"อิ๊งค์" กล่อมเสื้อแดง ก้าวเดินหน้าร่วมประชาธิปัตย์ผลัดใบ เติมเสถียรภาพให้รัฐบาล (คลิป)

“อิ๊งค์” เผยโผ ครม.ใกล้ลงตัว แจงประชาธิปัตย์ผลัดใบถึงยอมจับมือเสริมเสถียรภาพ วอนเสื้อแดงลืมอดีตก้าวไปข้างหน้าเพื่อลูกหลาน ชี้เขี่ย พปชร.มีหลายเหตุผล ไม่หวั่นปม “ทักษิณ” ครอบงำ ด้าน ปชป. รุดส่งชื่อ “เฉลิม-เดชอิศม์” ขึ้นตึกชินวัตรหลังมติร่วมรัฐบาลฉลุย เลือดใหม่ลั่นไม่มีส่วนร่วมขัดแย้งวอนเลิกยึดติดอดีต ขณะที่เลือดเก่ายังไหลออกไม่หยุด ลูกหาบเพื่อไทยตามเย้ย “ลุงป้อม” ไล่ไปกวาดบ้านตัวเองให้รู้จักเข้าคิว “เรืองไกร” ตามจิกใบลาออก 20 บริษัท หวังสอยนายกฯตกเก้าอี้ ป.ป.ช.ยันยังไม่มีโจทก์ร้องสอบหุ้นผู้นำ

หลังจากพรรคประชาธิปัตย์มีมติเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยอย่างเป็นทางการ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ออกมาเปิดเผยทันทีว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรีค่อนข้างลงตัวนิ่งแล้ว พร้อมชี้แจงการจับมือกับพรรคประชาธิปัตย์เพื่อเสถียรภาพ และประชาธิปัตย์เปลี่ยนไปจากอดีตแล้ว

"เฉลิมชัย" แถลงมติประชาธิปัตย์ ร่วมรัฐบาล

เมื่อเวลา 22.40 น. วันที่ 29 ส.ค. ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรค และนายเดชอิศม์ ขาวทอง เลขาธิการพรรค พร้อม สส.ของพรรคร่วมแถลง โดยนายเฉลิมชัยกล่าวว่า พรรค ปชป.ได้เรียกประชุมคณะกรรมการบริหาร (กก.บห.) พรรค ปชป.และการประชุมร่วมระหว่างคณะ กก.บห.และ สส. สืบเนื่องจากวันที่ 27 ส.ค. พรรคเพื่อไทย (พท.) แกนนำจัดตั้งรัฐบาลมีหนังสือเรียนเชิญขอให้เข้าร่วมรัฐบาลมา ตามข้อบังคับของพรรคข้อ 94 ต้องนำเข้าสู่การประชุม กก.บห.และประชุมร่วมกับ สส.พรรค จนมีมติที่ประชุมให้เข้าร่วมรัฐบาล 43 เสียงต่อ 4 เสียง งดออกเสียง 2 โดยเสนอชื่อตนเป็น รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายเดชอิศม์ ขาวทอง เลขาธิการพรรค เป็น รมช.สาธารณสุข

...

ชง 4 เงื่อนไขบรรจุลงนโยบาย

นายเฉลิมชัยกล่าวต่อว่า การเข้าร่วมรัฐบาลครั้งนี้ได้มีการพูดถึงการนำจุดยืนและนโยบายของพรรคบางเรื่อง คือ1.ยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข 2.เรื่องปัญหาการทุจริตคอร์รัปชัน 3.เรื่องการกระจายอำนาจและ 4.เรื่องที่ดินทำกินและราคาพืชผลทางการเกษตร ทั้งหมดจะต้องนำไปพูดคุยกับแกนนำพรรคเพื่อไทยและจะต้องนำไปบรรจุในนโยบายของรัฐบาล

“นริศ” ส่ง 2 ชื่อ รมต.

ต่อมาเวลา 11.40 น. วันที่ 30 ส.ค. ที่อาคารชินวัตร 3 นายนริศ ขำนุรักษ์ รองหัวหน้าพรรค ปชป.เดินทางเข้าไปส่งชื่อ 2 รัฐมนตรี ในโควตาพรรคปชป.ให้พรรค พท.โดยนายนริศกล่าวว่า หัวหน้าพรรคปชป.มอบหมายให้มายื่นหนังสือ ได้ประสานเลขาธิการพรรค พท.ไว้แล้ว พรรคได้รัฐมนตรี 2 เก้าอี้คือ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กับ รมช.สาธารณสุข มั่นใจคุณสมบัติของทั้ง 2 คน มีความถูกต้อง แต่อยู่ที่ฝ่ายอื่นตรวจสอบด้วยว่าจะเป็นอย่างไร เมื่อถามว่า การร่วมงานกับพรรค พท.เข้าคำโบราณไม่มีมิตรแท้และศัตรูที่ถาวรหรือไม่ นายนริศตอบว่า ไม่เป็นเช่นนั้น การร่วมรัฐบาลครั้งนี้จะช่วยผลักดันนโยบายพรรค รัฐบาลจะไปตลอดรอดฝั่งหรือไม่อยู่ที่การทำงานของรัฐบาล ถ้าทำงานให้ประชาชนพึงพอใจ โอกาสที่จะอยู่ครบวาระก็เป็นไปได้

