ก้าวไกลยังมาแรง ชนะเลือกตั้งซ่อมระยอง ประชาธิปัตย์จวกนโยบายคลุมเครือ

ปชป.สแกนนโยบายรัฐบาล “เศรษฐา” “องอาจ” ปรามาส ต่ำกว่ามาตรฐานยุค “ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์” ซัดขาดเป้าหมาย ไร้ตัวชี้วัด หลายเรื่องคลุมเครือ ไม่เห็นทิศทางบี้ “นายกฯนิด” เคลียร์เองเรียกความเชื่อมั่น “เสรี” เผย 59 สว.จองกฐิน โอดได้แค่คนละ 5 นาที ไม่พอ ชำแหละ จ้องขยี้แจกเงินดิจิทัลหัวละหมื่น กระทบวินัย การคลัง “สมชาย” จวกหว่าน 5.6 แสนล้านบาทใส่กระเป๋า 56 ล้านคน ไม่แยกคนจนคนรวย ส่อก่อวิกฤติ ซ้ำรอยฟองสบู่แตก-ต้มยำกุ้ง เหน็บอภิสิทธิ์เอื้อ “ทักษิณ” กระทบความเชื่อมั่นกระบวนการยุติธรรม “อนุทิน” ติวเข้มลูกพรรค จัด 11 สส.จ้ออวดโปรเจกต์ “เศรษฐา” เข้าทำเนียบฯขึ้นตึกไทยฯตรวจห้องทำงาน ประเดิมใช้ “บ้านพิษณุโลก” ถกตั้งต้นปราบยาเสพติด เลือกตั้งซ่อม สส.ระยองเขต 3 “พงศธร” ค่ายก้าวไกล เข้าวินม้วนเดียวจบ

พรรคฝ่ายค้านโหมโรงก่อนขึ้นเวทีอภิปรายเสนอแนะติติงการแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภา ในวันที่ 11-12 ก.ย. โดยพรรคประชาธิปัตย์ระบุจากร่าง คำแถลงนโยบายของนายกรัฐมนตรีเบื้องต้น พบว่า ต่ำกว่ามาตรฐาน เมื่อเทียบกับสมัยรัฐบาลพรรคไทยรักไทย ในยุคนายทักษิณ ชินวัตร และรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

...

ปชป.ขย้ำนโยบายต่ำมาตรฐาน

เมื่อวันที่ 10 ก.ย. ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รักษาการรองหัวหน้าพรรค ปชป. กล่าวถึงการแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภา ระหว่างวันที่ 11-12 ก.ย. ว่า การแถลงนโยบายของ รัฐบาลคือสัญญาประชาคม เป็นเข็มทิศในการทำงาน ตลอด 4 ปีนับจากนี้ไป โดยมีพื้นฐานมาจากนโยบายสาธารณะที่พรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลและพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรค เคยนำเสนอนโยบายมาหาเสียง เพื่อให้ประชาชนใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจในการเลือกตั้ง ฉะนั้นการแถลงนโยบายของรัฐบาล จึงควรทำให้ประชาชนเห็นเป้าหมายและแผนปฏิบัติ การเบื้องต้น ที่พอจะทำให้ประชาชนคาดหวังได้ว่ารัฐบาลจะทำนโยบายให้สำเร็จได้แบบไหนอย่างไร แต่เมื่อพิจารณาร่างคำแถลงนโยบายของนายกรัฐมนตรี ที่จะนำเสนอสมาชิกรัฐสภาในที่ประชุมสภาฯแล้ว เห็นว่ารัฐบาลเพื่อไทยชุดนี้ มีที่มาจากพรรคไทยรักไทย มีมาตรฐานการทำนโยบายต่ำกว่าเดิม ต่ำกว่าสมัยคุณทักษิณและสมัยคุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

ขาดเป้าหมาย-ตัวชี้วัดบี้เคลียร์ 4 ปม

“ในสมัยคุณทักษิณหลายนโยบายมีความชัดเจน เช่น 30 บาทรักษาทุกโรค แม้แต่ในสมัยคุณยิ่งลักษณ์พูดชัดว่า ใน 1 ปี จะมีนโยบายอะไรที่ทำบ้าง แต่นโยบาย ของรัฐบาลนี้จะแบ่งเป็นนโยบายระยะสั้น นโยบายระยะยาว ไม่รู้ว่าสั้นยาวกี่ปี กี่เดือน กี่วัน นายกฯ จึงควรชี้แจงในสภาฯ เพื่อความชัดเจนก่อนจะนำนโยบายไปปฏิบัติดังนี้ 1.นโยบายส่วนมากยังขาดเป้าหมาย และไม่มีตัวชี้วัดที่ชัดเจน พอจะทำให้เห็น ความสำเร็จของนโยบาย 2.ไม่มีนโยบายที่เคยประกาศ หาเสียงไว้หลายเรื่อง บางเรื่องคลุมเครือจนไม่เห็นทิศทางที่แน่ชัดว่าจะทำอย่างไร 3.นโยบายหลายเรื่อง ตอนหาเสียง บอกว่าจะลงมือทำทันทีที่ได้เป็นรัฐบาล แต่ไม่มีปรากฏในนโยบายว่าจะทำทันที 4.รายละเอียดของแผนปฏิบัติการที่พอทำให้มั่นใจได้ว่า จะนำนโยบาย ไปทำให้เกิดผลได้ ไม่ใช่ปล่อยให้รัฐมนตรีชี้แจงจนสับสนอลหม่าน ก่อให้เกิดความไม่มั่นใจว่าจะทำได้ นายกฯควรใช้โอกาสของการแถลงนโยบายนี้ชี้แจงทำความเข้าใจให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่นต่อรัฐบาลให้ได้มากที่สุด เพื่อประโยชน์ในการบริหารงาน ให้เกิดผลสัมฤทธิ์ตามที่ประชาชนคาดหวังต้องการต่อไป” นายองอาจกล่าว

