PCE สหรัฐ ลดลงต่ำคาด ตลาดหวังเฟดลดดอกเบี้ย 0.50% พ.ย.นี้

บล.เคจึไอ (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ดัชนีราคาจากรายจ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (Headline PCE) เดือน ส.ค. ของสหรัฐฯ ปรับลดลงสู่ระดับ +2.2%YoY จากเดือนก่อนหน้าที่ +2.5%YoY และต่ำกว่า Consensus คาดการณ์ที่ +2.3.3%YoY สาเหตุหลักมาจากราคาสินค้าคงทน และราคาพลังงานที่ลดลง ทำให้ตลาดให้น้ำหนักว่า เฟดจะลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในเดือน พ.ย. นี้

อย่างไรก็ตาม ตัวเลข Core PCE ซึ่งไม่รวมราคาอาหารสดและพลังงาน กลับมาปรับตัวเพิ่มขึ้นตามคาดที่ +2.7%YoY จากเดิม +2.6%YoY โดยราคาที่อยู่อาศัยยังคงกดดันจากการเติบโตของราคาที่ +5.3%YoY ซึ่งเป็นการเร่งตัวขึ้นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือน เม.ย. ปี 2567

โดยประเมิน ยังเห็นความไม่แน่นอนของปริมาณการปรับลดดอกเบี้ยเดือน พ.ย. นี้ แต่ภาพรวมมองว่า การลดอัตราดอกเบี้ยอาจไม่สามารถทำได้มากเท่าที่ตลาดคาดหวัง เนื่องจากปัจจัยเสี่ยงทางด้านเงินเฟ้อยังคงมีอยู่ จาก 

1.ราคาบ้านที่ยังคงทำจุดสูงสุดต่อเนื่อง 

2.สถานการณ์ในตะวันออกกลางที่มีแนวโน้มแย่ลงอาจกลับมาเป็นอุปสรรคต่อราคาพลังงาน 

3.อานิสงส์จากภาวะส่งต่อเงินผิดที่กำลังจะหายไป (Faded Defation Export) จากการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน และ 

4.การปิดท่าเรือ เพื่อประท้วงขอขึ้นค่าแรงจากสหภาพแรงงาน ILA ซึ่งจะกระทบต่อทั้งปริมาณการขนส่งสินค้าเกือบ 50% ของสหรัฐฯ รวมถึงการเติบโตของค่าแรงในระยะข้างหน้า (Wage Price Pressure) 

อย่างไรก็ตาม แนะนำนักลงทุนติดตามตัวเลขตลาดแรงงานอย่างใกล้ชิด ซึ่ง Fed กำลังให้ความสำคัญมากขึ้น โดยเฉพาะ Nonfarm Payroll ที่จะประกาศวันศุกร์นี้

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