รุ่นใหม่ ปชป.ไม่ขอยึดติดอดีต

น.ส.พลอยทะเล ลักษมีแสงจันทร์ รองโฆษก และ กก.บห.พรรค ปชป.กล่าวว่า การร่วมรัฐบาลของพรรค ปชป.จะได้มีโอกาสทำงาน และสานต่อนโยบายของพรรคตามที่ตั้งใจ จากความขัดแย้งในอดีตที่เคยเกิดขึ้น ทำให้ประชาชน และหลายฝ่ายไม่พอใจ ไม่เห็นด้วย และคิดว่าไม่เหมาะสม ในฐานะคนรุ่นใหม่ และเป็นสมาชิกพรรคที่เข้ามาทำหน้าที่บริหารพรรค อยากให้เรื่องนี้ผ่านไป หากเรายังยึดติดอยู่กับอดีตแล้วจะสามารถก้าวข้ามปัจจุบันไปถึงอนาคตได้อย่างไร และในขณะนั้นตนไม่ได้มีส่วนร่วมหรือมีวุฒิภาวะมากพอที่จะเข้าไปมีส่วนร่วม แต่จากเหตุการณ์ในครั้งนั้น ทำให้เห็นแล้วว่า การที่พรรคการเมืองใหญ่ทั้ง 2 พรรคมีความขัดแย้งกันนั้น บุคคลที่รับผลกระทบมากที่สุดคือประชาชน ไม่ว่าจะเป็นการบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว

เบื่อขัดแย้งจับมือเพื่อชาติ-ปชช.

น.ส.พลอยทะเลกล่าวว่า “ขณะนี้พรรค ปชป.มีคนรุ่นใหม่เข้ามามีส่วนร่วมทำงานและบริหารพรรค อยากให้พรรคมีแนวทางใหม่ๆหรือการเมืองสมัยใหม่ โดยการทำงานร่วมกันและพัฒนาไปพร้อมกันเพื่อให้ประเทศชาติ และประชาชนได้รับผลประโยชน์สูงสุด ไม่อยากให้มีการแบ่งแยกอย่างในอดีต การร่วมรัฐบาลไม่ใช่แค่ชื่อของพรรค ปชป.เท่านั้น แต่ชื่อของพรรค พท.ด้วยที่ทำให้ฝ่ายสนับสนุนของแต่ละฝ่ายไม่พอใจในการเข้ามาของพรรค ปชป. ครั้งนี้จะทำให้บรรยากาศทางการเมืองดีขึ้น ลดความขัดแย้ง และลดอคติในใจ”

“สรรเพชญ” โล่งจบพรรคอะไหล่

นายสรรเพชญ บุญญามณี สส.สงขลา พรรคปชป. กล่าวว่า ที่ประชุม ปชป.คุยกันฉันพี่น้องจนเป็นมติพรรคออกมาให้ร่วมรัฐบาล ทุกคนได้แสดงความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมา เชื่อว่าประชาชนจะเป็นคนตัดสินในอนาคต ทุกคนอยากเห็นพรรคไปข้างหน้าและมีเอกภาพ สุดท้ายก็จบและเป็นไปตามมติของพรรค จะชอบหรือไม่ชอบถือว่าเป็นมติที่ตัวแทนของประชาชนได้เลือกทางที่คิดว่าเหมาะสมที่จะเข้าร่วมรัฐบาล และเป็นไปตาม กก.บห.พรรค ยอมรับว่าดีใจที่เรื่องนี้จบได้เสียทีไม่ต้องคาราคาซังกัน จะได้ชัดเจน หมดคำว่าเป็นพรรคอะไหล่แล้ว

