เศรษฐกิจสหรัฐโตไม่ส่งผลต่อการเลือกตั้ง
วันที่ส่ง: 01/11/2024 - ผู้เขียน: กรุงเทพธุรกิจ
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงาน แม้ใช้จ่ายมากขึ้น ผู้บริโภคชาวอเมริกันยังคงกังวลเรื่องโอกาสการจ้างงานและการเงิน นั่นหมายความว่าคามาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครตยังคงตกเป็นรองโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน ในการสำรวจความคิดเห็นเรื่องเศรษฐกิจ
“เวลาคุณดูตัวเลข อย่างการเติบโตของจีดีพีหรือรายได้หรือการบริโภค หรือแม้แต่การจ้างงาน คุณร้อง ‘โอ้ว เศรษฐกิจไปได้สวย สิ่งเดียวที่ทำลายเรื่องเล่าที่ว่ามานี้อย่างสิ้นเชิงคือเงินเฟ้อ ที่ผู้บริโภคต้องรับมือ’” แดน นอร์ธ นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสจากบริษัทที่ปรึกษาอัลลิอันซ์ เทรด นอร์ธ อเมริกา กล่าว
ก่อนประกาศตัวเลขจริง บริษัทวิจัยตลาดBriefing.com ประเมินว่า ในไตรมาสสาม เศรษฐกิจสหรัฐที่ใหญ่เป็นอันดับหนึ่งของโลกน่าจะขยายตัว 3.0% เมื่อเทียบเป็นรายปี เท่ากับไตรมาสสอง เหนือกว่าประเทศเศรษฐกิจก้าวหน้าหลายแห่ง อาทิ เยอรมนี ฝรั่งเศส และสหราชอาณาจักร
ปัจจัยหนุนการเติบโตมาจากการบริโภคแข็งแกร่ง และได้การลงทุนภาคธุรกิจมาเป็นตัวเสริม แต่ชาวอเมริกันยังวิตกกังวลกับสถานการณ์การเงินของตนเอง
ผลสำรวจความคิดเห็นในเดือน ต.ค.โดยนิวยอร์กไทม์ส/ซีนาคอลเลจ ชี้ว่า สองสัปดาห์ก่อนหย่อนบัตร ปัญหาเศรษฐกิจยังคงเป็นความกังวลใหญ่สำหรับผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ผู้ให้ข้อมูลมองว่าทรัมป์จัดการเศรษฐกิจได้ดีกว่าแฮร์ริส ที่ 52% ต่อ 45%
- เงินเฟ้อ ‘จัดการยาก’
นอร์ธอธิบายว่า เมื่อเทียบกับเดือน ม.ค.2021 ตอนที่ราคาสินค้าเริ่มสูง ค่าจ้างเติบโต18% แต่ค่าใช้จ่ายครัวเรือน เช่น อาหาร บ้าน น้ำมัน เพิ่มขึ้นระหว่าง 22%-29%
นี่น่าจะเป็นเหตุผลทำให้โหวตเตอร์รู้สึกว่าเศรษฐกิจไม่ดี แม้การจ้างงานและค่าจ้างเติบโตอีกทั้งระดับการว่างงานต่ำ
“ผู้คนตามท้องถนนสนใจเหรอว่าจีดีพีจะอยู่ที่ 2.8 หรือ 3.1 ไม่เลย พวกเขาอยากรู้แค่ว่าเงินเฟ้อจะกระทบกับพวกเขายังไง มันหนักเอาการอยู่ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา” นอร์ธกล่าว ด้วยจูเลีย พอลแลค หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จากซิปรีครูเตอร์ (ZipRecruiter) กล่าวว่า คนทำงานอาจมีค่าจ้างเติบโตขึ้น 17 เดือน แต่ก่อนหน้านั้นค่าจ้างเติบโตติดลบมา 25 เดือน ในเมื่อคนทำงานคุ้นเคยกับค่าจ้างเติบโตก่อนโควิดระบาด หลายคนจึงรู้สึกว่าเงินเดือนของตนยังโตไม่มาก
นอกจากนี้ผู้บริโภคยังหันไปพึ่งบัตรเครดิตและนำเงินออมมาใช้จ่ายมากขึ้น ยิ่งเพิ่มแรงกดดันโดยเฉพาะครัวเรือนรายได้น้อยและคนหนุ่มสาว
นักเศรษฐศาสตร์ชี้อัตราการผิดนัดชำระหนี้บัตรเครดิตเพิ่มขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ข้อมูลจากธนาคารกลางสหรัฐสาขาฟิลาเดลเฟียชี้ว่า ไตรมาสแรกของปีนี้เกือบทะลุระดับสูงสุดในรอบ 12 ปี
ไมเคิล เพียซ ผู้ช่วยหัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จากออกซ์ฟอร์ด อีโคโนมิกส์ กล่าวในวันพุธ (30 ต.ค.) ว่า ปัจจัยใหญ่สุดที่ขับเคลื่อนการเติบโตของจีดีพีมาจากการการใช้จ่ายของผู้บริโภค โดยได้การลงทุนทำธุรกิจมาช่วย
“ความไม่แน่นอนของการเลือกตั้งอาจส่งผลต่อการลงทุนทำธุรกิจในไตรมาสสี่ แต่ปกติแล้วส่งผลไม่มาก” เพียซกล่าวและว่า ตัวเลขการเติบโตของจีดีพีไม่น่าส่งผลต่อการตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยของเฟดในสัปดาห์หน้า
คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ
ตัวเลขชี้เศรษฐกิจสหรัฐแข็งแกร่ง แต่คนหนุนพรรครีพับลิกันไม่เชื่อ
สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า เมื่อวันพุธที่ 30 ต.ค. กระทรวงพาณิชย์สหรัฐได้แถลงข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญชุดสุดท...
อิหร่านอาจโจมตีอิสราเอลก่อนเลือกตั้งสหรัฐ! l World in Brief
อิหร่านอาจโจมตีอิสราเอลก่อนเลือกตั้งสหรัฐ! เว็บไซต์ข่าว Axios รายงานเมื่อวันพฤหัสบดี (31 ต.ค.) อ้างแ...
เศรษฐกิจสหรัฐโตไม่ส่งผลต่อการเลือกตั้ง
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงาน แม้ใช้จ่ายมากขึ้น ผู้บริโภคชาวอเมริกันยังคงกังวลเรื่องโอกาสการจ้างงานและการเง...
เรียนรู้ตลอดชีวิตด้วยเอไอ ทำอย่างไรให้มีประสิทธิภาพ l World Pulse
World Pulse มีโอกาสพบกับผู้เชี่ยวชาญจากสิงคโปร์หารือกันถึงการเรียนรู้ในวัยผู้ใหญ่ เพื่อการใช้เอไออย่...
ยอดวิว