“ภูมิธรรม” ลุยตรวจน้ำท่วมน่าน มั่นใจไม่ถึง กทม. คาดแถลงนโยบายไม่เกิน 15 ก.ย.

“ภูมิธรรม” ลุยตรวจน้ำท่วมน่าน ให้กำลังใจ มอบถุงยังชีพผู้ประสบภัย สั่งทุกหน่วยงานให้ข้อมูลจริงไม่โกหกประชาชน หลังลือท่วมหนักเหมือนปี 54 ขอให้มั่นใจน้ำไม่ถึง กทม. คาด แถลงนโยบายไม่เกิน 15 ก.ย. 67

เมื่อเวลา 10.20 น. วันที่ 25 สิงหาคม 2567 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ เดินทางมาถึงท่าอากาศยานน่านนคร จ.น่าน เพื่อปฏิบัติราชการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม พร้อมมอบถุงยังชีพแก่ผู้ประสบเหตุอุทกภัยในพื้นที่ อ.ท่าวังผา จ.น่าน โดยจุดแรกเดินทางไปยังวัดอัมพวัน (ม่วงใต้) ต.ศรีภูมิ อ.ท่าวังผา จ.น่าน เพื่อตรวจสถานการณ์น้ำผ่านรถ Mobile War Room พร้อมมอบถุงยังชีพ และฟังบรรยายสรุปสถานการณ์น้ำจาก นางรอยบุญ รัศมีเทศ ผู้อำนวยการสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) ถึงปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำรายวันของกรมชลประทาน คลังข้อมูลน้ำแห่งชาติ และหลายจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือที่ยังต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ทุกหน่วยงานบูรณาการทำงานร่วมกัน และแม้ว่าขณะนี้จะเกิดเหตุฝนตกหนักในพื้นที่ภาคเหนือ ขณะเดียวกันในพื้นที่ภาคใต้ก็เกิดเหตุเช่นเดียวกัน ซึ่งมาจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศที่ไม่ใช่แค่ภูมิภาคใดภูมิภาคหนึ่งแล้ว

...

นายภูมิธรรม กล่าวว่า ขอให้มีการเชื่อมโยงข้อมูลให้กับทุกหน่วยงานรับทราบ และติดตามสถานการณ์อย่าเพิ่งวางใจเพราะฝนยังตกอยู่ รวมถึงขอให้มีการกระจายรถโมบายไปในหลายพื้นที่ เชื่อมโยงข้อมูลไปยังส่วนกลางด้วย เพราะขณะนี้สถานการณ์ยังต้องจับตาอยู่ รวมถึงสถานการณ์ที่ จ.สุโขทัย ที่อาจจะหนักได้ เพราะน้ำเริ่มไหลลงไปยังพื้นที่ จ.สุโขทัย และขอให้ใช้โดรนติดตามความเคลื่อนไหวของมวลน้ำ และขอให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องช่วยให้ข้อมูลแก่ประชาชน จากกรณีกระแสข่าวว่าน้ำอาจจะท่วมหนักเหมือนปี 2554 เพื่อที่ประชาชนจะได้เกิดความสบายใจ

จากนั้น นายภูมิธรรม พบปะให้กำลังใจประชาชน พร้อมมอบถุงยังชีพแก่ผู้ประสบภัย 728 หลังคาเรือน โดยกล่าวว่า รัฐบาลทราบปัญหา และพร้อมแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องชาว จ.น่าน จ.แพร่ และ จ.เชียงราย รัฐบาลพยายามคาดการณ์ล่วงหน้าถึงจุดต่างๆ ที่จะเกิดเหตุการณ์ ซึ่งเครื่องมือขณะนี้ค่อนข้างตรงกับสถานการณ์ จึงอยากให้ประชาชนรับฟังข่าวสารเพื่อป้องกันการเกิดความเสียหายได้

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เกิดการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศที่ไม่เหมือนเดิมจากภาวะโลกร้อน จึงต้องพูดถึงต้นตอ ต้องช่วยกันดูแลตั้งแต่ต้นน้ำ ตนเคยหารือเรื่องนี้กับ นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี ถึงปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้งซึ่งเป็นปัญหาที่ใช้เงินมาก จึงควรทำเรื่องน้ำเป็นวาระแห่งชาติ ซึ่งรัฐบาลพรรคเพื่อไทยเคยพูดเรื่องนี้ตั้งแต่สมัยนายกรัฐมนตรี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งช่วงต้นปี 2554 สั่งเตรียมงบประมาณไว้ 2-3 ล้านล้านบาท แต่ครั้งนี้ประมาณการไปว่า 5-6 ล้านล้านบาท คิดว่าจะทำตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ แม้ว่าจะใช้งบประมาณมากแต่คุ้มค่าในระยะยาว

