“วิสุทธิ์” เผย พรรคเพื่อไทย ยังไม่คุยแนวทางพิจารณาร่างนิรโทษ “วรชัย” ย้ำ คือทางออกขัดแย้ง หวังปล่อยทางได้เห็นกฎหมายที่เป็นธรรม ขณะที่ “หมอเชิดชัย” บอกประชุมเพื่อไทย ต้องคุยกันเรื่องนี้ โวย สส.ขี้ปอด โหวตข้อสังเกตรายงานคนละทาง ย้ำชัดไม่คิดยกเลิก ม. 112
วันที่ 26 ต.ค. 2567 นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงร่างกฎหมายเกี่ยวกับการนิรโทษกรรม 4 ร่างที่จ่อเข้าสู่การประชุมสภาฯในสมัยประชุมหน้า ที่จะเปิดวันที่ 12 ธ.ค. นี้ พรรคเพื่อไทยจะมีการเสนอร่างกฎหมายเข้าประกบหรือไม่ ว่า เบื้องต้นยังไม่ได้มีการพูดคุยกัน ซึ่งก็มีสองแนวทางคือ อาจจะมีการยื่นร่างประกบ แต่ต้องมีการถามมติพรรคก่อน และอีกแนวทางคือโหวตตกหมดก็ถือว่าจบไปเท่านั้น อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ต้องมีการพูดคุยกันในที่ประชุมพรรคก่อนที่จะมีการเปิดสมัยประชุมเพื่อหาความชัดเจน รวมถึงต้องมีการปรึกษาฝ่ายกฎหมายและคณะกรรมการบริหารพรรคด้วย เนื่องจากเรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน เราต้องทำเป็นระบบ ไม่ใช่ตัดสินใจโดยใครคนใดคนหนึ่ง
“วรชัย” เสียดาย สภาฯ โหวตไม่เห็นชอบข้อสังเกตร่างนิรโทษ
ด้านนายวรชัย เหมะ อดีต สส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้เคยเสนอร่างกฎหมายนิรโทษฉบับ “วรชัย เหมะ” ให้สัมภาษณ์กรณี สภาฯไม่เห็นชอบข้อสังเกต ผลการศึกษาการตราร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องน่าเสียดายอย่างยิ่ง เพราะการนิรโทษกรรมเป็นเครื่องมือหนึ่งที่จะนำไปสู่การปรองดองของคนในชาติ เป็นหลักสากลที่หลายประเทศใช้กัน แม้วันนี้สภาฯ จะไม่เห็นด้วยกับข้อสังเกตดังกล่าว แต่ในอนาคตจะปล่อยให้ประเทศแตกแยกกันต่อไปได้อย่างไร การนิรโทษกรรมในประเทศไทยเกิดขึ้นมาหลายครั้งแล้ว แม้แต่การกระทำอันเป็นคอมมิวนิสต์ที่มีโทษหนักและรุนแรง ก็ได้รับการนิรโทษกรรมมาแล้ว ทำให้นักศึกษาประชาชนที่เคยจับอาวุธสู้กับรัฐบาลจนมีคนล้มตายไปเป็นหลายสิบปี ได้กลับเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมพัฒนาประเทศ ดังนั้นแม้ข้อสังเกตดังกล่าวจะตกไปแล้ว แต่ก็ยังมีร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการนิรโทษของภาคประชาชนและพรรคการเมือง รอการพิจารณาในสภาฯอยู่ ตนก็หวังว่าตัวแทนประชาชนในสภาฯจะเห็นความสำคัญของเรื่องนี้แล้วตั้งกรรมาธิการร่วมศึกษาข้อดีข้อเสียของร่างกฎหมายแต่ละฉบับเพื่อนำไปสู่การปรองดองของคนในชาติได้สำเร็จ
...
