“ไชยา” กลัว “ธรรมนัส” ทำงานหนัก ดูแล 11 หน่วยงาน ก.เกษตรฯ ส่วน 2 รัฐมนตรีได้คนละ 4 หน่วยงาน ปัดเรียกร้องได้กรมน้อย แต่ขอแบ่งเบาบ้าง เพราะตอบคนในพื้นที่ไม่ได้ ปัดขัดแย้ง แต่ทำงานด้วยกันต้องไว้ใจให้เกียรติ
เมื่อเวลา 10.40 น. วันที่ 18 กันยายน 2566 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้สัมภาษณ์กรณีที่มีข่าวว่าไม่พอใจเรื่องการแบ่งงานในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ว่า ไม่ใช่ไม่พอใจ เพียงแต่ได้ท้วงติงว่าการแบ่งงานต้องมอบอำนาจในการบริหารจัดการ ทั้งบริหารบุคคล และบริหารงบประมาณ ไม่เช่นนั้นจะไม่สามารถบริหารงานได้ และคำสั่งต้องมีความชัดเจน เพราะเปรียบเทียบกับกระทรวงอื่นเขาก็มีการมอบอำนาจชัดเจน ให้อำนาจรัฐมนตรีช่วยว่าการ บริหารบุคคล งบประมาณ มีเครื่องไม้เครืองมือให้พร้อม
เมื่อถามว่า คำสั่งไม่ชัดเจนเป็นอย่างไร นายไชยา กล่าวว่า ต้องไปดูในคำสั่ง ตนให้ปลัดกระทรวงเอาคำสั่งเดิมในสมัยรัฐมนตรีคนเก่าๆ มาเปรียบเทียบ ก็มีหลักฐาน มีข้อมูล ซึ่งแต่ละยุคก็มีคำสั่งที่มอบหมายไม่เหมือนกัน การมอบงานให้รัฐมนตรีช่วยว่าการ เราไม่สามารถตอบสนองนโยบายได้เลย โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยที่เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และมวลชนของเราส่วนใหญ่อยู่ในภาคอีสานและภาคเหนือ ซึ่งตนต้องตอบคำถามสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ในพื้นที่ ตอนเราไปตรวจราชการ เรื่องดิน น้ำ สัตว์ ซึ่งสัตว์ก็มีหลายประเภท ก็ไม่สามารถตอบประชาชนได้
“การไปตรวจราชการกับนายกรัฐมนตรีที่ จ.ขอนแก่น ที่ผ่านมา เราก็เสนอปัญหาเรื่องการบริหารจัดการน้ำเชิงระบบที่มีความสมบูรณ์ ทั้งระยะสั้น กลาง ยาว ซึ่งนายกฯ ก็มอบหมายเรื่องนี้กับผม ให้ไปดูว่าจะบริหารจัดการแบบไหน เมื่อแบ่งงานแล้วเราก็ต้องตอบคำถามประชาชน ตอบคำถามว่างานคืบหน้าไปไหน เพราะเราไม่ได้รับผิดชอบในงานส่วนนี้”
...
ส่วนจะแก้ไขปัญหานี้อย่างไร นายไชยา กล่าวว่า ก็มีการพูดคุยกัน ซึ่ง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ก็มีความกรุณาว่า ถ้าหากผิดพลาดที่คำสั่งที่ไม่สมบูรณ์จะปรับปรุงแก้ไขใหม่ เมื่อถามต่อว่า จะมีการแบ่งหน่วยงานเพิ่มหรือพอใจแล้ว นายไชยา ระบุว่า จะพอใจหรือไม่ เราเป็นพรรคแกนนำ บางเรื่องนั้นครอบคลุมประชาชน และนายกรัฐมนตรีได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภาว่า นโยบายด้านการเกษตรของเพื่อไทย คือ ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้ พักหนี้
“ถ้าดูสถิติย้อนหลัง รัฐมนตรีช่วย 3 คนแบ่งอย่างนี้ก็สมเหตุสมผล แต่วันนี้รัฐมนตรีช่วยเหลือ 2 คน ซึ่งรัฐมนตรีว่าการได้ไป 11 หน่วยงาน ส่วนรัฐมนตรีช่วยได้คนละ 4 หน่วยงาน ผมว่าท่านรัฐมนตรีว่าการจะงานหนัก ก็อยากจะแบ่งเบาภาระท่าน ซึ่งก็แล้วแต่ท่านจะมอบหมายจัดความสมดุลอย่างไร กลัวว่าท่านรัฐมนตรีว่าการจะหนักเกินไป ก็อยากแบ่งเบาท่านบ้าง เราอยากทำงาน อันนี้ไม่ได้เรียกร้องว่าเราได้กรมน้อยนะ”
สำหรับคำถามว่า ถ้าไม่ได้ตามเป้าหมายจะให้แกนนำผู้จัดการรัฐบาลเป็นคนคุยใช่หรือไม่ นายไชยา ตอบว่า ตอนนี้เป็นเรื่องของการเจรจา ให้พรรคเป็นผู้เจรจา อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะที่กำกับดูกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งทั้ง 2 กระทรวงต้องทำงานร่วมกัน
ผู้สื่อข่าวถามต่อ จะไม่เป็นจุดที่ทำให้เกิดรอยร้าวใช่หรือไม่ นายไชยา บอกว่า ไม่มี ไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตาย เมื่อถามว่า จะนัดพูดคุยกันในวันที่ 19 กันยายน 2566 หรือไม่ นายไชยา กล่าวว่า ร.อ.ธรรมนัส บอกว่า จะมีการพูดคุยกันเร็วๆ นี้ ส่วนตนไม่มีปัญหา ไม่ได้ยืนบนความขัดแย้ง เพราะกระทรวงเกษตรฯ ทำงานร่วมกัน ดังนั้นหลักการที่จะเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน หัวใจเดียวกัน จะต้องให้เกียรติกัน ต้องไว้ใจกัน ต้องมีธรรมาภิบาล
อย่างไรก็ตาม เมื่อถามในช่วงท้ายว่า มีการคุยกับ นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์หรือไม่ ว่ามีความรู้สึกเดียวกันในเรื่องนี้ นายไชยา กล่าวว่า เหมือนกัน นายอนุชา ก็ไม่ได้ต่างจากตน.