ขณะนี้เราควบคุมสถานการณ์ได้เรียบร้อย น้ำครั้งนี้เป็นน้ำหลากขังไม่นาน ดีกว่าปี 2554 ที่ครั้งนั้นน้ำไม่มีที่ไป การที่เราบริหารจัดการควบคุมได้ดีสถานการณ์ก็จะเบาบางลง แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นหลังจากนี้คือการฟื้นฟูสภาพบ้านเรือน ซึ่งตนสั่งการทุกหน่วยงานไปแล้ว รวมทั้งกระทรวงพาณิชย์ ว่าอย่าให้ของขาดตลาด และอย่าให้มีการฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้า กระทรวงคมนาคมให้ดูแลเรื่องการสัญจร และดูถึงอนาคตว่าเส้นทางไหนที่สามารถช่วยระบายน้ำได้โดยไม่ต้องรอให้น้ำมา ก็สามารถให้เจาะถนนเพื่อเป็นรอระบายได้เลย กระทรวงอื่น ๆ ก็มีการทำงานร่วมกันขอให้ประชาชนสบายใจได้

นายภูมิธรรม กล่าวต่อไปว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ไม่ได้มาด้วย แม้ว่าท่านได้รับการเลือกจากสภาผู้แทนราษฎรให้เป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว แต่กระบวนการจนกว่าจะปฏิบัติหน้าที่ได้มีอีกหลายขั้นตอน ต้องจัดตั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งจะทำให้เร็วที่สุดคาดว่าภายในสิ้นเดือนสิงหาคม หรือต้นเดือนกันยายน 2567 จะแล้วเสร็จ และจะถวายสัตย์ปฏิญาณแถลงนโยบายต่อรัฐสภา น่าจะไม่เกิน 15 กันยายนนี้ จะได้รัฐบาลใหม่เพื่อดำเนินการได้อย่างต่อเนื่อง

“น.ส.แพทองธาร ได้แต่แสดงความห่วงใย และอึดอัดใจ แต่ไม่สามารถทำอะไรได้มากกว่านั้น ขณะนี้จึงต้องเป็นหน้าที่ของรัฐบาลปัจจุบันที่ทำหน้าที่แทนรัฐบาลเดิม โดยจะทำหน้าที่อย่างเต็มที่”

ขณะเดียวกัน นายภูมิธรรม ยังย้ำด้วยว่า รัฐบาลไม่นิ่งนอนใจและประเมินสถานการณ์ตลอดเวลา ไม่ว่าฝนจะตกอย่างไรก็จะไม่ไปถึง กทม. ขอให้สบายใจได้ ส่วนที่มีความกังวลว่าน้ำจะท่วมหนักเหมือนปี 2554 รัฐบาลเอาข้อมูลมาดูแล้วยังมีที่ว่างในอ่างเก็บน้ำและเขื่อนเพียงพอรับน้ำได้ พร้อมระบุว่า ขอความกรุณาวันนี้ประชาชนทุกข์ยากมากพอแล้ว อย่าสร้างความตื่นตระหนก อยากให้ช่วยให้ข่าวดี แต่ไม่โกหกพี่น้องประชาชน พูดแต่ข้อเท็จจริง ยืนยันรัฐบาลดูแลเต็มที่

รวมถึงที่ จ.ภูเก็ต นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ก็ลงไปดูแล และเมื่อร่วมทีมกับนายกรัฐมนตรีได้ ก็คงทำงานได้เต็มที่มากกว่านี้ และหาก น.ส.แพทองธาร เข้ามาทำหน้าที่แล้วตนจะทำเรื่องเสนอให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ หรืออาจจะให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมมือกัน ส่งเสริมแผนบริหารจัดการน้ำ ซึ่งขณะนี้เราได้ใช้แผนแม่บทสมัยปี 2554 ช่วงรัฐบาลของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ตนคิดว่าจำเป็น หากทำได้จะแก้ปัญหาระยะยาวได้ ซึ่งเรื่องดังกล่าวจะนำเข้า ครม. ในช่วงต่อไป

เมื่อถามย้ำว่าจะได้คณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่ในวันที่ 15 กันยายน 2567 ใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม ตอบว่า เป็นเพียงการคาดการณ์ของตน เพราะทุกอย่างขึ้นอยู่กับเงื่อนไขและกฎหมาย.

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

ระเบิด ‘เพจเจอร์’ เทคโนโลยียุคเก่าที่กลับมาได้รับความนิยมในวงการแพทย์

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า ความเป็นที่นิยมของ “โทรศัพท์มือถือ” จนกลายเป็นเครื่องมือสื่อสารหลักของโล...

เปิดเหตุผล 'ไปรษณีย์ไทย' ทำไมโดดร่วมสมรภูมิ 'เวอร์ชวลแบงก์'

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย.) เป็นวันปิดรับคำขออนุญาตจัดตั้ง ธนาคารพาณิชย์ไร้สาขา (เวอร์ชวลแ...

แกะกล่อง 'iPhone 16' และ 'iPhone 16 Pro Max' ส่องจุดเด่น มีลูกเล่นอะไรใหม่

แกะกล่องเป็นกลุ่มแรกๆ กับ iPhone 16 และ iPhone 16 Pro Max ที่วันนี้ KT Review จะพาไปดูว่าหนึ่งรุ่นเร...

‘ไมโครซอฟท์ - กูเกิล’ มอง ‘Digital Trust’ วาระท้าทาย ชีวิตบนโลกดิจิทัล

สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA) จัดงาน “60 Years OF EXCELLENCE” ฉลองครบรอบ 60 ปี เชิญผู้นำจา...