‘กษัตริย์มาเลเซีย’ เยือนจีน หวังทุนสร้างรถไฟความเร็วสูง ‘กัวลาลัมเปอร์-สิงคโปร์’

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า  กษัตริย์แห่งมาเลเซีย สมเด็จพระราชาธิบดี สุลต่าน อิบราฮิม สุลต่าน อิสกันดาร์  เสด็จเยือน “จีน” กำลังพิจารณาแผนการระดมทุนจากนักลงทุนจีน เพื่อสนับสนุนโครงการรถไฟความเร็วสูงที่โครงการจะเชื่อมต่อระหว่างประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กับสิงคโปร์ที่มูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ 

ตามรายงานของแหล่งข่าวเปิดเผยข้อมูลลับว่ากษัตริย์แห่งมาเลเซียกำลังมองหาโอกาสการลงทุนจากบริษัทของรัฐบาลจีน ในขณะเดียวกัน ประธานาธิบดี “สี จิ้นผิง” ผู้นำจีนและผู้ริเริ่มโครงการ "หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง" ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการกระตุ้นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทั่วภูมิภาคเอเชียและแอฟริกา ได้เชิญกษัตริย์มาเลเซียเสด็จเยือนจีนอย่างเป็นทางการเป็นระยะเวลา 4 วัน 

กษัตริย์แห่งมาเลเซียเยือนจีนครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่อกระชับความสัมพันธ์เชิงยุทธศาสตร์ระหว่าง 2 ประเทศ ซึ่งได้เริ่มขึ้นแล้วตั้งแต่วันที่ 19 ก.ย.ที่ผ่านมา  ซึ่งอาจเป็นโอกาสสำคัญในการหารือเกี่ยวกับความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการลงทุนระหว่างมาเลเซียและจีน

รื้อโครงการ ‘รถไฟความเร็วสูง’

กษัตริย์แห่งมาเลเซียให้ความสนับสนุนโครงการรถไฟมาเป็นเวลานาน โดยโครงการนี้ได้รับการฟื้นฟูอีกครั้งเมื่อปีที่แล้วภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี อันวาร์ อิบราฮิม แต่มีเงื่อนไขสำคัญว่าโครงการจะต้องไม่ใช้เงินภาษีของประชาชน 

ในการสัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์สเตรตส์ไทมส์ของสิงคโปร์เมื่อเดือนธ.ค. สุลต่าน อิบราฮิมได้เสนอแนวทางว่า ภาคเอกชนสามารถเป็นผู้ลงทุนและดำเนินโครงการในระยะเวลา 30 ปี เพื่อให้สามารถคืนทุนได้ หลังจากนั้นจึงส่งมอบโครงการคืนให้แก่รัฐบาลมาเลเซีย 

โครงการรถไฟความเร็วสูงของมาเลเซียได้รับความสนใจอย่างมากจากภาคเอกชน โดย MyHSR Corporation หน่วยงานของรัฐบาลมาเลเซียที่กำกับดูแลโครงการ เปิดเผยเมื่อเดือนมกราคมว่ามีบริษัททั้งในและต่างประเทศรวม 7 กลุ่ม ประกอบด้วยบริษัท 31 แห่ง ได้ยื่นข้อเสนอเข้าร่วมโครงการ

หนังสือพิมพ์ Edge Malaysia รายงานในเดือนมีนาคมว่า การคัดเลือกนักลงทุนได้ดำเนินไปอย่างรวดเร็ว และเหลือผู้เข้ารอบสุดท้ายเพียง 3 ราย ได้แก่ บริษัทก่อสร้าง YTL, บริษัท Berjaya Land Bhd. ของนายวินเซนต์ แทน นักธุรกิจชื่อดัง และกลุ่มบริษัทจีนนำโดย China Railway Construction Corp. ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจของจีน

แอนโธนี โลเก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ยืนยันว่ามีผู้ผ่านการคัดเลือกเข้ารอบสุดท้ายจำนวน 3 รายและระบุว่า รัฐบาลกำหนดให้กลุ่มบริษัทที่จะเป็นผู้นำในการดำเนินโครงการจะต้องมีชาวมาเลเซียถือหุ้นอย่างน้อย 51%

สุลต่านอิบราฮิม เคยให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ Straits Times เกี่ยวกับโครงการรถไฟความเร็วสูง โดยเสนอแนะให้ปรับเส้นทางการข้ามพรมแดนให้ผ่าน Forest City ซึ่งเป็นโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ในรัฐยะโฮร์ โครงการ Forest City นี้เป็นการร่วมทุนระหว่างบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์สัญชาติจีน Country Garden Holdings ซึ่งกำลังประสบปัญหาทางการเงิน

โครงการรถไฟความเร็วสูงนี้มีเป้าหมายที่จะลดระยะเวลาการเดินทางระหว่าง 2 เมืองสำคัญจากปัจจุบันที่ใช้เวลามากกว่า 4 ชั่วโมงด้วยรถยนต์ ให้เหลือเพียง 90 นาที อย่างไรก็ตามโครงการนี้มีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก โดยคาดการณ์ว่าจะมีมูลค่าถึง 100,000 ล้านริงกิต (ประมาณ  7.8 แสนล้านบาท) ซึ่งเป็นโครงการที่ได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากรัฐบาล

อย่างไรก็ดี โครงการรถไฟความเร็วสูงระหว่างมาเลเซียและสิงคโปร์จำเป็นต้องได้รับความเห็นชอบจากทั้ง 2 ประเทศเพื่อให้สามารถดำเนินการต่อไปได้ ในส่วนของสิงคโปร์ นายกรัฐมนตรี “ลอว์เรนซ์ หว่อง” ได้แสดงท่าทีต่อโครงการนี้ โดยในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา  หว่องได้กล่าวว่ามีความยินดีที่จะรับฟังข้อเสนอใหม่ๆ เกี่ยวกับเส้นทางรถไฟดังกล่าว

อ้างอิง Bloomberg 

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

จับตา 48 ชั่วโมงอันตราย หลังระเบิดเลบานอน l World in Brief

รมต.เลบานอนเตือนระวังสถานการณ์บานปลายรุนแรง จากเหตุเพจเจอร์และวิทยุสื่อสารที่กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบา...

‘อาเซียน’ หันใช้คิวอาร์โค้ดพุ่ง ดันภูมิภาคสู่ ‘สังคมไร้เงินสด’

นิกเคอิเอเชียรายงานว่า การชำระเงินด้วยคิวอาร์โค้ดเริ่มเป็นที่แพร่หลายในตลาดเกิดใหม่เมื่อหลายปีก่อน เ...

เปิดประสบการณ์เยือน ‘กัมพูชา’ ครั้งแรกของนักการทูตแรกเข้า

“กัมพูชา” ประเทศเพื่อนบ้านที่มีชายแดนติดกับไทย ซึ่งคนไทยสามารถเดินทางไปท่องเที่ยวได้อย่างง่ายดายทั้ง...

“สถานการณ์ตอนนี้ไม่ง่ายเลย” ข้อความแรกของซีอีโอใหม่ Nike ถึงพนักงาน

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานวันนี้ (20 ก.ย.) ว่า เอลเลียต ฮิลล์ ผู้บริหารคนใหม่ของ Nike Inc., กล่าวต่อ...