จากเหยื่อโปลิโอ สู่มหาเศรษฐี 'Lee Thiam Wah' ปั้น IPO มาเลเซียหมื่นล้าน

เชนมินิมาร์ท "99 Speedmart" นับเป็นร้านดังที่ตั้งอยู่แทบทุกหัวมุมถนนในประเทศมาเลเซีย ปัจจุบันขยายสาขาไปแล้วกว่า 2,600 แห่งทั่วประเทศ แต่ที่น่าสนใจก็คือ เจ้าของร้านแห่งนี้มีชื่อว่า "หลี่เหลียงหัว" (Lee Thiam Wah) เป็นผู้พิการเดินไม่ได้เพราะติดโรค "โปลิโอ" ตั้งแต่อายุไม่ถึงขวบ แต่กลับสามารถปั้นแผงลอยร้านของชำข้างถนน ไปสู่ธุรกิจมินิมาร์ททั่วมาเลเซียได้สำเร็จ 

ล่าสุด "99 Speedmart" สามารถระดมทุนไปได้ถึง 531 ล้านดอลลาร์ (ราว 1.8 หมื่นล้านบาท) จากการเปิดขายหุ้นต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรก (IPO) ในตลาดหุ้นมาเลเซีย และนับเป็นไอพีโอครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 7 ปีของประเทศ ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นว่าความพิการไม่ใช่ข้อจำกัดของความสำเร็จ

- ร้าน 99 Speedmart (เครดิต: theedgemalaysia) -

วัยเด็กที่พิการเพราะ 'โปลิโอ'

หลี่เกิดในปี 1964 ที่เมืองกลัง รัฐสลังงอร์ มาเลเซีย ในครอบครัวที่ยากจนโดยมีพ่อเป็นคนงานก่อสร้างและแม่เป็นแม่ค้าหาบเร่ แต่การที่ครอบครัวมีพี่น้องถึง 10 คน ทำให้สามารถส่งหลี่เรียนหนังสือได้เพียง 6 ปีเท่านั้น 

ที่ซ้ำร้ายกว่าความจนก็คือ เขาสูญเสียการใช้ขาทั้งสองข้างหลังจากป่วยเป็นโรค "โปลิโอ" ตั้งแต่อายุแค่ 8 เดือน และเนื่องจากไม่สามารถหางานทำได้ จึงหันมาตั้งแผงขายขนมริมทาง

“ไม่มีใครจะรับผมเข้าทำงาน เพราะข้อจำกัดทางร่างกายของผม” หลี่กล่าวกับนิตยสารฟอร์บส์ในปี 2012 “ผมต้องช่วยเหลือตัวเอง”

จากร้านของชำ สู่มินิมาร์ท 2,600 สาขา

ในที่สุด หลี่ก็เก็บเงินได้เพียงพอที่จะเปิดร้านขายของชำได้เป็นครั้งแรกในปี 1987 ขณะอายุ 23 ปีในชื่อว่า Pasar Raya Hiap Hoe ซึ่งเป็นร้านขายของชำขนาดเล็กทั่วไปตั้งอยู่ในย่าน Tepi Sungai ของเมืองกลัง

หลายปีต่อมาในปี 1992  เขาขายร้านและใช้เงินทุนนี้ในการเปิดมินิมาร์ทแห่งแรกของตัวเองที่ชื่อว่า Pasar Mini 99 และต่อมาธุรกิจนี้ได้เติบโตขยายไป 8 สาขาในเมืองกลัง

ระหว่างปี 2000 - 2003 ร้านค้าผ่านการเปลี่ยนแบรนด์อีกครั้งเป็นชื่อ “99 Speedmart” เมื่อหลี่นำกลยุทธ์การขยายธุรกิจเชิงรุกมาใช้ และตั้งแต่นั้นมาเขาได้ขยายอาณาจักรธุรกิจของเขาจนกลายเป็นเชนมินิมาร์ทที่ใหญ่ที่สุดของประเทศที่มีร้านค้าเกือบ 2,600 แห่ง

หลี่เปิดเผยว่าเขาเลือกเลข 99 เพราะแสดงถึงลักษณะของความไม่สมบูรณ์แบบในโลกนี้ โดยเขาอธิบายว่า “เราเลือกเลข 99 เพราะหมายถึง แม้ว่าเราจะไม่สมบูรณ์แบบ แต่เราก็ยังคงมุ่งมั่นที่จะนำเสนอบริการและผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดที่เรามีให้กับลูกค้าในราคาที่แข่งขันได้”

IPO ใหญ่สุดในรอบ 7 ปี

ปัจจุบันหลี่ในวัย 60 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของบริษัท "99 Speed Mart Retail Holdings" ได้พาบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์มาเลเซียในสัปดาห์นี้ หลังออกไอพีโอระดมทุนได้ 2,360 ล้านริงกิต (ราว 1.8 หมื่นล้านบาท) ซึ่งนับเป็นการขายหุ้นไอพีโอได้มากที่สุดในรอบ 7 ปีของมาเลเซีย ส่งผลให้หลี่ขึ้นแท่นเป็นมหาเศรษฐีที่มีสินทรัพย์ถึง 3.3 พันล้านดอลลาร์ จากการจัดอันดับของดัชนี Bloomberg Billionaires

