อย.สหรัฐ อนุมัติฟังก์ชันตรวจจับ ‘ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ’ บน Apple Watch

องค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกา (FDA) ได้ออกใบอนุญาตการใช้งานฟังก์ชันตรวจจับภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับบน Apple Watch โดยก่อนหน้านี้ทาง FDA ได้อนุมัติให้ใช้ Apple AirPods Pro 2 เป็นเครื่องช่วยฟังแบบไม่ต้องใช้ใบสั่งแพทย์ (OTC) เรียกได้ว่า แอปเปิลประสบความสำเร็จไปอีกก้าวในการผลักดันให้อุปกรณ์ต่างๆ ของตนเองเป็นเสมือนผู้ช่วยแพทย์เบื้องต้น

ในงานแถลงข่าว iPhone 16 ทิม คุก ประธานกรรมการบริหารของแอปเปิล กล่าวว่า ฟังก์ชันตรวจจับการหายใจมาพร้อมกับ watchOS 11 ซึ่งรองรับการใช้งานบน Apple Watch Series 9, Series 10 และ Watch Ultra 2 โดยใช้เทคโนโลยีเซ็นเซอร์วัดความเร่ง (Accelerometer) ที่มีอยู่แล้วในตัวอุปกรณ์ เพื่อตรวจจับการเคลื่อนไหวของข้อมือที่สัมพันธ์กับการหายใจผิดปกติขณะนอนหลับ 

เมื่อเปิดใช้งานฟังก์ชันฯ ระบบจะเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลการนอนของผู้ใช้อย่างน้อย 10 คืนในช่วง 30 วัน เพื่อ “ประเมินความเสี่ยง” ของการเกิดภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับ โดยข้อมูลการตรวจจับจะถูกแสดงในแอป Health บน iPhone ซึ่งผู้ใช้สามารถนำไปปรึกษาแพทย์หากตรวจเจอความผิดปกติ

FDA ได้ย้ำเตือนว่าฟังก์ชันนี้ไม่ได้มีไว้เพื่อการวินิจฉัยโรคโดยตรง แต่เป็นเพียงการประเมินความเสี่ยงเบื้องต้นเท่านั้น ผู้ใช้ที่ได้รับการแจ้งเตือนจาก Apple Watch ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยที่แม่นยำต่อไป 

ภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในผู้ใหญ่ชาวอเมริกัน โดยมีจำนวนถึง 39 ล้านคนที่มีภาวะนี้ การตรวจพบตั้งแต่เนิ่นๆ อาจช่วยป้องกันภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง เช่น โรคความดันโลหิตสูง ปัญหาหัวใจ เบาหวานประเภท 2 และปัญหาตับได้

“ผู้คนจำเป็นต้องได้รับการวินิจฉัยก่อนจึงจะได้รับการรักษา การค้นพบว่าตนเองมีอาการผิดปกติเกี่ยวกับการนอนหลับอาจช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย เพราะการตรวจเบื้องต้นจากที่บ้านมักมีราคาถูกกว่า และยังช่วยปรับปรุงคุณภาพชีวิตการนอนหลับได้เมื่อเข้ารับการรักษา” ดร.เดวิด คูลมันน์ แพทย์ที่รักษาอาการผิดปกติของการนอนหลับในรัฐมิสซูรี สหรัฐฯ กล่าว

อย่างไรก็ตาม แอปเปิลไม่ใช่บริษัทแรกที่นำเสนอนวัตกรรมดังกล่าว โดยก่อนหน้านี้ Samsung ก็ได้รับการอนุมัติจาก FDA สำหรับฟังก์ชันคล้ายกันบน Galaxy Watch เมื่อต้นปี 2024 นอกจากนี้ ยังมีบริษัทอื่นๆ เช่น Withings ที่มีอุปกรณ์วัดคุณภาพการนอนในตลาดเช่นกัน

แอปเปิลประกาศว่าฟังก์ชันนี้จะเริ่มใช้งานได้ในกว่า 150 ประเทศทั่วโลก แม้ว่าในขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลแน่ชัดว่าประเทศไทยจะสามารถใช้งานฟีเจอร์นี้ได้เมื่อใด แต่การอนุมัติของ FDA ครั้งนี้ถือเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับผู้ใช้ Apple Watch 

อ้างอิง: The Verge และ CNBC

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

'นิคมโรจนะ'โซนอันตรายเหลือขายสูงสุดมูลค่า1.7หมื่นล้าน

ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เผยผลสำรวจอุปทานโดยรวมภาคกลาง ในช่วงครึ่งแรกปี 2567 ที่อยู่อาศัยเสนอขายทั...

ตลาดหุ้นสหรัฐแทบไม่ขยับ นักลงทุนชะลอซื้อหลังดัชนีพุ่งแรงวันก่อน

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเล็กน้อยในวันศุกร์ (20 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนชะลอการเข้าซื้อหุ้น...

เจาะพอร์ต 5 เซียนชื่อดัง ถือหุ้นปันผลสูงเกิน 5% รวม 18 หลักทรัพย์

การลงทุนในตลาดหุ้นเป็นเรื่องที่ต้องใช้องค์ความรู้มาวิเคราะห์ สังเคราะห์ในทุกปัจจัยอย่างละเอียด ซึ่งม...

น้ำนมดิบอินทรีย์ สร้างรายได้ให้เกษตรกรครบวงจร

นางอังคณา พุทธศรี ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 7 ชัยนาท (สศท.7) สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (...