“เศรษฐา” ย้ำ เป็นคนมีความซื่อสัตย์เป็นที่ประจักษ์ ปลุกคนเพื่อไทย ต้องช่วยกันปกป้อง “แพทองธาร” ยัน ไม่ให้สัมภาษณ์สื่อ ชี้ เป็นเวลาของนายกฯ คนใหม่แล้ว เปรยติดตลก โชคดีที่พอมีสตางค์ ไม่ต้องไปประกอบอาชีพอื่น
วันที่ 20 สิงหาคม 2567 ที่อาคารชินวัตร ทาวเวอร์ 3 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เป็นประธานการประชุมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) พรรคเพื่อไทย ทั้งนี้ นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี เข้าร่วมการประชุมในวันนี้ด้วย โดยช่วงหนึ่ง น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า วันนี้หลายคนในพรรคเพื่อไทย มีความคิดที่อยากมาขอบคุณ นายเศรษฐา ในการทำงานหนักตลอด 1 ปีเต็มที่ผ่านมา ซึ่งตนคิดว่าเป็นวาระที่สำคัญมาก การที่ได้คุยกับ นายเศรษฐา ส่วนตัวก็ทราบถึงแนวทางการผลักดันที่เพิ่มขึ้นมากมาย เพื่อให้ประเทศชาติได้ไปต่อข้างหน้า และที่อยากเล่าให้ฟังคือ นายเศรษฐา เป็นสุภาพบุรุษคนต้นๆ ในชีวิตที่ตนรู้จัก และตนเคารพคนไม่ผิด เราจะช่วยกันทุกคน ไม่ต้องคิดว่าใครตำแหน่งอะไร เราคือคนพรรคเพื่อไทย วันนี้ตนมีอีกหนึ่งหมวกคือนายกรัฐมนตรี ที่ตนบอกจะทำให้ดีที่สุด แต่ขอกำลังใจกำลังกายจากทุกคนที่นี่ด้วย เพราะทำคนเดียวไม่ได้ วันนี้เรามาปรบมือให้กับ นายเศรษฐา สำหรับความทุ่มเท และพร้อมรับนายกรัฐมนตรีคนใหม่คือตน และต้องมาช่วยกัน เราจะทำให้เต็มที่
...
ทางด้าน นายเศรษฐา กล่าวว่า ตั้งแต่ที่ตนเข้ามาวันแรกจนถึงตอนนี้ ก็ได้รับการตอบรับที่อบอุ่น มีความจริงใจ แม้จะเป็นระยะเวลาเกือบ 2 ปีที่ผ่านมา ยอมรับว่าอาจจะทำให้หลายคนไม่สบายใจบ้าง แต่เป็นเรื่องของความด้อยประสบการณ์ ไม่ได้เป็นเรื่องที่ตนตั้งใจที่ทำให้หลายคนไม่พอใจ ยืนยันในเจตนารมณ์ว่าตนมาในบ้านหลังใหม่ จึงต้องพยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้ทุกคนยอมรับ การทำให้ทุกคนรักและทุกคนพอใจเป็นเรื่องลำบาก พร้อมยืนยันเรื่องของความตั้งใจและยืนหยัดในการเอาประชาชนเป็นที่ตั้งนั้น