“เอิร์ธ” ไม่เชื่อมั่นโบกมือลา

นายพงศกร ขวัญเมือง หรือเอิร์ธ ลูกชายพล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง อดีตผู้ว่าฯ กทม.โพสต์เฟซบุ๊กประกาศลาออกจากสมาชิกพรรค ปชป.ใจความว่า วันนี้พรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้ทำให้มีความเชื่อมั่นว่าการทำงานร่วมกับพรรคจะทำให้สามารถใช้ความรู้ความตั้งใจทำประเทศดีขึ้นได้ใน 3 เรื่อง 1.ความมีส่วนร่วมกำหนดนโยบายพรรค แนวทางพรรค และอุดมการณ์กับสมาชิกพรรคที่มีแนวความคิดที่เหมือนกันอย่างแท้จริง 2.ความเสมอภาคเป็นพรรคที่ไม่มีเจ้าของ ทุกคนสามารถขึ้นมามีบทบาทได้ด้วยความที่พรรคมีกลไกดั่งข้อแรก ทุกคน ไม่จำเป็นต้องรวยหรือมีทุนสามารถขึ้นเป็นผู้นำพรรคได้ นโยบายต่างๆย่อมไม่ถูกครอบงำโดยนายทุน และ3. อุดมการณ์พรรค 10 ข้อ ที่สำคัญยิ่งโดยเฉพาะข้อแรกคือ “พรรคจะดำเนินการเมืองโดยวิถีทางอันบริสุทธิ์” ขอยุติการร่วมงานกับพรรค

เลือดเก่าไหลออกเป็นระยะๆ

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ก่อนหน้านี้เมื่อเดือน ก.ค.นายเกียรติ สิทธีอมร อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคปชป.และอดีตประธานผู้แทนการค้าไทยและคณะทำงานด้านเศรษฐกิจของพรรค ได้ยื่นใบลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรค หลังการเข้าบริหารของ กก.บห.พรรค ปชป.ชุดปัจจุบัน เช่นเดียวกับนายเรวัต อารีรอบ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.)ภูเก็ต และอดีต สส.ภูเก็ต ที่เพิ่งลาออกจากสมาชิกพรรคไปเมื่อวันที่ 15 ส.ค.ที่ผ่านมา

“นายกฯอิ๊งค์”เผยโผ ครม.นิ่งแล้ว

เมื่อเวลา 14.00 น. ที่ จ.สุโขทัย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ และหัวหน้าพรรค พท.ให้สัมภาษณ์ระหว่างลงพื้นที่ไปตรวจสถานการณ์น้ำท่วมถึงความคืบหน้าการจัดตั้งรัฐบาลว่า ค่อนข้างลงตัวนิ่งแล้วเหลือเพียงการตรวจสอบคุณสมบัติ คิดว่าใกล้เสร็จแล้วเพราะตรวจมาประมาณหนึ่งสัปดาห์แล้ว เมื่อถามว่า การตรวจสอบคุณสมบัติมีอะไรที่ติดขัดหรือไม่ เพราะมีกระแสข่าวว่าบางคนมีปัญหา น.ส.แพทองธารตอบว่า เราส่งไปแล้ว ขอให้ใจเย็นนิดนึง ส่วนสัปดาห์หน้าจะนำขึ้นทูลเกล้าฯได้หรือไม่นั้น หากฝ่ายที่ตรวจสอบตอบกลับมาแล้วรายชื่อลงตัว เราทำโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะไม่เช่นนั้นการทำงานจะติดปัญหาต่างๆ เช่น การลงพื้นที่วันนี้ติดเรื่องที่เป็นรัฐบาลที่ยังไม่ได้แถลงนโยบาย เราจะได้บอกประชาชนได้ว่ากำลังทำอะไรอยู่ เมื่อถามถึงการเตรียมนโยบายที่จะแถลงต่อรัฐสภาเสร็จหรือยัง น.ส.แพทองธารตอบว่า ใกล้เสร็จแล้ว

ยอมจับมือ ปชป.เปลี่ยนยุคแล้ว

น.ส.แพทองธารกล่าวถึงกรณีพรรค ปชป.เข้าร่วมรัฐบาลกับพรรค พท.ว่า รัฐบาลที่ดี ช่วยเหลือประชาชนได้ เสถียรภาพเป็นเรื่องสำคัญ เมื่อพรรคพท.ไม่ได้เชิญพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เข้าร่วม การแก้กฎหมายต่างๆต้องมีเสียงมากพอ วันนี้ฝ่ายบริหารพรรค ปชป.ไม่เหมือนในหลายทศวรรษ การที่เราร่วมรัฐบาลกัน ไม่ได้แปลว่าพรรค พท.ยอมรับการกระทำของผู้บริหารพรรค ปชป.ในอดีต วันนี้ทุกอย่างเปลี่ยนไปเยอะมาก เราต้องการรัฐบาลที่มีเสถียรภาพ การได้เสียงพรรค ปชป.คือปัจจัยที่ทำให้มีเสียงมากพอ เมื่อถามว่าเห็นความเปลี่ยนแปลงของพรรค ปชป.อย่างไร น.ส.แพทองธารตอบว่า มันเหมือนประเทศที่เป็นเผด็จการมาเราไม่ทำการซื้อขายด้วย แต่วันหนึ่งเมื่อเขาเปลี่ยนเป็นประเทศที่เป็นประชา ธิปไตย เราก็ซื้อขายกับเขาต่อ เป็นการมองไปข้างหน้ามองไปที่อนาคต อยากขอให้สื่อให้กำลังใจและผลักดันประเทศไปพร้อมกัน อย่าให้ความสำคัญกับอะไรหรือการฟ้องที่ไม่สำคัญ หรือประเด็นอะไรที่ไม่สำคัญ ขอให้ช่วยกันเพราะหน้าที่ตรงนี้หนักและไม่ง่าย ต้องขอความร่วมมือจากทุกฝ่าย