59 สว.คนละ 5 นาทีไม่พอชำแหละ

นายเสรี สุวรรณภานนท์ สว. กล่าวถึงการอภิปราย นโยบายรัฐบาลในวันที่ 11 ก.ย.ว่า ไม่รู้ว่าจะพูดได้ เนื้อหามากแค่ไหน เพราะรอบนี้มี สว.ขออภิปราย 59 คน แต่ สว.ได้รับจัดสรรเวลา 5 ชั่วโมง เฉลี่ยแล้ว ได้พูดคนละ 5 นาทีเท่านั้น ส่วนตัวเตรียมข้อมูลไว้มาก แต่เวลาที่ได้น้อยไป พูดออกไปอาจไม่รู้เรื่อง ต้องไป คุยหน้างานจะหาวิธีแก้ปัญหาอย่างไร เนื้อหาที่เตรียมไว้ จะพูดเรื่องเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท แก้ปัญหาเศรษฐกิจได้ยั่งยืนหรือไม่ ยังไม่รู้จะกระตุ้นเศรษฐกิจได้แค่ไหน ไม่ใช่เงินหมดแล้วกลับมาทุกข์เหมือนเก่า จะกระทบวินัยการเงินการคลังหรือไม่

5.6 แสนล้านแจก 56 ล้านคนไม่สกรีน

นายสมชาย แสวงการ สว.กล่าวว่า ไม่ได้ร่วม อภิปรายนโยบายรัฐบาลรอบนี้ เพราะเวลาที่ สว.ได้รับคนละ 5 นาที คงไม่พอ จึงไม่ได้ร่วม แต่อยากฝากข้อเป็นห่วงโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ที่มีคนได้รับอานิสงส์ 56 ล้านคน ใช้เงิน 5.6 แสนล้านบาท เหตุใดไม่แยกแยะคนรวยออกมา แต่ให้หมด ทุกคนทั้งคนเล่นหุ้น สส. สว. ครม. นักการเมืองท้องถิ่น ข้าราชการประจำ ตำรวจ ทหาร พนักงานบริษัทที่มี เงินเดือนสูงๆไม่สกรีนกันเลย คนเหล่านี้มีเป็นล้านๆคน และทำไมต้องให้คนอายุ 16 ปีขึ้นไป การกระตุ้นเศรษฐกิจ ต้องทำแค่ตามสมควรก็ทะยานได้ ไม่ต้องจ่าย 5.6 แสนล้านบาทรวดเดียว คนรวยไม่เคยเอาเงินตัวเอง มาแจก แต่เอาเงินภาษีประชาชนมาแจกประชาชน ถ้ากระตุ้นสำเร็จก็เป็นเรื่องดี ถ้าไม่สำเร็จอาจเกิดวิกฤติ เศรษฐกิจฟองสบู่แตก เกิดวิกฤติต้มยำกุ้งได้

ยกอภิสิทธิ์ “โทนี่” แซะระบบยุติธรรม

นายสมชายกล่าวว่า อีกเรื่องที่อยากฝากคือ ความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมที่ไม่มีเขียนในนโยบายรัฐบาล กรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ จะเป็นตัวอย่างที่ประชาชนกำลังจับจ้องว่า รัฐบาลจะสร้างความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมได้หรือไม่ นายทักษิณได้รับการพระราชทานอภัยลดโทษ เหลือโทษจำคุก 1 ปี ขณะนี้รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจ แต่เมื่อรักษาตัวจนอาการดีขึ้น ต้องถูกนำกลับไปรักษาตัวที่อยู่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ตามขั้นตอนกระบวนการยุติธรรมปกติ ที่มีขีดความสามารถในการรักษาเพียงพอ รับโทษอยู่ที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์จนครบ 1 ปีโดยไม่มีการขอรับการอภัยโทษเพิ่มเติมอีก จึงจะทำให้เกิดความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ วางหลักกระบวนการยุติธรรม อย่างเสมอภาค มีความเท่าเทียมกันทุกคน จะเป็น จุดเริ่มต้นนำไปสู่การสร้างความปรองดองได้สำเร็จ

