นายกฯ แพทองธาร ยันพร้อมทำงานแข่งกับเวลา เตรียมสรุปผลงาน 3 เดือนให้ประชาชนรับรู้ นัด รมต.คุยงานทุกสัปดาห์ ส่วนนโยบายยังเหมือนเดิม โอดลูกยังเล็ก ยังไม่อยากมีคดีแต่จะรับมือให้ดีที่สุด ลั่นของดตอบเรื่องพ่อทักษิณแล้ว ชี้อายุเท่าไหร่ก็มีวิสัยทัศน์ ย้ำกระตุ้นเศรษฐกิจทำทันที แจงในฐานะนายกฯ พร้อมพาไทยไปต่อ ทวงคืนพื้นที่ในเวทีโลก จะพยายามอยู่ให้ครบเทอม
วันที่ 7 กันยายน 2567 เมื่อเวลา 11.57 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ตอบคำถามสื่อมวลชนภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษเสร็จสิ้น เมื่อถามว่านายกฯ มีเวลา 3 ปี จะมีการประเมินการทำงานของ ครม. ทั้งหมดที่ตั้งขึ้นมา และตัวนายกฯ เองเมื่อไหร่ นายกฯ กล่าวว่า การวัดการประเมินต้องดูกันตลอด เพราะอย่างที่บอกไว้ว่าเราจะทำงานแข่งกับเวลา แต่ในส่วนของนโยบายต่างๆ หรือกระทรวงต่างๆ ต้องขึ้นอยู่กับว่านโยบายนั้นคือนโยบายอะไร ในใจคิดว่าจะต้องสรุปให้ประชาชนฟังใน 3 เดือนแรกอย่างแน่นอน แต่ตัวของดิฉันเองในการประชุม ครม. นัดพิเศษ ได้ขออนุญาตนัดรัฐมนตรีมาพูดคุยกันทุกสัปดาห์แต่จะสลับกระทรวงกันไป ซึ่งได้ให้เวลาเรียบร้อยแล้วว่าสะดวกช่วงไหน เพื่อให้การทำงานเป็นไปอย่างใกล้ชิด ไม่อยากให้พอมอบหมายอะไรไปแล้วไม่สามารถตามงานได้ว่าอยู่ตรงไหน จริงๆ ทุกคนมีความตั้งใจที่จะทำตามนโยบายอยู่แล้ว แต่สิ่งนี้คิดว่าน่าจะเป็นส่วนช่วยในการกระตุ้นให้เกิดผลงานได้เร็วขึ้น
เมื่อถามว่านโยบายที่จะแถลงต่อรัฐสภามีอะไรแตกต่างไปจากรัฐบาลของนายเศรษฐา ทวีสิน หรือไม่ และนายกฯ มีการรับมือกับนิติสงครามหรือมีทีมกฎหมายที่มั่นใจในเรื่องนี้อย่างไรเพื่อให้การทำงานของรัฐบาลครบวัตถุประสงค์และอยู่ครบ 3 ปี นายกฯ กล่าวว่า ทุกๆ ท่านมีความตั้งใจอยู่แล้ว ส่วนเรื่องของกฎหมายมีทีมกฎหมายแน่นอน ซึ่งใน ครม. มีทั้งรัฐมนตรีใหม่และเก่าและมีการปรึกษาซึ่งกันและกัน ที่ต้องช่วยกันตีความหมายในบางเรื่อง เพราะบางเรื่องไม่สามารถตอบได้ว่าขาวหรือดำ ซึ่งตนเองตั้งใจจะดูทุกอย่างและปรึกษาทุกหน่วยงานให้รอบคอบรัดกุม เพราะเราเองก็อยากทำงานให้ครบ 3 ปีเพื่อให้เกิดความต่อเนื่องของการทำงาน เมื่อได้เปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรีและ ครม. ก็อยากจะตอกย้ำว่าตั้งแต่ยุคนายกฯ เศรษฐา ที่เป็นนายกฯจากพรรคเพื่อไทยเช่นกัน เพราะฉะนั้นนโยบายที่เคยปรึกษาพรรคร่วมรัฐบาลมาแล้วก็ค่อนข้างที่จะคล้ายเดิม ส่วนนโยบายครั้งนี้ก็ได้ปรึกษาพรรคร่วมรัฐบาลเช่นกันก็เป็นนโยบายที่ต่อเนื่องจากนายกฯ เศรษฐา และเป็นความเห็นของรัฐมนตรีทุกคนว่าจะมีการปรับแก้ในส่วนไหนบ้าง เพราะจะทำให้เราดำเนินนโยบายได้อย่างเต็มที่ด้วย ซึ่งนโยบายที่รวบรวมไว้ในเล่มก็เป็นนโยบายตั้งแต่ใช้ในการหาเสียงและได้ตกลงกับพรรคร่วมรัฐบาล
“ถึงตรงนี้แอบแง้มได้เลยว่าค่อนข้างนโยบายเหมือนเดิม มีการปรับแก้ให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบันและมั่นใจว่าจะสามารถทำนโยบายได้สำเร็จค่ะ”
...