- Lee Thiam Wah (เครดิต: 99 Speed Mart Retail Holdings Bhd) -

การเข้าตลาดหุ้นครั้งนี้ยังตอกย้ำตลาดกัวลาลัมเปอร์ในฐานะแชมป์ที่มีการออก IPO มากที่สุดในกลุ่มประเทศอาเซียนในปี 2567 สะท้อนความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อศักยภาพการเติบโตของประเทศ และเป็นตัวชี้วัดทางหนึ่งถึงเซกเตอร์ผู้บริโภคในเศรษฐกิจมาเลเซียที่คาดว่าจะขยายตัวได้ 5% ในปีนี้

ปัจจุบันตลาดหุ้นมาเลเซียกำลังอยู่ในทิศทางที่สดใส โดยดัชนีหุ้น FTSE Bursa Malaysia KLCI กำลังมุ่งหน้าสู่ปีที่ดีที่สุดนับตั้งแต่ปี 2010 และการเข้าจดทะเบียนออกหุ้นไอพีโอก็กำลังเริ่มกลับมาหลังจากที่ซบเซาไปหลายปี 

การเข้าตลาดหุ้นของ "99 Speed Mart" สามารถดึงดูดนักลงทุนหลักโดยเฉพาะเจาะจงได้มากถึง 14 ราย ซึ่งรวมถึงนักลงทุนสถาบันรายใหญ่อย่าง abrdn Asia Ltd. การซื้อขายวันแรกเมื่อวันจันทร์ที่ 9 ก.ย. เป็นไปอย่างสดใส ราคาหุ้นพุ่งขึ้นถึง 14% หลังเปิดตลาด และปิดที่ราคา 1.88 ริงกิต หรือสูงกว่าราคาไอพีโอซึ่งอยู่ที่ 1.65 ริงกิต

ปัจจุบัน เชนร้านค้านี้เป็นเชนใหญ่ที่สุดในมาเลเซีย โดยครองส่วนแบ่งตลาด 40% ในกลุ่มตลาดมินิมาร์ท และเกือบ 12% ในบรรดาผู้ค้าปลีกสินค้าของชำทั้งหมด ตามที่ระบุไว้ในหนังสือชี้ชวนเสนอขายหุ้น IPO

นอกจากร้าน 99 Speed Mart ซึ่งเขาเป็นเจ้าของเพียงรายเดียวกับภรรยา "อึ้ง หลี่ เตียง" (Ng Lee Tieng) ภรรยาของเขา ลียังเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นรายบุคคลที่ใหญ่ที่สุดในสถาบันการเงิน Alliance Bank Malaysia Bhd. และถือหุ้นในผู้ได้รับสิทธิ์แฟรนไชส์รายเดียวของ Burger King ร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดอเมริกันในมาเลเซีย

ด้วยเงินทุนที่ระดมผ่าน IPO บริษัทมีเป้าหมายที่จะเพิ่มจำนวนร้านค้าในอีก 3 ปีข้างหน้าเป็นประมาณ 3,000 ร้านค้าจาก 2,526 ร้านค้า ณ วันที่ 31 ธันวาคมปีที่แล้ว ตามที่ระบุไว้ในหนังสือชี้ชวน

“เส้นทางของลีเป็นตัวอย่างที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับเจ้าของธุรกิจขนาดเล็ก แสดงให้เห็นว่าด้วยความมุ่งมั่น ความเพียรพยายาม และแนวทางที่เน้นลูกค้า จนสามารถสร้างความเป็นไปได้ในการขยายธุรกิจ แม้จะเริ่มต้นจากจุดที่ต่ำต้อยก็ตาม” โมหิต เมียร์ปูรี (Mohit Mirpuri) ผู้จัดการกองทุนเอสจีเอ็มซี แคปิตัลในสิงคโปร์กล่าว


อ้างอิง: bloomberg, scmp, freemalay

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

‘ไทย’ ร่วงลงสองอันดับ! ใน IMD World Talent Ranking ปี 2024 ส่วนสิงคโปร์นำโด่ง

จากการจัดอันดับ “ประเทศที่มีความเป็นเลิศในด้านบุคลากรผู้มีความสามารถประจำปี 2024” (The 2024 IMD Worl...

Apple วางขาย iPhone 16 พร้อมนวัตกรรมความยั่งยืน ใช้อะลูมิเนียมรีไซเคิล 85%

Apple ได้สร้างมาตรฐานใหม่ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีอีกครั้ง ด้วยการวางขาย iPhone 16 ที่เน้นความยั่งยืน โด...

ผล 1 ปีกับความคืบหน้า ESG Symposium ส่งไทยสู่สังคมคาร์บอนต่ำ สู้โลกเดือด

เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน เห็นผลเป็นรูปธรรม ตาม 4 ข้อเสนอจากงาน ESG Symposium 2023 ทั้งสร้าง "สระบุรี...

‘ลาซาด้า’ เดินเกมทำกำไร ชู '3 กลยุทธ์' สร้างยุคใหม่อีคอมเมิร์ซ

วาริสฐา เกียรติภิญโญชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ลาซาด้า ประเทศไทย กล่าวว่า ลาซาด้ายังเดินหน้าลงทุนใน...