“นายกฯอิ๊งค์” ขึงขังยกปมนิรโทษ ม.112 ขึ้นโต๊ะอาหารคุยพรรคร่วมรัฐบาล “ภูมิธรรม” ยันต้องเคลียร์ให้ชัดก่อน “ดนุพร” ยอมรับ สส.เพื่อไทยเสียงแตก 3 ทางตามผลสรุป กมธ.ศึกษาร่างกฎหมายนิรโทษกรรม “อนุทิน” ย้ำหัวตะปู ภูมิใจไทยไม่เอานิรโทษคนผิด ม.112 มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ทุจริตยิ่งไม่ต้องพูดถึง “จุรินทร์” ยก ปชป.เป็นเอกภาพ สส.ค้านทั้งพรรค หวังดีบอกเข็นเข้าสภาฯได้ไม่คุ้มเสีย ฮือฮา “ลุงป้อม” ดอดเข้าสภาฯไปเซ็นชื่อ นักข่าวตาดีเห็นแค่เซ็นแล้วขึ้นรถกลับเลย ปธ.สภาฯแจ้ง “พิศาล” พ้นสภาพ สส.แล้ว ขณะที่โฆษกรัฐบาลเผยนายกฯออกลุยเยียวยาน้ำท่วมอีสาน ไหว้พญานาคงานบั้งไฟโลก
ท่าทีต่อการออกกฎหมายนิรโทษกรรม กลายเป็นอีกนโยบายที่ถูกจับจ้อง ล่าสุดพรรคร่วมรัฐบาลต่างออกมาแสดงท่าทีไม่เห็นด้วยกับรายงานผลการศึกษาของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตรา พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ที่นำความผิดมาตรา 112 มาพิจารณา ส่วนพรรคเพื่อไทยเอง ยังเสียงแตกอยู่
“อิ๊งค์”เล็งคุยนิรโทษวงพรรคร่วม
เมื่อเวลา 10.45 น. วันที่ 16 ต.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล หลังเป็นประธานงานคิกออฟ โครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ที่ตึกสันติไมตรี (หลังใน) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีพรรคร่วมรัฐบาลไม่เห็นด้วยกับรายงานผลการศึกษาของคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตรา พ.ร.บ.นิรโทษกรรมว่า “ทุกเรื่องต้องพูดคุยกัน” เมื่อถามว่าจะนำเรื่องดังกล่าวไปคุยกันในวงรับประทานอาหารร่วมกับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลในวันที่ 21 ต.ค. นายกฯ หันมาตอบว่า “ดีไหมค่ะ”
ทำงงไม่รู้จักนักร้องฟ้องล้มล้าง
เมื่อถามว่า นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ทนายความอิสระ ยื่นศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสั่งการให้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ และพรรคเพื่อไทย เลิกการกระทำที่เป็นการใช้สิทธิและเสรีภาพ อันนำไปสู่การล้มล้างการปกครอง น.ส.แพทองธารไม่ตอบคำถามดังกล่าว ขณะเดินขึ้นบันไดตึกไทยคู่ฟ้าหันมาถามผู้สื่อข่าวว่า “ไม่เข้าใจคำถามนักข่าว งง เอ๊ะ! ใครนะ ใครฟ้องนะ” ก่อนหันกลับเดินขึ้นห้องทำงาน ตึกไทยคู่ฟ้าไป
...
