ประชุม สส.ประชาธิปัตย์ เหงา ไร้เงาหัวหน้า-เลขาฯ พรรค “ชวน” ย้ำจุดยืนไม่ร่วมรัฐบาลเพื่อไทย แต่ไม่ขัดมติพรรค ปูดปมสินบน 30 ล้านไม่ให้ยุบพรรคไทยรักไทย คนวิ่งเต้นยังอยู่
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 20 ส.ค. 2567 ที่พรรคประชาธิปัตย์ มีการประชุม สส. พรรคประจำสัปดาห์เพื่อเตรียมความพร้อมในประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 21-22 ส.ค. ที่จะถึงนี้ โดยมี สส. เข้าประชุมบางตา แม้กระทั่ง นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรค และ นายเดชอิศม์ ขาวทอง เลขาธิการพรรค ก็ไม่ได้เข้าร่วมประชุม แม้จะเดินทางเข้ามาในที่ทำการพรรคตั้งแต่ช่วงสาย และได้เดินทางออกจากพรรคในช่วงก่อนเที่ยง โดยไม่ได้แจ้งเจ้าหน้าที่พรรคว่าจะกลับมาร่วมประชุมกับ สส.พรรคหรือไม่ ขณะที่ นายบัญญัติ บรรทัดฐาน สส.บัญชีรายชื่อเดินทางเข้ามาประชุม ปฏิเสธให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์เตรียมเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย
ด้าน นายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อ ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวที่พรรค ปชป. จะร่วมรัฐบาลพรรคเพื่อไทยว่า ขณะนี้ยังไม่มติของพรรค และท้ายที่สุดไม่ว่าจะเป็นอย่างไร ประชาธิปัตย์จะต้องเคารพมติพรรค พร้อมยกตัวอย่างการร่วมรัฐบาลที่ผ่านมากับ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่า มี 2 เงื่อนไข คือ การแก้ไขรัฐธรรมนูญ และผลักดันนโยบายประกันรายได้ โดย นายชวน กล่าวตัดพ้อว่า ขณะนี้ยังไม่ได้มีมติว่าพรรคจะร่วมรัฐบาลหรือไม่ แต่กลับมีการนำเสนอข่าวว่าเป็นเหมือนพรรคสำรอง พรรคอะไหล่ รอจะเสียบ ทำให้ผู้ที่สนับสนุนพรรคเสียใจ ตนจึงอยากให้แยกแยะระหว่างพฤติกรรมของพรรค กับพฤติกรรมของคนบางคน เพราะเป็นความดิ้นรนของคนที่อยากร่วมรัฐบาลที่มีอยู่จริง ซึ่งส่วนตัวไม่ขอออกความเห็นว่า หากประชาธิปัตย์ร่วมรัฐบาลจริง ควรจะมีเงื่อนไขอะไร เนื่องจากตนไม่ใช่กรรมการบริหาร (กก.บห.) พรรค เพียงแค่มีจุดยืนส่วนตัวว่าไม่ร่วมรัฐบาลตั้งแต่ต้น เพราะไม่อยากถูกประณามว่าทรยศชาวบ้าน เพราะเราเคยหาเสียงไว้ ทำให้แม้พรรคเพื่อไทยได้คะแนนท่วมท้น แต่ในภาคใต้ไม่มี สส.พรรคเพื่อไทยแม้แต่คนเดียว ซึ่งส่วนตัวมองว่าหากเป็นฝ่ายค้านก็ต้องทำหน้าที่ของฝ่ายค้านจริงๆ แต่ถ้าหากเป็นฝ่ายค้านแล้วลังเลใจ เวลามีมติอะไรก็ไม่กล้าตัดสินใจ เพราะกลัวเขาจะโกรธและไม่ให้ร่วมรัฐบาล ทั้งที่การเป็นฝ่ายค้าน แม้จะมี สส. น้อยแต่สามารถทำประโยชน์ให้กับประชาชนได้ ในฐานะที่เป็น สส. ทำหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติ อะไรที่ดีเราก็พร้อมสนับสนุน เพราะหากทำผิดก็จะเถียงยาก ทางออกที่ไม่ให้ถูกยุบพรรคคือไม่กระทำผิด หรือไปแก้กฎหมายในอนาคต ไม่ใช่ให้ยุบทั้งพรรค แต่ให้มีโทษกับผู้ที่กระทำความผิดเป็นรายบุคคล
...
นายชวน ยังกล่าวย้ำว่า ระบบพรรคการเมืองเป็นแบบนี้ ตนอยู่มา 50 ปีไม่เคยขัดมติพรรค ระบบพรรคมีของดีอยู่แบบนี้ถึงอยู่มาได้ยาวนาน หากไม่มีของดีอยู่บ้าง พรรคก็อยู่ไม่ได้ พรรคประชาธิปัตย์ เคยถูกฟ้องยุบพรรคมาแล้ว 2-3 ครั้ง โดยพรรคไทยรักไทยเป็นผู้ร้อง แต่ประชาธิปัตย์ไม่ถูกยุบ กลับมีมติเอกฉันท์ให้ยุบพรรคไทยรักไทย มีคนนำเงินไปยื่นให้ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ 30 ล้าน เมื่อมีคนด่าตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตนเป็นคนหนึ่งที่มองว่าท่านซื่อตรง พอเรื่องยื่นเงิน 30 ล้านแดงขึ้นมา คนวิ่งเต้นเป็นรุ่นน้องที่ธรรมศาสตร์ ครั้งแรกให้ไป 15 ล้าน ถูกปฏิเสธ จึงตามไปถึงที่บ้านและเสนอเงินให้ 30 ล้าน ตนไม่อยากจะเอ่ยชื่อ เพราะมันจะกระทบถึงผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมือง และคนที่วิ่งเต้นยังมีตัวตนอยู่ทุกวันนี้ เป็นกลุ่มธุรกิจการเมือง