วนนิคมอุตสาหกรรมแห่งใหม่อีก 2 แห่ง ที่เมืองถั่นหัวและดานัง อยู่ในกระบวนการขอใบอนุญาตลงทุน 

ธุรกิจโลจิสติกส์ มุ่งขยายการเติบโตให้ครอบคลุมทำเลยุทธศาสตร์สำคัญในประเทศ และแสวงหาโอกาสใหม่ๆ ในประเทศเวียดนาม โดยมุ่งเน้นไปที่อุตสาหกรรมที่มีการเติบโตสูง เช่น ยานยนต์ไฟฟ้า (อีวี) อีคอมเมอร์ซ และอุตสาหกรรมที่เป็น New S-curve 

นอกจากนี้ยังส่งเสริมการสร้างพันธมิตรในระยะยาว พร้อมนำนวัตกรรมทางด้านดิจิทัลและแนวปฏิบัติเพื่อความยั่งยืนเข้ามาใช้ทั้งระบบ ตั้งแต่โครงการ Green Logistics โครงการอาคารสีเขียว โดยตั้งเป้าสิ้นปี 2566 จะมีการลงนามสัญญาเช่าโครงการใหม่รวม 200,000 ตารางเมตร และมีสินทรัพย์ภายใต้กรรมสิทธิ์และการบริหารรวมทั้งสิ้น 2,900,000 ตารางเมตร 

ธุรกิจสาธารณูปโภค น้ำ ยังคงเติบโตไปพร้อมกับกลุ่มธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม โดยอยู่ระหว่างการก่อสร้างโรงผลิตน้ำอุตสาหกรรมและบำบัดน้ำเสียแห่งใหม่ที่นิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล เอสเตท ระยอง ซึ่งมีกำลังการผลิตน้ำ 3 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี และบำบัดน้ำ 1.9  ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี คาดว่าจะเปิดดำเนินการได้ในไตรมาส 4 ปี 2566 นี้ 

นอกจากนี้ ยังมุ่งเน้นการเพิ่มผลิตภัณฑ์และโซลูชันให้มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลิตภัณฑ์น้ำมูลค่าเพิ่ม ตลอดจนหาโอกาสการขยายตลาดสู่ลูกค้าภายนอกนิคม โดยล่าสุดมีการลงนามในสัญญาการซื้อขายน้ำเพื่ออุตสาหกรรมคุณภาพสูง(Premium Clarified Water) ให้กับลูกค้า 2 รายในนิคมอุตสาหกรรม WHA ESIE4 คิดเป็นปริมาณน้ำรวม 4.6 ล้านลูกบาศก์เมตร 

โดยตั้งเป้าสิ้นปี 2566 จะมีปริมาณยอดจำหน่ายน้ำอุตสาหกรรม น้ำมูลค่าเพิ่ม และปริมาณการบำบัดน้ำเสียในประเทศไทยและเวียดนามรวมทั้งหมด 168 ล้านลูกบาศก์เมตร  

ธุรกิจไฟฟ้า บริษัทฯ มุ่งมั่นที่จะขยายธุรกิจในประเทศไทย ประเทศเวียดนาม และขยายสู่ตลาดใหม่ในประเทศอื่น ๆ ควบคู่กับการนำนวัตกรรมและความยั่งยืนมาใช้ในการดำเนินธุรกิจ พร้อมทั้งการหาโอกาสใหม่ ๆ ทางธุรกิจเพื่อสร้าง New S-Curve อาทิ ระบบกักเก็บพลังงานแบบแบตเตอรี่ (BESS : Battery Energy Storage Systems) ไฮโดรเจนสีเขียว (Green Hydrogen) การซื้อขายคาร์บอนเครดิต (Carbon Credit) และเทคโนโลยีการดักจับ การใช้ประโยชน์ และการกักเก็บคาร์บอน (Carbon Capture, Utilization and Storage : CCUS) 