วอนคนเสื้อแดงก้าวไปข้างหน้า

เมื่อถามว่าคนเสื้อแดงไม่ค่อยเห็นด้วยกับการร่วมงานกับพรรค ปชป. น.ส.แพทองธารชี้มือมาที่ตัวเองแล้วพูดว่า “นี่คือคนเสื้อแดง” ก่อนกล่าวต่อว่า พรรค พท.มีเป้าหมายอย่างชัดเจนว่า ต้องแก้ไขปัญหาให้ประชาชนให้ได้ และผลักดันนโยบายต่างๆให้สำเร็จ นี่คือความตั้งใจ เราทำนโยบายสำเร็จมาเยอะในเรื่องของการเมืองมีส่วนหนึ่งที่เราต้องทำให้มีเสถียรภาพให้ได้ผ่านมาแล้ว 10-20 ปี หลายอย่างเปลี่ยนไป ผู้บริหารเปลี่ยนไป แม้ชื่อจะยังเป็นประชา ธิปัตย์เหมือนเดิม แต่หลายอย่างในนั้นเปลี่ยนไปมาก คิดว่าเราต้องเดินหน้าต่อไป ถ้าเรามัวแต่คิดเรื่องการเมืองกันต่อไปจะถ่วงหลังประเทศ และการฟ้องร้องอะไรต่างๆที่เป็นเรื่องเล็กๆมากมาย มันไม่ได้จำเป็นสำหรับการบริหารประเทศ เมื่อถามว่าจะบอกคนเสื้อแดงอย่างไรที่เห็นต่าง น.ส.แพทองธารตอบว่า สัญญาจะเป็นนายกฯของคนไทยทุกคน มาอยู่ตรงนี้จะทำเพื่อประชาชนทุกคน เข้าใจความรู้สึกของคนเสื้อแดงดี เรื่องเสื้อแดงจะพูดไม่ได้เลยว่าไม่เข้าใจตนเข้าใจ แต่วันนี้เราพร้อมหรือยังที่จะก้าวไปข้างหน้าเห็นประเทศชาติที่ดีขึ้นเตรียมไว้ให้ลูกหลาน วันนี้เราต้องเป็นผู้ใหญ่ที่เราต้องพร้อมด้วย นี่คือสิ่งสำคัญ

ไม่หวั่น “เสรีพิศุทธ์” แฉปมครอบงำ

เมื่อถามว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย น้อยใจที่ไม่ได้ตำแหน่งเลยออกมาแฉนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ครอบงำพรรคร่วมรัฐบาล โดยเรียกพรรคร่วมรัฐบาลไปประชุมที่บ้านจันทร์ส่องหล้า น.ส.แพทองธารตอบติดตลกว่า อาจจะเป็นตนมากกว่าที่ครอบงำนายทักษิณ ข้อเท็จจริง คือนายทักษิณไม่ได้ครอบงำ การปรึกษากันคือเรื่องธรรมดา แต่ถ้าหากจะหาเรื่องกันเช่นนั้นมันก็เป็นอย่างนั้น แต่ความจริงไม่มีการครอบงำอะไร ทุกคนมีตัวตน มีความคิดเป็นของตัวเอง มีคำปรึกษาจากทุกคนที่สามารถช่วยกัน ทำงานให้ประเทศต่อ ก็แค่นั้นเอง

ลั่นเขี่ยทิ้ง พปชร.หลายปัจจัย

เมื่อถามถึงกรณีที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เตรียมยื่นฟ้องนายกฯ ต่อองค์กรอิสระ น.ส.แพทองธารตอบว่า คงไปห้ามเขาไม่ได้ แต่ปัญหาพรรค พปชร.ให้เป็นปัญหาของเขา เมื่อถามว่า เหตุผลที่ไม่เอาพรรค พปชร.เป็นเพราะ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคใช่หรือไม่ น.ส.แพทองธารตอบว่า มีเหตุผลหลายอย่างที่ไม่สามารถร่วมงานได้ เมื่อถามว่า ได้คุยกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ในฐานะบิดาบ้างหรือไม่กรณี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ระบุว่าได้ไปเยี่ยมนายทักษิณที่ รพ.ตำรวจถึง 2 ครั้ง น.ส.แพทองธารตอบว่า อยากให้โฟกัสที่เรื่องสำคัญ

