สภาผู้แทนราษฎร ถก 3 ญัตติด่วน ปมรถบัสทัศนศึกษานักเรียนไฟไหม้ สส. ฝ่ายค้านและรัฐบาล เห็นตรงกัน ต้องยกระดับมาตรฐานด้านความปลอดภัยของรถสาธารณะ มองทัศนศึกษายังเป็นสิ่งที่ควรดำเนินการต่อ เตือนสื่อเสนอข่าวต้องไม่สร้างบาดแผล กระทบกระเทือนจิตใจ
วันที่ 2 ตุลาคม 2567 ที่อาคารรัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่ประชุมได้พิจารณาญัตติด่วนด้วยวาจา จำนวน 3 ญัตติ จากกรณีเหตุการณ์รถบัสทัศนศึกษาของนักเรียนใน จ.อุทัยธานี ไฟไหม้ ประกอบด้วย 1. ญัตติด่วน เรื่อง ขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาศึกษาหาแนวทาง เสนอข้อคิดเห็นและการยกระดับมาตรฐานในการป้องกันการเกิดเหตุกรณีรถบัสทัศนศึกษาเกิดเพลิงไหม้และหาแนวทางช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ โดยมี นายเจเศรษฐ์ ไทยเศรษฐ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดอุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย เป็นผู้เสนอที่ต้องการให้หาแนวทางแก้ไขเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก และขอให้รัฐบาลออกมาตรการอย่างเป็นรูปธรรมเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก เพื่อให้ทุกคนเกิดการเรียนรู้และตระหนักถึงมาตรการเพื่อป้องกันเหตุอย่างจริงจัง
2. ญัตติด่วน เรื่อง ขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาศึกษาสาเหตุการเกิดไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษาของนักเรียน แนวทางการช่วยเหลือ เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ และมาตรการป้องกันการเกิดเหตุซ้ำ โดยมี นายทศพร เสรีรักษ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดแพร่ พรรคเพื่อไทย เป็นผู้เสนอ ที่ถามประเด็นที่สังคมเกิดคำถาม ว่าการทัศนศึกษาเป็นสิ่งที่จำเป็นหรือไม่ ควรยกเลิกหรือไม่
และ 3. ญัตติด่วน เรื่อง ขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาศึกษาหาแนวทางป้องกันเหตุและแผนเผชิญเหตุที่เป็นรูปธรรมในอนาคต กรณีการเกิดเหตุไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษาเพื่อเสนอเรื่องไปยังรัฐบาลเพื่อดำเนินการต่อไป โดยมี นางสาวศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กรุงเทพมหานคร พรรคประชาชน เป็นผู้เสนอ ที่ต้องหาทางออกร่วมกันเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุกับรถใน 4 ประเด็น คือ มาตรฐานของรถโดยสารสาธารณะ การนำเสนอข่าวในสถานการณ์เปราะบางละเอียดอ่อนและต้องเคารพสิทธิ์ผู้เกิดเหตุไม่ตอกย้ำผู้สูญเสีย รวมถึงการเยียวยาอย่างรวดเร็วและทั่วถึง ทั้งสิทธิ์ของการดูแลรักษา พยาบาล เงินเยียวยา รวมถึงการฟื้นฟูสภาพจิตใจ และประเด็นเกี่ยวกับการทัศนศึกษา
...
โดยในที่ประชุม ส.ส. ทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาล ที่ลุกขึ้นอภิปราย ได้กล่าวแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมสนับสนุนญัตติด่วน โดยสมาชิกฯ ส่วนใหญ่ ให้ข้อคิดเห็นในประเด็นมาตรฐานด้านความปลอดภัยของรถสาธารณะ ที่ต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องปรับปรุงมาตรฐานของรถเพื่อการขนส่งสาธารณะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งรถที่เกี่ยวข้องกับนักเรียนต้องมีมาตรฐานเฉพาะเป็นพิเศษ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความสูญเสียขึ้นอีก รวมถึงปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ยกระดับมาตรฐานการตรวจสภาพรถของขนส่งทั้งภาครัฐและเอกชนให้มีมาตรฐาน คำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก และต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด คนขับรถต้องมีความสามารถ มีศักยภาพ มีความรับผิดชอบ และมีความพร้อมในการขับรถ รู้จักวิธีระงับเหตุเบื้องต้น การใช้อุปกรณ์ด้านความปลอดภัย การดูแลเยียวยาผู้ประสบเหตุต้องมีความรวดเร็ว และมองว่าการทัศนศึกษาเป็นสิ่งที่ควรดำเนินการต่อไป แต่อาจจะต้องปรับให้มีความเหมาะสม เช่น จำนวนครูที่ดูแลเด็ก กำหนดอายุของเด็กในการทัศนศึกษา และระยะทาง พร้อมขอให้สื่อมวลชนต้องมีความรับผิดชอบการนำเสนอข่าวสาร ไม่ให้เกิดความกระทบกระเทือนจิตใจ ไม่สร้างบาดแผลความเจ็บปวดให้เกิดขึ้นซ้ำอีก
ซึ่งหลังอภิปรายเสร็จสิ้น ที่ประชุมมีมติให้ส่งญัตติด่วนทั้ง 3 ญัตติ พร้อมข้อคิดเห็นของสมาชิกฯ ไปยังรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และส่งสรุปข้อคิดเห็นของสมาชิกฯ ที่ได้อภิปรายส่งให้คณะกรรมาธิการสามัญ จำนวน 6 คณะ ประกอบด้วย คณะกรรมาธิการคมนาคม, คณะกรรมาธิการการศึกษา, คณะกรรมาธิการการปกครอง, คณะกรรมาธิการกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ ผู้พิการ กลุ่มชาติพันธุ์ และผู้มีความหลากหลายทางเพศ, คณะกรรมาธิการการป้องกันและบรรเทาผลกระทบจากภัยธรรมชาติและสาธารณภัย และ คณะกรรมาธิการสาธารณสุข เพื่อพิจารณาหาแนวทางป้องกันและแก้ไขต่อไป จากนั้น นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 ที่ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม ได้สั่งปิดการประชุม ในเวลา 17.57 น.