สำหรับเป้าหมายปี 2566 บริษัทฯ จะมีการเซ็นสัญญาโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคา (Solar Rooftop) เพิ่มเติมหลายโครงการและคาดว่าจะมีกำลังการผลิตไฟฟ้าสะสมเพิ่มขึ้นเป็น 192 เมกะวัตต์ โดยมีเป้ากำลังการผลิตไฟฟ้าสะสมจากโครงการพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy) รวมทั้งสิ้น 300 เมกะวัตต์ ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทฯ มีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวมตามสัดส่วนการถือหุ้นจะอยู่ที่ 847 เมกะวัตต์

ธุรกิจดิจิทัล เดินหน้าโครงการการทรานสฟอร์มธุรกิจสู่ดิจิทัลภายในองค์กร ช่วยเพิ่มศักยภาพการขับเคลื่อนกลุ่มธุรกิจของดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป ให้เดินหน้าอย่างแข็งแกร่ง และมุ่งสร้างพันธมิตรใหม่ๆ ในกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยี 

รวมทั้งยังทำงานร่วมกับ 3 กลุ่มธุรกิจ ของดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป ในการนำเทคโนโลยีมาสร้างผลิตภัณฑ์และบริการมูลค่าเพิ่ม อาทิ แดชบอร์ดแสดงผลการทำงานของแผงพลังงานแสงอาทิตย์และอุปกรณ์ตรวจวัดประสิทธิภาพการทำงานของแผง รวมไปถึงเครื่องมือวิเคราะห์ระบบอัตโนมัติและอุปกรณ์อัจฉริยะต่างๆ ที่ใช้ในระบบจัดส่งน้ำ 

นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาแอปพลิเคชัน WHAbit โซลูชันสำหรับดิจิทัลเฮลธ์เทคอย่างต่อเนื่อง และเปิดตัวเวอร์ชันสองในปี 2566 ด้วยฟีเจอร์ใหม่ เช่น การแสดงข้อมูลด้วยภาพ (Data Visualization) และการวิเคราะห์ข้อมูลสุขภาพส่วนบุคคล 

“ด้วยแนวโน้มภาพรวมเศรษฐกิจซึ่งมีทิศทางเป็นบวกมากขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง เรามีความเชื่อมั่นว่าจะสามารถบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจที่วางไว้สำหรับสิ้นปี 2566 ขณะเดียวกันก็เสริมศักยภาพในด้านต่าง ๆ เพื่อเตรียมพร้อมสู่การเป็น Technology Company อย่างเต็มรูปแบบในปี 2567 และเดินหน้าแคมเปญ WHA: WE SHAPE THE FUTURE เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างอนาคตที่มั่นคงและยั่งยืนให้กับผู้คน สังคม และประเทศไทย สอดคล้องกับพันธกิจของดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป The Ultimate Solution for Sustainable Growth” นางสาวจรีพรกล่าวทิ้งท้าย

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

‘ไทย’ ร่วงลงสองอันดับ! ใน IMD World Talent Ranking ปี 2024 ส่วนสิงคโปร์นำโด่ง

จากการจัดอันดับ “ประเทศที่มีความเป็นเลิศในด้านบุคลากรผู้มีความสามารถประจำปี 2024” (The 2024 IMD Worl...

Apple วางขาย iPhone 16 พร้อมนวัตกรรมความยั่งยืน ใช้อะลูมิเนียมรีไซเคิล 85%

Apple ได้สร้างมาตรฐานใหม่ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีอีกครั้ง ด้วยการวางขาย iPhone 16 ที่เน้นความยั่งยืน โด...

ผล 1 ปีกับความคืบหน้า ESG Symposium ส่งไทยสู่สังคมคาร์บอนต่ำ สู้โลกเดือด

เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน เห็นผลเป็นรูปธรรม ตาม 4 ข้อเสนอจากงาน ESG Symposium 2023 ทั้งสร้าง "สระบุรี...

‘ลาซาด้า’ เดินเกมทำกำไร ชู '3 กลยุทธ์' สร้างยุคใหม่อีคอมเมิร์ซ

วาริสฐา เกียรติภิญโญชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ลาซาด้า ประเทศไทย กล่าวว่า ลาซาด้ายังเดินหน้าลงทุนใน...