“รอมฎอน ปันจอร์” ประหลาดใจ นโยบายรัฐบาลไม่มีคำว่าจังหวัดชายแดนใต้ หรือจงใจปล่อยเรื่องแก้ไฟใต้อยู่ในมือทหารต่อ พร้อมถาม 7 ข้อ “เศรษฐา” จะยุบ กอ.รมน. ยกเลิกเจรจาสันติภาพ กฎอัยการศึก และ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ หรือไม่
เมื่อเวลา 20.29 น. วันที่ 12 ก.ย. 2566 ที่อาคารรัฐสภา ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่ 5 เป็นพิเศษ ที่มีการพิจารณาเรื่องด่วน คือ คณะรัฐมนตรีแถลงนโยบายต่อรัฐสภาฯ
นายรอมฎอน ปันจอร์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวอภิปราย ขอสะท้อนความรู้สึกประหลาดใจ เนื่องจากไม่มีคำว่าจังหวัดชายแดนภาคใต้ในคำแถลงนโยบายของรัฐบาลชุดนี้ แต่พบว่าสาระสำคัญไปซุกซ่อนอยู่แบบเบลอๆ บางๆ แต่เป็นการสนับสนุนให้มีความร่วมมือระหว่างรัฐกับประชาชน ที่มีความแตกต่างทางความคิด ศาสนา และอุดมการณ์ ให้สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติสุข เพื่อให้สันติภาพเป็นพื้นฐานของการพัฒนาประเทศต่อไป
ตนเองคิดว่าเราสามารถอ่านนโยบาย เศรษฐา ได้ 2 แบบ คือ ลดระดับความสำคัญของปัญหาชายแดนใต้ คือ การไม่แยแสคนในพื้นที่ ประเมิณสถานการณ์ต่ำเกินจริง ทั้งๆ ที่มี สส.ชายแดนใต้จากพรรคประชาชาติร่วมรัฐบาลอยู่ด้วย
ทำให้ นายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ สส.นราธิวาส พรรคประชาชาติ ลุกประท้วงต่อที่ประชุมว่า คำว่า ไม่แยแส ทำให้พรรคประชาชาติเสียหาย จึงขอให้ถอนคำพูด เพราะถือว่าเป็นการใส่ร้ายป้ายสี
นายรอมฎอน จึงขอถอนคำว่า พรรคประชาชาติ ออกไป จากนั้นได้อภิปรายต่อว่า นายเศราฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จงใจปล่อยมือการแก้ปัญหาชายแดนใต้ให้อยู่ในมือทหารต่อไป โดยไม่ตระหนักว่าตัวมันเองคือปัญหาที่กลายมาเป็นภัยคุกคามซะเอง
อีกทั้งคำแถลงของนายกฯ เป็นการยอมจำนนของรัฐบาลพลเรือน ที่ผ่านมามีนายกรัฐมนตรีมาทุกเฉดสี มีรัฐประหารมาแล้ว 2 รอบ ซึ่งถือว่าผ่านอะไรมามาก แต่กลับพบว่างบประมาณในการดับไฟใต้สูงถึง 5.1 แสนล้านบาท มีการสูญเสียผู้คนไปกว่า 7 หมื่นคน หรือนี่คือบทเรียนจากไฟใต้ในรัฐบาลสีแดง คือ อย่าแหยมกับกองทัพ
...
ตนเองจึงมีคำถาม 7 ข้อให้นายกฯ ตอบ คือ 19 กันยายนนี้จะหมดอายุการต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ แล้ว ครม.เศรษฐา จะต่ออายุหรือไม่ และจะยกเลิกกฎอัยการศึกหรือไม่ รวมถึงจะยุบ กอ.รมน.หรือไม่ อีกทั้งเรื่องงบดับไฟใต้ และเรื่องมรดก คสช. รัฐบาลจะเอาอย่างไร ขณะที่เรื่องการเจรจาสันติภาพจะทำอย่างไรต่อ จะยกเลิกหรือไม่ และจะฟื้นคืนความยุติธรรมให้คนที่เสียชีวิตและบาดเจ็บในปี 2547 หรือไม่อย่างไร.