“ภูมิธรรม” ชี้ ครม.ใกล้สะเด็ดน้ำ

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี แกนนำพรรค พท.เปิดเผยถึงความคืบหน้าการตั้ง ครม.หลังพรรค ปชป.ตอบรับเข้าร่วมรัฐบาลอย่างเป็นทางการว่า ขั้นตอนจากนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบคุณสมบัติผู้ถูกเสนอชื่อบางส่วน และพิจารณาปรับวางตัวบุคคลเพื่อให้เกิดความเหมาะสม และลดปัญหาให้มากที่สุด รายชื่อ ครม.ทั้งหมดใกล้เสร็จเรียบร้อย เมื่อทุกอย่างแล้วเสร็จจะเป็นกระบวนการจัดตั้งรัฐบาลตามขั้นตอนของกฎหมายครบถ้วน ครม.ชุดใหม่จะเริ่มปฏิบัติหน้าที่ได้ทันที

ขณะที่ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เปิดเผยล่าสุดถึงความคืบหน้าวันนี้ในการตรวจสอบคุณสมบัติผู้ที่ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่า อยู่ในกระบวนการตรวจสอบ โดยยังไม่ได้นำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ

ทูลเกล้าฯ “ครม.อิ๊งค์” ไม่เกิน 4 ก.ย.

ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคเพื่อไทยว่า ขณะนี้บัญชีรายชื่อ ครม.ชุดใหม่เหลือเพียงการตรวจสอบคุณสมบัติ ทั้งคณะกรรมการฝ่ายกฎหมายของพรรค พท. คณะกรรมการกฤษฎีกา และสำนักงานอัยการ ในขั้นสุดท้าย โดยคาดว่า การตรวจสอบจะเสร็จสิ้นในช่วงต้นสัปดาห์หน้า และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ จะสามารถนำยื่นทูลเกล้าฯ ได้ไม่เกินวันที่ 4 ก.ย.

เขย่าโควตา รมต.กลมกล่อม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากพรรคประชาธิปัตย์ พรรคร่วมรัฐบาลพรรคใหม่ส่ง 2 รายชื่อรัฐมนตรีมาถึงพรรคเพื่อไทย ทำให้โผ ครม.ที่มีทั้งสิ้น 36 คน รวมนายกฯ ได้ครบแล้ว แบ่งเป็นโควตาของพรรคเพื่อไทย 17 คน ภูมิใจไทย 8 คน รวมไทยสร้างชาติ 4 คน ประชาธิปัตย์ 2 คน โควตากลุ่มธรรมนัส 3 คน ชาติไทยพัฒนา 1 คน ประชาชาติ 1 คน ประกอบด้วย พรรคเพื่อไทย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและ รมว.กลาโหม นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯและ รมว.คมนาคม นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนัก นายกฯ นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกฯ นายพิชัย ชุณหวชิร รมว.คลัง นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ต่างประเทศ นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.วัฒนธรรม น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์

“ปชป.-ทีมผู้กอง” เสียบตามดีล

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรคภูมิใจไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.มหาดไทย นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย นายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รมช.พาณิชย์ น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รมช.ศึกษาธิการ พรรครวมไทยสร้างชาติ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯ และ รมว.พลังงาน นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม พล.อ.ณัฐพล นาคพานิชย์ รมช.กลาโหม นายสุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์ พรรคประชาธิปัตย์ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.ทรัพย์ฯ นายเดชอิศม์ ขาวทอง รมช.สาธารณสุข “กลุ่มธรรมนัส” น.ส.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.เกษตรฯ นายอิทธิ ศิริลัทธยากร รมช.เกษตรฯ นายอัครา พรหมเผ่า รมช.เกษตรฯ น้องชาย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ซึ่งปัจจุบันเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย พรรคชาติไทยพัฒนา นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พรรคประชาชาติ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม

ไล่ "ลุงป้อม" ไปกวาดบ้านรอคิว

นายพายัพ ปั้นเกตุ ที่ปรึกษานายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ กล่าวถึงกรณีนายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวหา น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ผิดคำสัญญาไม่ให้พรรค พปชร.ร่วมรัฐบาล อาจผิดกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 362 กรณีผิดคำมั่นสัญญาว่า นายไพบูลย์ เข้าใจอะไรผิดหรือไม่ พรรรค พท.ชวนพรรค พปชร.มาร่วมรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน ไม่ได้ชวน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค พปชร.มาเป็นนายกฯ น.ส.แพทองธารเป็นนายกฯจากมติของสภาฯ หาก พล.อ.ประวิตรอยากเป็นนายกฯ ต้องใจเย็นรอการเลือกตั้งครั้งหน้า รอที่บ้านป่ารอยต่อ ชมนกชมไม้ รักษาสุขภาพให้ดี โอกาสยังพอมี นายไพบูลย์ควรให้ พล.อ.ประวิตรดูแล สส.ให้เป็นปึกแผ่นเหนียวแน่น ทบทวนความจำตัวเองเคยทำอะไรพรรค พท.ให้หวาดระแวง มติพรรคร่วมรัฐบาลให้ลงมติเลือกนายกฯ ก็ไม่ไปประชุม หรือกลุ่มอดีต สว.ที่ใกล้ชิดพยายามยื่นปลดนายเศรษฐาต้องอธิบายให้ชัดว่าจริงหรือไม่ แก้ปัญหาในพรรค พปชร.ก่อนมีไม่รู้กี่กลุ่ม หากหวังดีกับประเทศจริงควรลดความต้องการตัวเองลงบ้าง