“อ้วน” อู้อี้แค่คุยให้เป็นเอกภาพ
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม แกนนำพรรค พท.ให้สัมภาษณ์ถึงการนัดพรรคร่วมรัฐบาล รับประทานอาหารในวันที่ 21 ต.ค.ว่า ยังไม่กำหนดประเด็นหารือที่ชัดเจน เพราะเป็นครั้งแรกของรัฐบาลน.ส.แพทองธาร ชินวัตร เวทีนี้จะมีโอกาสแลกเปลี่ยน มองปัญหา และบูรณาการทำงานร่วมกัน ใครติดขัดเรื่องการทำงานอะไร ตรงนี้จะได้ทำความเข้าใจ เพื่อให้งานเป็นเอกภาพมากขึ้น ผู้สื่อข่าวถามว่าจะพูดคุยถึงแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ นายภูมิธรรมตอบว่า คงเป็นประเด็นการเมืองทั่วไป ใครสนใจอะไรเป็นพิเศษจะหยิบขึ้นมา วันนี้มาทำความรู้จักกันให้มากขึ้น เมื่อถามย้ำว่าก่อนหน้านี้เคยระบุว่าจะเชิญหัวหน้าพรรคร่วม มาสรุปแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญให้ชัด เมื่อมีการพูดคุยของหัวหน้าพรรคร่วมจะชัดเจนขึ้นหรือไม่ นายภูมิธรรมตอบว่า ขึ้นอยู่กับวงประชุม เพราะครั้งนี้ไม่ได้กำหนดเป็นวาระ ต้องรอดูว่าจะได้พูดคุยอะไรกันบ้าง
เสียงเขียวครหา พท.แก้ รธน.ไม่ทัน
เมื่อถามอีกว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะแล้วเสร็จในรัฐบาลชุดนี้หรือไม่ นายภูมิธรรมตอบว่า ความตั้งใจของพรรคเพื่อไทยที่เป็นแกนนำ เราพยายามทำให้ทันแต่จะทันหรือไม่ อยู่ที่การถกเถียงความเห็นต่างหากไม่มากก็เดินได้เร็ว แต่ถ้าเห็นต่างกันมากต้องใช้เวลา เมื่อถามย้ำว่า หากไม่ทันในรัฐบาลชุดนี้ จะเป็นปัญหาหรือไม่ เพราะเป็นนโยบายของพรรคเพื่อไทย นายภูมิธรรมตอบว่า “อย่าเพิ่งพูดถ้าเรายังไม่รู้ เวลายังเหลืออีก 2 ปีกว่า เกือบ 3 ปี อย่าเพิ่ง ถ้ารอให้สถานการณ์มันเกิด มันมีเงื่อนไขอีกหลายอย่าง”
ลั่นปมนิรโทษเคลียร์พรรคร่วมแน่
เมื่อถามถึงกรณี กมธ.วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตรา พ.ร.บ.นิรโทษกรรม จะเสนอผลการศึกษาต่อที่ประชุมสภา นายภูมิธรรมตอบว่า ยังไม่ได้มีการพูดคุย ได้ยินว่าเขาจะเลื่อน เมื่อถามถึงท่าทีพรรคร่วมรัฐบาลบางพรรค ที่จะมีมติงดออกเสียงต่อรายงานของคณะ กมธ. นายภูมิธรรมตอบว่า เรื่องนี้เรายังไม่ได้คุยกัน เป็นความเห็นแต่ละพรรค แต่พอถึงเวลามีการประชุมร่วมกันก็ต้องคุยกันเรื่องเหล่านี้
“ชูศักดิ์” แจงแค่รายงานไม่ใช่ ก.ม.
นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายก รัฐมนตรี ในฐานะประธาน กมธ.วิสามัญศึกษาพิจารณาแนวทางการตรา พ.ร.บ.นิรโทษกรรมกล่าวว่า สภาฯควรพิจารณารายงานผลการศึกษาของ กมธ.ในวันที่ 17 ต.ค. เนื่องจากเลื่อนมาแล้ว 2 ครั้ง เกรงจะสร้างความสับสนเลื่อนไปเป็นเพราะอะไร และอยากชี้แจงให้ทุกฝ่ายเข้าใจกับผลการศึกษาที่ออกมาด้วย เป็นเพียงการพิจารณารายงานการศึกษาแนวทางการตรากฎหมาย ไม่ใช่ยกเลิกหรือแก้ไขกฎหมาย ควรนิรโทษหรือไม่ สภาฯเพียงรับทราบ ท้ายที่สุดจะยกร่างเสนอกฎหมายนิรโทษกรรมแบบไหน เป็นเรื่องของคนที่มีอำนาจ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะพิจารณา
สส.เพื่อไทยเสียงแตกปมนิรโทษ
นายดนุพร ปุณณกันต์ โฆษกพรรค พท. ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการนำรายงานของ กมธ.วิสามัญศึกษาพิจารณาแนวทางการตรา พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เข้าสู่วาระพิจารณาของที่ประชุมสภาฯ ในวันที่ 17 ต.ค.ว่า ไม่แน่ใจว่าจะเลื่อนอีกหรือไม่ เพราะวันที่ 15 ต.ค. ในที่ประชุมพรรค พท. นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะ กมธ.ฯ ยังยืนยันว่าจะเอาเข้า แต่ทั้งนี้ต้องคุยกับทางพรรคร่วมรัฐบาลก่อน ขณะนี้วิปรัฐบาลกำลังคุยกันอยู่ เนื่องจากบางพรรคไม่เห็นด้วย เพราะในร่างรายงานศึกษาของ กมธ.มีหลายแนวทาง เช่น กรณีที่มีการถกเถียงกัน คือเรื่องเกี่ยวความผิดตามกฎหมายมาตรา 112 ว่า หากจะรวมและไม่รวมมีข้อดีข้อเสียอย่างไร ทำให้มีความไม่สบายใจของบางพรรคร่วมรัฐบาลที่ว่าไม่อยากให้รวมความผิดมาตรา 112 เลย ในส่วนของพรรค พท.วันนี้ สปส.ยังคงเสียงแตก เป็น 3 แนวทาง คือ รวมมาตรา 112 ไม่รวมมาตรา 112 และรวมมาตรา 112 แบบมีเงื่อนไข คือการมีคณะกรรมการ ขึ้นมา มีการยกโทษให้แต่หากไปทำผิดซ้ำอีกเราจะยกโทษเก่ากลับมาทั้งหมดโดยจะรวมโทษทั้งต้นและดอก