เมื่อถามว่าการที่ สส.พรรคเพื่อไทยส่วนใหญ่ ไม่เห็นชอบข้อสังเกตดังกล่าวด้วย จะกระทบกับมวลชนผู้สนับสนุนพรรคหรือไม่ นายวรชัย กล่าวว่า มองว่าประชาชนมีสองส่วน ทั้งที่อยากให้เดินหน้าข้อสังเกตเพื่อนำไปสู่การออกกฎหมาย รวมถึงส่วนที่กังวลว่าจะนำไปสู่ความขัดแย้งรอบใหม่ แต่ประเด็นหลักที่ทำให้เรื่องนี้ตกไปคือการสร้างความหวาดกลัวของนักการเมืองในสภาฯ แต่เมื่อผลการพิจารณาออกมาเช่นนี้ก็ต้องยอมรับ ก็หวังว่าเมื่อเวลาผ่านไปประเด็นในสังคมผ่อนคลาย ร่างกฎหมายที่ค้างอยู่จะได้รับการพิจารณาอย่างรอบคอบรอบด้านเป็นธรรมทำให้เกิดการนิรโทษกรรมที่เป็นธรรมกับทุกฝ่าย
“หมอเชิดชัย” บอกประชุม พท. ต้องคุยกฎหมายนิรโทษ
ขณะที่ นพ.เชิดชัย ตันติศิรินทร์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงร่างกฎหมายเกี่ยวกับการนิรโทษกรรม 4 ร่าง ที่จ่อเข้าสู่การประชุมสภาผู้แทนราษฎรในสมัยประชุมหน้า พรรคเพื่อไทยจะเสนอร่างเข้าประกบหรือไม่ ว่า ยังไม่ได้คุยกัน หลังจากวันที่ประชุมสภาฯไม่เห็นชอบข้อสังเกตรายงานการศึกษาแนวทางการตราร่างกฎหมายนิรโทษ ก็ได้คุยกับนายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรค ซึ่งก็งงว่าแหกกติกากันหมดเลย ทำไมจึงเป็นเช่นนี้ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่าน ไม่เห็นด้วยอยู่แล้ว เราก็ไม่ว่าอะไร แต่คนอื่นกลับลงมติไม่รับหมด เมื่อถามว่า จะต้องมีการคุยพูดกันในพรรคเพิ่มเติมหรือไม่ นพ.เชิดชัย กล่าวว่า วันที่ 29 ต.ค. ที่จะมีประชุมพรรค คงจะต้องมีการเสนอเรื่องนี้เพราะร่างกฎหมายนิรโทษจะเข้าสภาฯ ไม่พูดวันนี้ วันหน้าก็ต้องพูดอยู่ดี จะได้นำสิ่งที่ กมธ.ศึกษามาเป็นแนวทางว่าอะไรเหมาะสมหรือแบบไหนก็ว่ากันไป
เมื่อถามว่า มองอย่างไรกับการที่ สส.ของพรรคไม่เห็นด้วยกับร่างรายงานดังกล่าว นพ.เชิดชัย กล่าวว่า “เขาขี้ปอด ผมมองว่าเรื่องแบบนี้ต้องกล้าหาญหน่อย เพราะเป็นเรื่องที่หากจะไปพูดที่อื่นก็ไม่เหมาะ ก็ต้องพูดในที่เปิดเผย และต้องใช้ความระมัดระวัง ไม่ใช่ว่าเราไปพูดเรื่องสถาบัน เพียงแค่เราจะดูว่ามีแนวทางใดที่จะช่วยผู้ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดตามมาตรา 112 ไม่ได้เกี่ยวกับสถาบัน แต่คนกลับเข้าใจผิดว่าจะไปยกเลิกมาตรา 112 มันไม่ใช่ ในรายงาน กรรมาธิการเขาดูแล้วก็มีตั้งแต่พวกที่ทำซ้ำ อาฆาตมาดร้ายจริงๆ มีไม่กี่คน แต่ส่วนใหญ่เราก็ควรนิรโทษกรรมให้เขาได้กลับไปเรียนหนังสือ โดยมีเงื่อนไขว่าอย่าไปทำผิดอีกภายในกี่ปีก็ว่ากันไป” เมื่อถามว่า มองว่าพรรค พท.ควรเสนอร่างประกบเข้าไปด้วยหรือไม่ นพ.เชิดชัย กล่าวว่า หากจะมีการยกร่างประกบ ก็คงยกร่างไปตามที่เรามีการพูดคุยกันไปคือการนิรโทษกรรม 3 แนวทาง ซึ่งหากตนเสนอก็คงเสนอแบบมีเงื่อนไข แต่เราคงจะต้องมีการพูดคุยกันว่าสรุปแล้วจะเอาอย่างไร ในเมื่อมีร่างของภาคประชาชน ร่างของพรรคประชาชน และร่างของพรรคอื่นอีก ซึ่งเป็นร่างเกี่ยวกับการนิรโทษกรรมทั้งสิ้น