เตือนนักร้องมั่วซั่วเจอสวนกลับ

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ ที่ปรึกษารองนายกฯ และอดีตโฆษกพรรค พท.กล่าวว่า กรณีที่มีความพยายามโค่นล้มรัฐบาลพรรค พท.สอยนายกฯไม่เลิกรา โดยขบวนการอีแอบแทงข้างหลังหวังให้ทะลุลำไส้ใหญ่ เหลือบไรเห็บเหาคอยปัดแข้งปัดขาสร้างความรำคาญ นักร้องคอยจับผิดหยุมหยิม เช่น เรื่องการครอบงำพรรคไร้สาระมาก วิงวอนให้หยุดได้แล้วประเทศชาติเสียเวลาล้าหลังมาพอแล้ว ขอเสนอให้ตั้งนายทักษิณเป็นที่ปรึกษารัฐบาลและที่ปรึกษา

ของพรรค พท.ไปเลยจะได้หมดปัญหา เหมือนตั้งนายวิษณุ เครืองาม เป็นที่ปรึกษาของนายกฯ ผิดตรงไหนมันไม่ดีตรงไหน หรือว่ามันไปหนักหัวกบาลใคร นายทักษิณตั้งใจจะทำงานให้บ้านเมืองด้วยความกตัญญูและจงรักภักดีต่อสถาบัน นักร้องเอาแต่ร้องกันมั่วซั่วเลอะเทอะปนอิจฉาริษยา ให้ระวังจะโดนสวนกลับจนตั้งรับไม่ทัน

“เรืองไกร” จี้ “อิ๊งค์” โชว์ใบลา 20 บริษัท

นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรค พปชร.กล่าวว่า ได้ส่งหนังสือทางไปรษณีย์อีเอ็มเอสถึงนายกฯขอให้แสดงหลักฐานต่อสาธารณะเกี่ยวกับการลาออกจากกรรมการบริษัทต่างๆ รวม 20 บริษัท ของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เมื่อวันที่ 15 ส.ค.ก่อนรับโปรดเกล้าฯ เป็นนายกฯ เมื่อวันที่ 16 ส.ค.ว่า ได้ลงนามในหนังสือลาออกทั้ง 20 บริษัทจริงหรือไม่ มีสำเนาใบลาออกที่ลงรับโดยแต่ละบริษัทถูกต้องตามวันเวลาหรือไม่ บริษัททั้ง 20 แห่ง มีที่ตั้งสำนักงานใหญ่ต่างกัน คือ อยู่ใน กทม. 14 บริษัท จ.ปทุมธานี 2 บริษัท จ.นครราชสีมา 1 บริษัท และ จ.ลำพูน 3 บริษัท การไปจดทะเบียนว่า บริษัททั้ง 20 แห่ง ได้รับหนังสือลาออกในวันเดียวกันคือ วันที่ 15 ส.ค. น่าสงสัยว่าหนังสือลาออกที่แต่ละบริษัทระบุว่า ได้รับเมื่อวันที่ 15 ส.ค. จริงหรือไม่ เหตุใดไปจดทะเบียนวันที่ 19 ส.ค. ควรนำหลักฐานมาแสดงให้ดู แต่ละบริษัทได้รับหนังสือลาออกอย่างไร ลงเลขที่รับและวันเวลาไว้หรือไม่ ขอให้แสดงต่อสาธารณะว่า มีการลาออกจริงตามวันเวลาดังกล่าว แต่หากการลาออกมีการทำเอกสารย้อนหลังจากวันที่ดำรงตำแหน่งนายกฯ อาจมีประเด็นให้ กกต.ตรวจสอบความเป็นนายกฯ ต้องสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 (5) ประกอบมาตรา 187 หรือไม่