วันนี้ไม่ได้หาเสียง แต่พูดจากใจจริง ที่ทุกคนมาอยู่ตรงนี้ เชื่อว่า ส.ส.ทุกคน เอาประชาชนเป็นที่ตั้งอยู่แล้ว และมั่นใจว่าทุกคนรู้ว่าตนเป็นคนที่มีจริยธรรม มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ไม่ได้เรียกร้องอะไร “แต่โชคดีที่พอมีสตางค์ ก็ไม่ต้องไปประกอบอาชีพอื่น เพราะถ้าไปประกอบอาชีพอื่นก็คงลำบาก” หากเป็นธุรกิจที่เข้าตลาดแล้วไปเป็นกรรมการ ก็อาจจะถูกผู้ถือหุ้นรายย่อยร้องเรียนได้ ฉะนั้น อยู่ในบทบาทที่อยู่ข้างหลังดีกว่า หากวันไหนมีเวลาว่างก็จะมาประชุมพรรคด้วย หรือหาก สส.คนไหนเดือดร้อน ตนมีมูลนิธิที่อาจจะช่วยเหลืออะไรได้บ้าง หรือเพื่อนที่เป็นนักธุรกิจก็ยินดีที่จะช่วยได้หากตนเอ่ยปาก และเป็นเรื่องของพืชผล แต่หากเป็นเรื่องสนามบินหรืออะไรก็อาจจะใหญ่เกินไป
นายเศรษฐา ยังกล่าวด้วยว่า วันนี้เรามีนายกรัฐมนตรีซึ่งเป็นที่รักของเราทุกคน เป็นสายเลือดของผู้นำจิตวิญญาณ ผู้ก่อตั้งพรรคมา ตนเห็นสีหน้าและแววตาของทุกคนแล้วเห็นว่า ทุกคนให้ความสนับสนุนเป็นอย่างเต็มที่ และเป็นที่พึงพอใจ น.ส.แพทองธาร ได้รับการโปรดเกล้าฯ ให้เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งถือเป็นตำแหน่งที่มีเกียรติ
ทั้งนี้ ในช่วงต้นตนคิดว่ากระแสแอนตี้จะมาเยอะ แต่เป็นกระแสที่ไม่เป็นธรรม เพราะ น.ส.แพทองธาร ยังไม่ได้ทำอะไรเลย จึงขอให้ทุกคนช่วยกัน ไม่ว่าจะเป็นโซเชียลมีเดีย สังคมที่ท่านอยู่ เราต้องช่วยกันปกป้อง น.ส.แพทองธาร อย่าให้ใครมากล่าวร้ายได้ มั่นใจในความมุ่งมั่นในความตั้งใจจริงของ น.ส.แพทองธาร ที่เข้ามาทำเพื่อประชาชน และมั่นใจว่า 141 เสียงในการเลือกตั้งคราวหน้าจะต้องเพิ่มขึ้นอีก
“ในส่วนของผมเอง ก็จะช่วยอยู่ข้างหลังอย่างเต็มที่ ไม่ต้องห่วง ไม่ได้ไปไหน ถ้าหายไปไหน คงไปฮอลิเดย์เฉยๆ เพราะว่าต้องการเหลือเกิน ช่วงปีครึ่งถึง 2 ปีที่ผ่านมา ไม่ได้มีเวลาส่วนตัวเลย ยืนยันนะครับว่า ถ้าเกิดหายไปสักอาทิตย์ 2 อาทิตย์ ก็ไม่ได้ไปไหน ผู้สื่อข่าวก็คงไม่ต้องมาสัมภาษณ์ผม ผมไม่ให้สัมภาษณ์บอกไว้เลย เป็นช่วงเวลาใหม่แล้ว เป็นช่วงเวลาที่ท่านนายกรัฐมนตรีคนใหม่ต้องเรียนรู้งาน แล้วก็มีพวกเราเป็นกำลังสำคัญที่อยู่เบื้องหลัง มีขั้นตอนอีกหลายขั้นตอน ที่เราต้องช่วยกันพาท่านผู้นำที่เป็นที่รักของเราทุกคน ฝ่าฟันไปให้ได้อย่างไม่มีปัญหา ซึ่งผมมั่นใจครับว่าเราทุกคนช่วยอย่างเต็มที่ครับ” ทั้งนี้ หลังกล่าวจบ นายเศรษฐา ได้รับเสียงปรบมือและเสียงเชียร์จากที่ประชุมด้วย.
(ภาพ : เอกลักษณ์ ไม่น้อย)
