นายกฯ สั่งทบทวน คกก.-คำสั่ง คสช. หากไม่จำเป็นยกเลิกให้หมด สลายกฎระเบียบหยุมหยิม

“นายกฯ เศรษฐา” สั่งทบทวน คกก.-คำสั่ง คสช. หากไม่จำเป็นยกเลิกให้หมด สลายกฎระเบียบหยุมหยิม ลั่น ต่อไปนี้ประชาชนคิดสร้างสรรค์จะทำอะไร ถ้าไม่มีกฎหมายห้าม ให้ถือว่าทำได้ทุกอย่าง

วันที่ 13 กันยายน 2566 น.สพ.ชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงข่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดแรก เรื่องที่สำคัญ จะมีการเปลี่ยนบทบาทภาครัฐ จากที่เป็น Regulator ผู้ดูแลกำกับ เป็นคุณพ่อรู้ดี ออกกฎ ออกระเบียบ ซึ่งทำให้การดำเนินชีวิต การทำมาหากินของผู้คน การดำเนินธุรกิจเจออุปสรรคซ้ำซ้อน เป็นอุปสรรคต่อการทำมาหากิน เรื่องนี้ นายกรัฐมนตรีสั่งการในที่ประชุม ครม. ว่า ข้อที่ 1 ให้ทุกกระทรวงไปดูว่า ที่ผ่านมามีมติ ครม. อะไรบ้าง ที่มีการประกาศตั้งคณะกรรมการ ซึ่งสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรีแจ้งว่ามี 178 ชุด โดย นายเศรษฐา สั่งการว่าภายในวันที่ 25 กันยายนนี้ คณะกรรมการไหนที่ยังคุ้มค่าอยู่ ควรจะมีต่อไปให้เสนอมาพร้อมเหตุผลว่าทำไมต้องมีอยู่ ถ้าไม่มีข้อเสนอหรือเหตุผลที่ดีให้ยกเลิกทั้งหมด 

น.สพ.ชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

...

“ข้อที่ 2 ให้กระทรวง ทบวง กรม ที่ในอดีตได้รับคำสั่ง คสช. (คณะรักษาความสงบแห่งชาติ) หรืออำนาจ คสช. แล้วยังต้องปฏิบัติตามนั้น ให้ไปทบทวนทั้งหมด ว่าบรรดาคำสั่ง คสช. หรือหัวหน้า คสช. ทั้งหลายทั้งปวง ยังมีอะไรที่มันจำเป็นต้องคงไว้ไหม และต้องเสนอกลับมาภายในวันที่ 9 ตุลาคม ถ้าไม่เสนอมา ถือเป็นอันยกเลิกทั้งหมด” 

โฆษกรัฐบาล ระบุต่อไป ถามว่าทำไมต้องมีคำสั่ง 2 ข้อนี้ โดยยกคำกล่าวของ ดร.ศุภวุฒิ สายเชื้อ นักเศรษฐศาสตร์มือเซียนของไทย ว่า ทุกวันนี้ที่ GDP ประเทศไทยเป็นอย่างนี้ ถ้าไม่มีกฎระเบียบที่ไปกดทับไว้ การทำมาหากิน การทำธุรกิจจะสะดวกกว่านี้ GDP จะเด้งทันที 10-15% ขอเพียงอย่ามีกฎระเบียบหยุมหยิมเยอะเกินไป ซึ่งรัฐบาลตระหนัก และเรื่องนี้แทบไม่ต้องลงทุนอะไร เพียงแค่อย่าไปทำร้ายตัวเองด้วยการสร้างกฎระเบียบที่เกินความจำเป็น ดังนั้น สิ่งนี้จะเป็นคุณูปการ และเป็นมาตรการเชิงรุกทางเศรษฐกิจ ไม่ต้องใช้เงิน แต่จะมีผลอย่างมีนัยสำคัญ 

“นายกฯ ใช้คำพูดว่า ต่อไปนี้ประชาชนคิดจะทำอะไร มีความคิดสร้างสรรค์จะทำอะไร ถ้าไม่มีกฎหมายเขียนไว้ว่าห้ามทำ ให้ถือว่าทำได้ทุกอย่าง” 

ทั้งนี้ เราเปลี่ยนยุคแล้ว ซึ่งก่อนนี้หน้ามักจะมีการตีความว่าใครที่อยากริเริ่มอะไรมักจะเจออุปสรรคว่ากฎหมายไม่ได้อนุญาตไว้ กลายเป็นทำนองว่าจะทำอะไรใหม่ๆ ได้ ต้องให้มีกฎหมายอนุญาต แต่รัฐบาลที่นำโดย นายเศรษฐา เราเปลี่ยนใหม่ ประชาชนริเริ่มทำได้ทุกอย่าง ตราบใดที่ไม่มีกฎหมายห้าม ต้องถือว่าทำได้.

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

‘อีลอน มัสก์’ หนุน ‘ทรัมป์’ พนักงานบริจาคให้‘แฮร์ริส’

ข้อมูลจากโอเพนซีเคร็ตส์ องค์กรไม่หวังผลกำไรไม่แบ่งฝักฝ่าย ผู้ติดตามข้อมูลการบริจาคเงินหาเสียงและการล...

สหภาพแรงงาน Teamsters ไม่หนุน'ทรัมป์-แฮร์ริส'

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า สหภาพแรงงานทีมสเตอร์สมีสมาชิกกว่า 1.3 ล้านคน เป็นตัวแทนของกลุ่มคนขับรถบร...

ครึ่งแรกปี67จีนครองแชมป์ซื้อคอนโดเมียนมาซิวเบอร์สองแซงรัสเซีย2ปีซ้อน

วิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เป...

อสังหาฯ แบกสต็อกอ่วม 1.57 ล้านล้าน เอ็นพีแอลพุ่ง ‘ทุกตลาดติดลบหนัก’

นายกสมาคมอาหารชุด หวังเร่งแก้นอมินีต่างชาติในตลาดบ้านมูลค่า 1 ล้านล้านบาท จัดเก็บภาษี หวังแบงก์ชาติล...