"นายกฯ เศรษฐา" รับ ไม่มีอำนาจ หมดหน้าที่แล้ว "ดิจิทัลวอลเล็ต" โยนเป็นหน้าที่ รักษาการนายกฯ หรือนายกฯ คนใหม่ กลับเข้ามา ส่วนใครจะมาเป็นนายกฯ คนใหม่ ต้องให้เกียรติคนที่เป็นรักษาการ
วันที่ 14 ส.ค. 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจาก ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ 9 คน ออกนั่งเพื่ออ่านคำวินิจฉัย กรณีประธานวุฒิสภาส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และนายพิชิต ชื่นบาน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5)
นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ช่วงหนึ่งว่า ตนเรียนตรงๆ ว่าตนตอบไม่ได้ เพราะยังไม่ทราบว่า ใครจะมาเป็นนายกฯ ตนไม่ทราบว่าเรื่องของพรรคร่วมรัฐบาลจะเป็นอย่างไร ตรงนี้ให้เกียรติ รักษาการนายกฯ และคนที่จะมาเป็นนายกฯ คนต่อไป
เมื่อถามว่า เรื่องโครงการเติมเงิน 1 หมื่นบาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต จะดำเนินการต่อหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า อย่างที่ตนเรียนจะเป็นพรรคร่วมรัฐบาล หรือพรรคเพื่อไทย ถ้าเปลี่ยนผู้นำแล้วเขาก็มีสิทธิในการเปลี่ยนแปลงนโยบายได้ตามที่เห็นสมควร อย่างที่ตนบอก ทุกคนก็อยากเห็นประเทศชาติเดินไปข้างหน้าได้ อยากให้ประชาชนอยู่ดีกินดี แต่วิธีการที่จะทำให้ถึงจุดจุดนั้น ก็มีอีกหลายวิธีที่ทุกคนจะทำได้ บางท่านก็อาจจะเห็นด้วย บางท่านอาจจะไม่เห็นด้วย หรือเป็นเรื่องอื่นๆ ก็แล้วแต่ วันนี้ต้องยอมรับว่า เราหมดหน้าที่ไปแล้วเมื่อตอนบ่ายสามโมงครึ่งวันนี้
...
เมื่อถามว่า "ดิจิทัลวอลเล็ต" ที่เดินมาถึง ขนาดนี้อาจจะพลิกได้ใช่หรือไม่ นายเศรษฐา ตอบว่า ตนไม่ทราบตนเรียนตรงๆ ได้ว่า ตนไม่มีอำนาจแล้ว ต้องเป็นหน้าที่รักษาการนายกฯ หรือ นายกฯ คนใหม่ ที่ต้องกลับเข้ามา
เมื่อถามว่า ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญ มีคำวินิจฉัยเสร็จสิ้น มีฝ่ายการเมืองโทรศัพท์ติดต่อเข้ามาหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ยังไม่มีใครโทรศัพท์เข้ามา แต่มีการส่งข้อความมาหา บางคนก็บอกว่าจะเข้ามาหา ตนก็บอกว่าอย่าเลย เพราะตนจะไปแล้ว มันอยู่ตรงนี้ไม่ได้ เพราะเขาไม่ให้อยู่แล้ว