“เสรีฯ” สะบั้นขอเป็นฝ่ายค้าน

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย (สร.) ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ถึงกระแสข่าวจะได้ดำรงตำแหน่งรองนายกฯ ภายหลังประกาศนำพรรค สร.ออกจากการร่วมรัฐบาลว่า ยืนยันไม่มีการติดต่อทาบทามมา แม้จะติดต่อมาก็ไม่สนใจ ยืนยันจุดยืนที่ได้แถลงไปแล้วเมื่อวันที่ 29 ส.ค.ในการถอนตัวออกจากพรรคร่วมรัฐบาล จะมาทำหน้าที่เป็นพรรคฝ่ายค้านอิสระตรวจสอบถ่วงดุลรัฐบาล เชื่อว่ารัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร จะไม่ ติดต่อมา เพราะเลยช่วงระยะเวลาการพูดคุยจัดตั้ง ครม.มาแล้ว

ป.ป.ช.ยังไม่ได้วงจรปิดชั้น 14

นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯพักรักษาตัวที่ชั้น 14 รพ.ตำรวจว่า ป.ป.ช.ตรวจสอบไปมากแล้ว มีข้อมูลพอสมควร จะสรุปว่ามีมูลในการไต่สวนหรือไม่ ส่วนหลักฐานภาพวงจรปิดชั้น 14 ป.ป.ช.ขอไปนานแล้วแต่ยังไม่ได้ ได้ประสานเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ และ รพ.ตำรวจอยู่ตลอด อาจต้องไปตรวจสอบมีภาพกล้องวงจรปิดหรือไม่ หากมีแล้วใช้ได้หรือไม่ ส่วนข้อมูลเวชระเบียนของนายทักษิณ และข้อมูลอื่นๆก็ขอไป แต่ยังได้มาไม่ครบ ส่วนจะเชิญ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรค สร.ที่ออกมาเปิดเผยรายละเอียดการไปเยี่ยมนายทักษิณที่ชั้น 14 มาให้ข้อมูลหรือไม่ ต้องดูว่าจะเชิญมาถามเรื่องใด จำเป็นหรือไม่ต้องให้เจ้าหน้าที่พิจารณา ยังไม่สามารถตอบได้ ขณะที่ผลสอบของกรรมการสิทธิมนุษยชน (กสม.) ที่ระบุนายทักษิณ ได้รับสิทธิการรักษาพยาบาลดีกว่าผู้ต้องขังรายอื่นนั้น ได้ส่งมาให้ ป.ป.ช.แล้ว จะนำมาเป็นความเห็นประกอบ

ยังไม่มีใครร้องสอบหุ้นนายกฯ

ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯถือหุ้นบริษัทต่างๆ และยังไม่มีการโอนหุ้นหลังรับตำแหน่งนายกฯ มีคนมาร้อง ป.ป.ช.บ้างหรือยัง นายนิวัติไชยตอบว่า ยังไม่มีใครร้องมา ตามขั้นตอนกฎหมาย การเซ็นโอนหุ้นของผู้ที่ได้รับตำแหน่งทางการเมือง ทำได้หลังถวายสัตย์ปฏิญาณภายใน 15 วัน ไม่จำเป็นต้องโอนหุ้นก่อนได้รับโปรดเกล้าฯเป็นไปตาม พ.ร.บ.หุ้น การถือครองหุ้น หลังดำรงตำแหน่งแล้ว สามารถถือครองได้ไม่เกิน 5% ถ้าเกินจากนั้นต้องดำเนินการให้นิติบุคคลเป็นผู้จัดการ

“บิ๊กแจ๊ส” เป็นนายก อบจ.จนลง 12 ล้าน

วันเดียวกันสำนักงานคณะกรรมการ ป.ป.ช.เปิดเผยบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง กรณีพ้นตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ปทุมธานี เมื่อวันที่ 3 พ.ค.2567 มีทรัพย์สินรวม 55,325,225 บาท เป็นทรัพย์สินของ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ 52,932,965 บาท อาทิ ที่ดินย่านภาษีเจริญ กทม.15 ล้านบาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง เป็นบ้านเดี่ยว เขตบางแค กทม. 5 ล้านบาท ทรัพย์สินอื่นๆ อาทิ แหวนหยก 2 ล้านบาท นาฬิกา ROLEX 1 เรือน 1 ล้านบาท พระเครื่อง 31 องค์ 25,965,000 บาท รวม 29,075,000 บาท ขณะที่ นางศรีปริญญา ธูปกระจ่าง คู่สมรส มี 2,392,260 บาท เมื่อเทียบกับที่เคยแจ้งกรณีรับตำแหน่งนายก อบจ.ปทุมธานี วันที่ 15 ก.พ.2564 มี 67,512,259 บาท ถือว่าทรัพย์สินลดลง 12,187,034 บาท