เมื่อถามว่านายกฯ ไม่ได้กังวลกับคิวกฐินที่รอมากมายใช่หรือไม่ นายกฯ ได้ย้อนถามว่าคิวกฐินเลยหรอคะ อันนี้คือคำเปรียบเทียบใช่ไหมคะ เมื่อถามย้ำว่าหมายถึงนักร้องเตรียมที่จะร้องในคดีที่ตามมา นายกฯ ได้ยิ้มและหันไปมองที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมกล่าวว่า “แค่สื่อมวลชนถามสงสารเราแล้วนะ ก็ที่ผ่านมาตั้งแต่เกิดมาก็ไม่เคยมีคดี พอมาถึงจุดนี้มีคดีก็จะพยายามรับมือให้ได้ดีที่สุด แต่จริงๆ ไม่อยากมีคดีเพราะว่าลูกยังเล็กอยู่เลย”
เมื่อถามว่า การก้าวขึ้นมาเป็นนายกฯ ก็ปฏิเสธไม่ได้ความเป็นนามสกุลชินวัตรที่เป็นพ่อลูกกันกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำให้มีคนมองว่านายทักษิณกลับมาอีกแล้ว และมีการปรามาสว่ายังไงนายกฯ ก็หนีไม่พ้นเงาทักษิณ จะให้ความมั่นใจหรือความเชื่อมั่นหรือลบคำปรามาสนี้อย่างไร นายกฯ กล่าวว่า จะไม่ขอตอบเรื่องนายทักษิณแล้ว เพราะว่าเราต้องเดินไปข้างหน้า วิสัยทัศน์ที่ดีไม่ว่าจะมาจากใครก็ตาม หรืออายุเท่าไหร่ก็ตาม วิสัยทัศน์ที่ดีคือสิ่งที่ดี จึงขอตอบแค่นี้แล้วกัน
เมื่อถามว่า ดิจิทัลวอลเล็ต ในเดือนกันยายนนี้สามารถเห็นได้ทันทีหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ในเรื่องของไทม์ไลน์จะต้องขอให้นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังจะเป็นคนพูดในรายละเอียด แต่แน่นอนว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจเกิดขึ้นทันที เพราะเป็นข้อแรกที่เราได้เน้นย้ำและจะต้องผลักดันต่อไป
ขณะที่ผู้สื่อข่าวต่างประเทศได้ถามว่า ตอนนี้ทั่วโลกกำลังมองมาที่ไทย และหลายประเทศกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การเมือง จะบอกทั่วโลกอย่างไร เกี่ยวกับสถานการณ์ในอนาคตและจะทำให้มั่นใจเรื่องเสถียรภาพอย่างไร นายกฯ กล่าวว่า “นี่เป็นช่วงเวลาของไทยที่จะทวงคืนพื้นที่จากทั่วโลก สำหรับมุมมองของดิฉัน เรามีข้อเสนอหลายอย่างเกี่ยวกับเวลาการครองตำแหน่งที่เรามีอยู่ และดิฉันก็พร้อมจะทำให้มันเกิดขึ้น วันนี้ในฐานะนายกรัฐมนตรี ดิฉันพร้อมที่จะเดินต่อไปข้างหน้า และพร้อมจะนำประเทศให้เป็นที่รับรู้ในเวทีโลก และแน่นอนว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เป็นเรื่องที่น่าเสียดายที่เกิดขึ้นกับนายเศรษฐา ทวีสิน เราเข้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น เราพยายามจะทำให้ดีที่สุดเพื่อให้อยู่ครบเทอม เพื่อส่งต่อนโยบายของเราไปสู่ประชาชน”