‘ทูตไทย-ตม.เกาหลีใต้’ ร่วมมือเข้ม ‘ลดผีน้อย’ เพิ่มแรงงานถูกกฎหมาย

กระแส “แบนเที่ยวเกาหลี” ของชาวไทยกระหึ่มโซเชียลมีเดียมาตั้งแต่ปลายปี 2566 เนื่องจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) ตม.เกาหลีใต้ คัดกรองคนเข้าประเทศเข้มงวด จนกระทบไปถึงนักท่องเที่ยวไทยที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับแรงงานผิดกฎหมาย ส่งผลให้คนไทยเลือกไปเที่ยวเกาหลีใต้น้อยลงติดต่อกันหลายเดือน แต่ต้องยอมรับว่าผู้ถือหนังสือเดินทางไทยเป็นกลุ่มที่ต้องจับตาเป็นพิเศษ เนื่องจากคนไทยครองสัดส่วนแรงงานผิดกฎหมายในเกาหลีใต้มากที่สุด ขณะที่รัฐบาลเกาหลีใต้และสถานทูตไทยพยายามหาแนวทางลดแรงงานผิดกฎหมายต่อเนื่อง

เมื่อเดือน ส.ค. สำนักข่าวโคเรียไทม์สรายงานว่า นักท่องเที่ยวไทยไปเกาหลีใต้ลดลงติดต่อกัน 7 เดือนในเดือนมิ.ย. โดยลดลง 19.5%  เมื่อเทียบกับปี 2566 สู่ระดับ 20,150 คน ขณะที่ยอดนักท่องเที่ยวไทยเยือนเกาหลีใต้ในครึ่งปีแรกของปี 2567 ก็ลดลง 19.1% เมื่อเทียบกับปีก่อน สู่ระดับ 168,328 คน เนื่องจากมีกระแสร้องเรียนเกี่ยวกับระบบยกเว้นวีซ่าอิเล็กทรอนิกส์ หรือ K-ETA (Korea Electronic Travel Authorization) ซึ่งเป็นระบบที่มักปฏิเสธการขอเดินทางเข้าเกาหลีใต้ของคนไทย และมีกระแส “แบนเที่ยวเกาหลี” เกิดขึ้นในโซเซียลมีเดีย เพราะหลายคนกังวลว่าจะถูกปฏิเสธเข้าประเทศอย่างไม่สมเหตุสมผล ซึ่งทำให้เสียเวลา เสียเงินจองที่พัก/สถานท่องเที่ยว และเสียประวัติการเดินทาง

แต่หากมองในมุมทางการเกาหลีใต้ พบว่า ผู้ถือหนังสือเดินทางสัญชาติไทยเป็นกลุ่มที่ต้องจับตาเป็นพิเศษ  เพราะครองสัดส่วนแรงงานผิดกฎหมายมากที่สุด

ซง ซอก-จุน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคพลังประชาชน ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลของเกาหลีใต้ อ้างอิงข้อมูลสถิติจากกระทรวงยุติธรรมเกาหลีใต้ เผยว่า ชาวต่างชาติที่อยู่เกินวีซ่าในเกาหลีใต้ปี 2566 มีจำนวน 423,675 คน คิดเป็นสัดส่วน 16.9% ของชาวต่างชาติกว่า 2.5 ล้านคนที่อาศัยอยู่ในเกาหลีใต้ ซึ่งชาวต่างชาติเกือบ 45% ที่อยู่เกินวีซ่าเดินทางเข้าประเทศด้วยโปรแกรมยกเว้นวีซ่า และพบว่า คนไทยอยู่เกินวีซ่าประเภท B-1 และ B-2 มากเป็นอันดับที่ 1 รวม 145,042 คนในปี 2566 คิดเป็น 76.3% ของผู้อยู่เกินวีซ่าประเภทเดียวกัน รองลงมาเป็นชาวจีน 14,830 คน และชาวคาซัคสถาน 10,827 คน

วีซ่า B-1 คือ เป็นวีซ่ายกเว้นสำหรับการพำนักระยะสั้น 30-180 วัน โดยไม่อนุญาตให้ทำงานหรือศึกษา

วีซ่า B-2 คือ ออกให้กับผู้ที่ต้องการเดินทางผ่านเกาหลีใต้ไปยังประเทศที่สาม 

รัฐบาลเกาหลีใต้ ดำเนินการปราบปรามและจับกุมแรงงานผิดกฎหมายอย่างต่อเนื่อง รวมถึงตรวจคนเข้าเมืองเข้มงวด ขณะเดียวกันก็ร่วมมือกับสถานเอกอัครราชทูตประเทศต่าง ๆ เพื่อหาทางแก้ไขปัญหาร่วมกันอย่างเป็นธรรม

นายธานี แสงรัตน์ เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโซล เผยกับผู้สื่อข่าวเมื่อวันศุกร์ที่ 4 ต.ค. ว่า ระหว่างเดือนพ.ย. 2566 ถึงมี.ค. 2567 สตม.เกาหลีใต้ได้เปิดโอกาสให้ชาวต่างชาติที่อยู่ในประเทศอย่างผิดกฎหมายสามารถเดินทางกลับประเทศของตนตามสมัครใจ โดยไม่ต้องรับโทษ ได้แก่ การยกเว้นค่าปรับ และการผ่อนปรนข้อจำกัดในการเดินทางเข้าสาธารณรัฐเกาหลี และขอความร่วมมือกับสถานทูตประเทศต่าง ๆ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้แรงงานอยู่เสมอ 