ปธ.สภาฯนัดถกงบฯ 3 วันรวด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้นัดประชุมสภาฯวันที่ 3-5 ก.ย.เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2568 วาระสอง และสามที่คณะ กมธ.วิสามัญฯพิจารณาเสร็จแล้ว โดยในสาระที่น่าสนใจ ที่ กมธ.วิสามัญฯ พิจารณา อาทิ งบประมาณตั้งไว้ 3.7 ล้านล้านบาท มีการปรับลดงบฯ ตามมติของ กมธ.รวม 7,824 ล้านบาท โดยได้จัดสรรไปให้ส่วนราชการตามที่ ครม. เสนอตามความเหมาะสม และจำเป็น รวม 6,821 ล้านบาท และจัดสรรให้หน่วยงานรัฐสภา ศาล องค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญและองค์กรอัยการ รวม 1,002 ล้านบาท เป็นต้น

“หมอเปรม” เฉ่ง ปธ.สว.เมินน้ำท่วม

เมื่อเวลา 11.00 น. ที่รัฐสภา นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ สว.แถลงถึงกรณีการยื่นญัตติขอเสนอตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการแก้ไขปัญหาภัยพิบัติจากวิกฤติอุทกภัยอย่างเร่งด่วนและเป็นระบบต่อประธานวุฒิสภา เมื่อวันที่ 23 ส.ค.ว่า ประธานวุฒิสภาบอกให้รอการพิจารณาบรรจุเป็นวาระการประชุม จนสัปดาห์ผ่านไปยังไม่มีการบรรจุลงวาระ กลับมีแต่เรื่องอื่นที่เสนอภายหลังแซงมาทั้งนั้น ทั้งที่ประชาชนรอการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบครบวงจร ญัตตินี้เป็นการระดมคนเข้ามาแก้ไขปัญหาใน 90 วัน ยิ่งเป็นช่วงสุญญากาศที่นายกฯยังไม่มี

ครม.และน่าจะใช้เวลาอีกเกือบเดือน จะปล่อยให้ประชาชนรอคอยการช่วยเหลือได้อย่างไร ขอวิงวอนให้ประธานวุฒิสภา ทบทวนนำญัตติขึ้นมาประชุมในสัปดาห์หน้า การวินิจฉัยญัตติด่วนไม่ด่วนวินิจฉัยได้ตามสามัญสำนึกอยู่แล้ว ไม่เข้าใจว่าการอภิปรายเรื่องน้ำท่วมจะกระทบต่อผู้บริหารกระทรวงใดเป็นพิเศษหรือไม่ ถึงต้องยับยั้งไม่ให้ญัตติเข้าสู่การพิจารณา

บ่นอุบสภาสูง “ลูกคุณช่างบล็อก”

นพ.เปรมศักดิ์กล่าวว่า ในฐานะรองประธานกมธ.แก้ไขข้อบังคับการประชุมวุฒิสภาได้พิจารณาร่างปรับลดจำนวน กมธ.เหลือ 21 คณะเสร็จสิ้นแล้ว จะส่งให้ประธานวุฒิสภา บรรจุวาระประชุมพิจารณาวาระ 2-3 ในสัปดาห์หน้า แต่พิจารณาจาก 21 คณะ มีบางคณะซ้ำซ้อนกันแต่ทำอะไรไม่ได้ เพราะเสมือนมีการบอกว่าต้องเอาตามนี้ ค่อนข้างไม่สบายใจตั้งแต่การเลือก สว.แล้ว บล็อกทุกระดับ ตั้งแต่เลือกประธานและรองประธานวุฒิสภา เลือก กมธ. 21 คณะก็บล็อกอีก ตอนนี้มีข่าวแว่วๆว่า จะบล็อกคนมาเป็นประธานกมธ. 21 คณะอีก ลูกคุณช่างบล็อก บล็อกได้บล็อกดีจนคนที่มีความรู้ความสามารถตั้งใจจะทำงานแทบหมดโอกาส

“มงคล” ปัดไม่เกี่ยวบล็อกเก้าอี้

นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ให้สัมภาษณ์ กรณี สว.บางส่วน ไม่สบายใจการปรับลดจำนวนคณะ กมธ.สามัญลงเหลือ 21 คณะ อีกทั้งตั้งข้อสังเกตเรื่องใบสั่งบล็อกบุคคลที่จะนั่งเป็นประธาน กมธ.ว่า สมาชิกทุกคนเราไปห้ามความคิดกันไม่ได้ สว.แต่ละคนมีวุฒิภาวะ มีหลายมุมมอง เหมือนดอกไม้หลายสี ใครจะไปบอกให้คนโน้นคนนี้ทำอย่างนี้ ตนคิดว่าจะมาใช้กับสภาคงยาก มันเป็นมติของสมาชิกประธาน สว.มีหน้าที่ทำตามมติเสียงส่วนใหญ่ นั่งอยู่ข้างบน พูดอะไรไม่ได้ แม้แต่ลงคะแนนยังต้องงดออกเสียง เสียงข้างมากมีมติว่าอย่างไร มันก็คงต้องเป็นไปตามนั้น เราต้องทำตามระเบียบข้อบังคับ

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่