ภท.ย้ำหัวตะปูไม่นิรโทษ 112-ทุจริต
ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว. มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์ถึงท่าทีต่อรายงาน กมธ.วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตรา พ.ร.บ.นิรโทษกรรมว่า ยืนยันฝั่งของพรรคภูมิใจไทยในเรื่องมาตรา 112 จะไม่มีการนิรโทษกรรม เป็นจุดยืนของพรรคมาแต่ไหนแต่ไร ส่วนความผิดเคลื่อนไหวทางการเมืองที่ไม่เกี่ยวข้องกับมาตรา 112 แต่เป็นความเห็นต่างหรือหวังดีต่อบ้านเมือง คิดไม่ตรงกันนั้นสามารถคุยกันได้ แต่ความผิดประเด็นทุจริตไม่ต้องถามอยู่แล้ว ใครจะไปนิรโทษกรรม
“จุรินทร์” ยัน สส.ปชป.คว่ำยกพรรค
ที่รัฐสภา นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส.บัญชีรายชื่อ และอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวว่า ที่ประชุม สส.พรรค ปชป.วันที่ 15 ต.ค.มีมติไม่เห็นชอบทั้งผลการศึกษาของ กมธ.วิสามัญศึกษาแนวทางการตรา พ.ร.บ.นิรโทษกรรม และไม่เห็นชอบให้ส่งรัฐบาลรับไปพิจารณา ด้วยเหตุผลสำคัญ 2 ข้อ เพราะ กมธ.ฯ มีข้อเสนอให้นิรโทษกรรมกระทำความผิด มาตรา 112 รวมอยู่ด้วย ไม่ว่านิรโทษกรรมแบบมีเงื่อนไขหรือไม่มีเงื่อนไขก็ตาม เพื่อป้องกันนำผลการศึกษาของ กมธ.ฯไปเป็นสารตั้งต้นนิรโทษกรรมความผิด 112 ต่อไปในอนาคต พรรค ปชป.เห็นว่าการออกกฎหมายนิรโทษกรรมสามารถทำได้ในความผิดอันเกิดจากแรงจูงใจทางการเมืองทั่วไป อดีตก็เคยมีการทำมา แต่ไม่รวมคดีทุจริตคอร์รัปชันและคดี 112 เพราะจะมีผลในการส่งเสริมมุมกลับให้ละเมิดมาตรา 112 ในอนาคต
เตือน รบ.เข็นเข้าสภาฯได้ไม่คุ้มเสีย
“การนิรโทษกรรมกระทำความผิด 112 อาจเข้าข่ายละเมิดรัฐธรรมนูญมาตรา 6 ที่ระบุชัดเจน องค์พระมหากษัตริย์ทรงดำรงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดละเมิดมิได้ ผู้ใดกล่าวหาหรือฟ้องร้องพระมหากษัตริย์ในทางใดๆมิได้ เพื่อคุ้มครองพระประมุขเช่นอารยประเทศทั่วไป ถือเป็นหลักการสำคัญในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข การออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรมคดี 112 เป็นเรื่องต้องพึงระวังเป็นอย่างยิ่งอยากให้รัฐบาลได้ไตร่ตรองให้รอบคอบว่าควรเร่งนำเรื่องนี้เข้าสู่การพิจารณาของสภาในวันพฤหัสฯนี้หรือไม่ จำเป็นแค่ไหนและได้คุ้มเสียหรือไม่” นายจุรินทร์กล่าว
“ลุงป้อม” ดอดเข้าสภาฯเซ็นชื่อ
อีกด้านเมื่อเวลา 07.40 น. ที่รัฐสภา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เดินทางไปยังอาคารรัฐสภา พร้อมด้วยทีมอารักขาส่วนตัว โดยเดินขึ้นไปบริเวณชั้น 2 หน้าห้องประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อมาเซ็นชื่อ และยืนยันตัวตน ก่อนที่จะเปิดประชุมเวลา 09.00น.หลังเซ็นชื่อ พล.อ.ประวิตรได้ขึ้นรถส่วนตัวออกจากอาคารรัฐสภาไปทันที
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ที่ผ่านมา พล.อ.ประวิตร ไม่ค่อยปรากฏตัวเข้าร่วมประชุมสภาฯ จนถูกนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) เปิดข้อมูลตรวจสอบการขาดประชุมของ พล.อ.ประวิตร พบว่า ตั้งแต่วันที่ 3 ก.ค.2566 ถึง 19 ก.ย.2567 มีประชุมสภาฯทั้งหมด 95 ครั้ง พล.อ.ประวิตรขาดประชุม 84 ครั้ง