ทูตธานีเผยว่า ในครั้งนั้นมีแรงงานไทยผิดกฎหมายรายงานตัวขอกลับประเทศไปกว่า 6,900 คน ทำให้แรงงานไทยผิดกฎหมายที่อยู่ในเกาหลีใต้ลดลงจากประมาณ 145,000 คน เหลือราว 139,000 คน

และจากสถิติหลายปีที่ผ่านมาพบว่า จำนวนแรงงานไทยผิดกฎหมายในเกาหลีใต้ ลดลงอย่างต่อเนื่อง

ตอนนี้สตม.เกาหลีใต้ได้เปิดโอกาสให้แรงงานผิดกฎหมายกลับบ้านได้โดยไร้โทษทางกฎหมายอีกครั้ง ตั้งแต่เมื่อวันที่ 30 ก.ย. จนถึง 30 เดือน พ.ย. นี้ และย้ำว่า แรงงานจะสามารถเดินทางกลับมาท่องเที่ยวประเทศเกาหลีใต้ได้อีก

แต่หากแรงงานผิดกฎหมายเลือกอยู่ในเกาหลีใต้ต่อไปและหาโอกาสกลับประเทศด้วยตนเอง จะต้องถูกปรับเป็นเงินหลายแสนบาทก่อนกลับประเทศ และอาจกลับไปเที่ยวเกาหลีใต้ได้ยากขึ้น ขณะที่นายจ้างก็ถูกปรับในอัตราเดียวกัน 

สำหรับแรงงานผิดกฎหมายที่ต้องการขอกลับประเทศ ข้อมูลจาก เพจเฟซบุ๊กสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโซล ระบุว่า

แรงงานผิดกฎหมายต้องรายงานตัวกับกระทรวงยุติธรรมของสาธารณรัฐเกาหลีก่อนเดินทางกลับอย่างน้อย 3 วัน (ยกเว้นวันหยุดราชการ) และหลักฐานที่ต้องเตรียม ได้แก่

1.หนังสือเดินทาง

2.เอกสารแจ้งสมัครใจเดินทางกลับ

3.ตั๋วเครื่องบิน

ทูตธานียืนยันว่า สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโซล และสถานเอกอัครราชทูตประเทศอื่นๆ ในกรุงโซล ร่วมกันทำงานกับสตม.เกาหลีใต้อย่างเต็มที่ เพื่อพยายามลดจำนวนแรงงานผิดกฎหมาย ขณะเดียวกันก็เปิดโอกาสให้แรงงานไทยเข้าไป ทำงานเกาหลีใต้ถูกกฎหมาย มากขึ้น

สถานทูตไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพยายามผลักดันให้แรงงานไปทำงานในเกาหลีใต้โดยมีวีซ่าให้เลือกหลายรายการ อาทิ วีซ่า E-9 สำหรับแรงงานไร้ฝีมือ และวีซ่า E-7-4 สำหรับแรงงานที่มีฝีมือ ซึ่ง ไทยพยายามส่งเสริมอย่างแข็งขันให้แรงงานถือวีซ่าประเภท E-7-4  เพราะแรงงานจะได้เงินเดือนเพิ่มขึ้น และพำนักในเกาหลีใต้ได้นานขึ้น ขณะที่กรมการจัดหางาน สำนักงานแรงงานของไทยในกรุงโซลคอยอำนวยความสะดวกเรื่องวีซ่าอยู่เสมอ

“เราไม่สามารถปิดกั้นการโยกย้ายถิ่นฐานของแรงงานได้ แต่เราสามารถบริหารจัดการได้ แรงงานที่ถูกกฎหมายจะได้รับสิทธิและได้รับการดูแลที่ดีกว่า เช่น เรื่องการรักษาพยาบาล เราอยากให้แรงงานมาอย่างถูกกฎหมาย มากับนายจ้างบริษัทที่ค่อนข้างใหญ่จะได้รับการดูแลที่ดีกว่าการมาทำงานแบบรายบุคคลหรือตัวคนเดียว” ทูตธานีย้ำ

ปัจจุบันคนไทยอาศัยอยู่ในเกาหลีใต้กว่า 200,000 คน แบ่งเป็นแรงงานผิดกฎหมายราว 139,000 คน แรงงานถูกกฎหมายกว่า 45,000 คน และนักท่องเที่ยวราว 20,000 คน

ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวีซ่าทำงานในเกาหลีใต้ คลิกที่นี่

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

แบงก์ชาติอินโดนีเซียเข้าแทรกแซงค่าเงิน หลังรูเปียห์ร่วงหนักในรอบปี

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานในวันนี้ (7 ต.ค.) ว่า ธนาคารกลางอินโดนีเซีย (BI) กำลังเข้าแทรกแซงค่าเงินรูเ...

เกิดระเบิดใกล้สถานทูตอิสราเอลในเดนมาร์ก

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงาน เกิดระเบิดห่างจาก สถานทูตอิสราเอล ประจำกรุงโคเปนเฮเกนของ เดนมาร์ก ราว 500 เมต...

‘ทูตไทย-ตม.เกาหลีใต้’ ร่วมมือเข้ม ‘ลดผีน้อย’ เพิ่มแรงงานถูกกฎหมาย

กระแส “แบนเที่ยวเกาหลี” ของชาวไทยกระหึ่มโซเชียลมีเดียมาตั้งแต่ปลายปี 2566 เนื่องจากสำนักงานตรวจคนเข้...