“ช่อ พรรณิการ์” พา “โฟล์ค ณฐชนน” หาเสียงเลือกตั้งตลาดเช้าขอคะแนนโค้งสุดท้าย ด้าน “พิธา" มั่นใจ พรรคประชาชนสู้ศึกเลือกตั้งซ่อมพิษณุโลก ไม่กังวลคู่แข่งชูเลือกคนไปเป็นรัฐบาล มองการเมืองเป็นเกมยาว
วันที่ 14 กันยายน 2567 เมื่อเวลา 06.00 น ผู้สื่อข่าวจังหวัดพิษณุโลกลงพื้นที่ติดตามการหาเสียงของผู้สมัครสมาชิกผู้แทนราษฎร พิษณุโลก เขต 1 แทนตำแหน่งที่ว่าง พรรคประชาชน ที่ตลาดร้อยปีบึงพระ ตำบลบึงพระ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก นำทีมโดย น.ส.พรรณิการ์ วานิช คณะกรรมการคณะก้าวหน้า ผู้ช่วยผู้สมัครหาเสียง นายณฐชนน ชนะบูรณาศักดิ์ โฟล์ค ผู้สมัคร ส.ส. พิษณุโลก เขต 1 พรรคประชาชน
โดยบรรยากาศเดินหาเสียงเป็นไปอย่างเรียบง่าย เน้นการพูดคุยแจกบัตรแนะนำตัว และการพูดคุยนโยบายของพรรคที่จะแก้ไขปัญหาเรื่องขยะ ที่ตอนนี้ประชาชนชาวพิษณุโลกได้รับความเดือดร้อน ซึ่งประชาชนชาวบึงพระ ที่ออกมาซื้อของยามเช้าให้การต้อนรับ น.ส.พรรณิการ์ ผู้ช่วยผู้สมัครหาเสียง และนายณฐชนน เป็นอย่างดี และได้มีการพูดถึงบรรยากาศปราศรัยใหญ่เมื่อคืนที่ผ่านมาที่มีแฟนคลับออกไปต้อนรับ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีต ประธานที่ปรึกษาพรรคกาวไกล และแกนนำอีกหลายคนว่าปราศรัยได้สนุก และให้ประชาชนหลายคนตาสว่างกับการทำงานของรัฐบาล
...
ขณะที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล เผย มั่นใจเต็มที่สำหรับการเลือกตั้งซ่อม พิษณุโลก เขต 1 ในวันพรุ่งนี้ (15 ก.ย.) ที่พรรคประชาชนส่งนายณฐชนน ชนะบูรณาศักดิ์ ลงท้าชิงกับนายจเด็ศ จันทรา จากพรรคเพื่อไทย มองทุกการเลือกตั้งมีความยากง่ายแตกต่างกัน ชื่นชมการวางแผนของทีมหาเสียงในพื้นที่ ส่วนตนเองแค่ทำหน้าที่เป็นแค่โค้ชมากกว่า
สำหรับเวทีปราศรัยที่ได้รับเสียงตอบรับอย่างดี นายพิธา บอกว่า ตั้งแต่การปราศรัยหาเสียงเลือกตั้งใหญ่, ปราศรัยก่อนส่ง “หมออ๋อง” นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ท้าชิงประธานสภา มาจนถึงล่าสุดเมื่อวานนี้ (13 ก.ย.) ทำให้รู้สึกหายเหนื่อย แม้จะเดินทางมาจากต่างประเทศ
นายพิธา มองว่า การเลือกตั้งซ่อมที่ไม่เปิดให้มีการลงคะแนนล่วงหน้านอกเขต ทำให้แต่ละจังหวัดคะแนนหายไปหลักแสน แต่ทางพรรคประชาชน นำโดย นายพริษฐ์ วัชรสินธุ เตรียมนำเสนอให้อำนวยความสะดวกให้กับประชาชนทุกพื้นที่ในการเลือกตั้งซ่อม เลือกตั้งท้องถิ่น ซึ่งต่างจากการเลือกตั้งใหญ่ทั้งประเทศ
ส่วนกรณีที่คู่แข่งชูการเลือกคนไปเป็นรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน นายพิธา เชื่อว่าคนพิษณุโลกเข้าใจว่า เป็นการเข้าไปทำงานเป็นปากเสียงให้ประชาชน และทำงานอย่างตรงไปตรงมา ไม่ใช่แค่การตีกรอบเป็นฝ่ายค้านหรือรัฐบาล เพื่อให้ตนเองได้เปรียบ
นายพิธา ปฏิเสธว่า การเลือกตั้งซ่อม พิษณุโลก เขต 1 สามารถวัดกระแสพรรคประชาชนได้ เพราะประชาชนในพื้นที่มีความต้องการที่แตกต่างกัน และการเมืองเป็นเกมยาว ตลอด 6-7 ปีที่ผ่านมา ก็ผ่านการเลือกตั้งมานับพันเขตหลายสนาม จึงไม่สามารถนำผลมากำหนดอนาคตได้ และไม่ใช่จุดหมายปลายทาง แต่ยืนยันว่าทำเต็มที่