“พิศาล” ไขก๊อก สส.เหลือ 492 คน
ต่อมาเวลา 10.33 น. มีการประชุมสภาฯ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ ทำหน้าที่ประธานการประชุม หลังเปิดให้ สส.หารือก่อนเข้าสู่วาระการประชุม นายวันมูหะมัดนอร์ได้แจ้งที่ประชุมให้รับทราบเรื่องการสิ้นสุดสมาชิกภาพ สส.ว่า ด้วย พล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) มีหนังสือขอลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรค พท. ตั้งแต่วันที่ 14 ต.ค. เป็นผลให้สมาชิกภาพสส.ของ พล.อ.พิศาลสิ้นสุดลง ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 101 (8) ดังนั้น สส.ทั้งหมดเท่าที่มีอยู่คือ 492 คน องค์ประชุมกึ่งหนึ่งต้องเท่ากับ 246 คน
จีนส่งแพนด้าคู่ใหม่ฉลอง 50 ปี
วันเดียวกัน ที่ห้องสีงาช้าง ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ให้การต้อนรับ นายหาน จื้อเฉียง เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐ ประชาชนจีน ประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ปีหน้านี้เป็นปีทองแห่งมิตรภาพความสัมพันธ์ทางการทูตในวาระครบรอบ 50 ปี ไทย-จีน ด้านนายหานกล่าวว่า ในวาระการเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปี สัมพันธ์ไทย-จีน วันที่ 4 ธ.ค.จะเริ่มต้นกิจกรรมด้วยการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) มาประดิษฐานที่ไทยชั่วคราวเป็นเวลา 73 วัน รวมทั้งยืนยันจะนำแพนด้ายักษ์คู่ใหม่ให้เป็นทูตสันถวไมตรีอีกครั้ง หลังเสร็จสิ้นการหารือ นายหานเป็นผู้แทนสถานทูตจีน และสมาคมการค้าวิสาหกิจไทย-จีน มอบเงินบริจาคช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย 7.2 ล้านบาท
นายกฯลุยงานบั้งไฟพญานาคโลก
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายก รัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันที่ 17 ต.ค. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ มีกำหนดการลงพื้นที่ จ.หนองคาย เพื่อติดตามผลการช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบอุทกภัยในภาคอีสาน โครงการพัฒนาลุ่มน้ำห้วยหลวงตอนล่าง ต.วัดหลวง อ.โพนพิสัย จากนั้นไปยังลานนาคาเบิกฟ้า 1 ต.จุมพล อ.โพนพิสัย เพื่อเป็นประธานในพิธีบวงสรวงบูชาพญาพิสัยสัตนาคราช เนื่องใน งานประเพณีออกพรรษาและบั้งไฟพญานาคโลกประจำปี 2567 พร้อมเป็นประธานในพิธีเปิดงาน “ประเพณีออกพรรษาและบั้งไฟพญานาคโลก” ประจำ ปี 2567 (Naga Fireball Miracle of Faith 2024) ลานนาคาเบิกฟ้า 2 ต.จุมพล อ.โพนพิสัย ก่อนร่วมชม ปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาค ณ พุทธอุทยานนานาชาติ (ปทุมรัตน์ธรรมเจดีย์)
“มท.หนู” ปลุกผู้ว่าฯทำงานไม่มีพัก
เมื่อเวลา 10.00 น. ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.มหาดไทย เป็นประธานประชุมมอบนโยบายของ ผู้บริหารกระทรวงมหาดไทย ประจำปีงบประมาณ 68 มีนายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ผู้บริหารระดับสูง และ ผวจ.ร่วมประชุม นายอนุทินกล่าวว่า ขอให้ข้าราชการที่ได้ รับแต่งตั้งใหม่รวมถึง ผวจ.ร่วมขับเคลื่อนนโยบายที่เคยมอบไว้ แต่ขอให้เน้น 5 นโยบายหลัก คือ
1.จัดระเบียบบังคม ปราบปรามผู้มีอิทธิพล 2.ปราบปรามและป้องกันยาเสพติด 3.สร้างอาชีพ เพิ่มรายได้ให้กับประชาชน 4.ส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชน และ 5.น้ำดื่มสะอาดบริการประชาชนเพื่อนำไปสู่เป้าหมายการบำบัดทุกข์ บำรุงสุข โดยมี ผวจ. เป็นกลไกที่ สำคัญ ทำงานไม่มีวันหยุดพัก ไม่เชื่องช้าเฉื่อยชา เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้น
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่