นายกฯขยับถกปราบยาเสพติด

สำหรับความเคลื่อนไหวของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง เมื่อเวลา 12.04 น.นายเศรษฐาเดินทางเข้าทำเนียบรัฐบาลเป็นการส่วนตัว โดยสวมเสื้อชุดลำลอง เดินสำรวจพื้นที่ทำเนียบรัฐบาล และขึ้นไปที่ห้องทำงานบนตึกไทยคู่ฟ้า จากนั้นเวลา 12.31 น. นายเศรษฐาเดินทางเข้าไปที่บ้านพิษณุโลก ทันทีที่มาถึงได้โบกมือทักทายสื่อมวลชน ก่อนนำพวงมาลัยไปไหว้สักการะนารายณ์บรรทมสินธุ์ และเดินชมภูมิทัศน์บ้านพิษณุโลก จากนั้นเวลา 13.00 น. นายกฯเป็นประธานการประชุมรับฟังรายงานและติดตามการแก้ปัญหายาเสพติด ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมี นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกฯ นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ส.เข้าร่วม

เล็งใช้บ้านพิษฯประชุม-จัดเลี้ยง

ต่อมา เวลา 14.40 น. ภายหลังการประชุม นายเศรษฐาให้สัมภาษณ์เพียงสั้นๆว่า มีการพูดคุย หารือกันหลายเรื่อง ได้รับฟังข้อมูลจากผู้เข้าร่วมประชุม เมื่อถามว่า ได้สั่งการ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. หรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า ยังสั่งการอะไรไม่ได้ เป็นการมารับฟังข้อมูลเฉยๆ ทั้งนี้ ได้มีโอกาสได้ดูภูมิทัศน์บ้านพิษณุโลก ถือว่าดี สะอาดสะอ้าน การดูแลรักษาดี จะมาใช้บ้านพิษณุโลกประชุมบ้าง จัดเลี้ยงบ้าง แต่จะไม่ได้นอนที่นี่

“บิ๊กโจ๊ก” รับนโยบายฟรีวีซ่า นทท.

ขณะที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เปิดเผยหลังเข้าพบนายกฯว่า นายกฯได้ให้แนวทางนโยบายรัฐบาลจะให้มีฟรีวีซ่า ในส่วนของหน่วยงาน ความมั่นคง โดยเฉพาะสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) มองว่าเป็นเรื่องที่ก่อให้เกิดประโยชน์กับประเทศเป็นอย่างมาก เพราะวันนี้ ขั้นตอนที่นักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าประเทศไทย ในฐานะที่เคยเป็นอดีตผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) มีขั้นตอน ยากลำบากในการเดินทางเข้าประเทศ ดังนั้น วันนี้ การที่เปิดให้มีฟรีวีซ่าจะทำให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศได้ง่ายขึ้น ส่วนนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) โดยเฉพาะตน ลงไปกำกับคือ การเพิ่มมาตรการความปลอดภัยและความมั่นคงต่างๆ เรามีฐานข้อมูลอยู่แล้ว จะไปเน้นย้ำกำชับเรื่องความปลอดภัย ถือเป็น หน้าที่หลักตำรวจ เพื่อรองรับนโยบายนายกฯ จะส่งเสริม ให้ภาคการท่องเที่ยว เครื่องจักรสำคัญของประเทศไทยขับเคลื่อนได้อย่างรวดเร็ว และจะทำให้โรงแรม ร้านค้า ต่างๆของประชาชนกลับมาฟื้นอย่างรวดเร็ว

คน พท.ชงปรับเงื่อนไขแจกเงินหมื่น

น.ส.ณัฐจิรา อิ่มวิเศษ สส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า มั่นใจรัฐบาลจะเริ่มงานแก้ปัญหาให้ประชาชนทันทีหลังเข้าบริหารประเทศอย่างเป็นทางการ รัฐบาลใหม่ไม่มีเวลาฮันนีมูนต้องทำงานหนักทันทีมีหลายปัญหารอให้แก้ไข จะเร่งยกระดับราคาสินค้าเกษตรยกแผงทั้งข้าว ยางพารา มันสำปะหลังที่ปัจจุบันราคาตกต่ำมาก โดยเฉพาะยางพาราเหลือเพียงกิโลกรัมละ 17-18 บาท ส่วนเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ยืนยันจะบรรเทาความเดือดร้อนประชาชน ที่หลายครอบครัวมีรายได้ไม่เพียงพอกับรายจ่าย ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชนได้มาก ส่วนที่กังวลเรื่องข้อจำกัดระยะทางการใช้เงินโครงการดังกล่าว มีพื้นที่ไม่ไกลจากภูมิลำเนา 4 กิโลเมตร ไม่ต้องเป็นห่วง นโยบายดังกล่าวต้องการให้เข้าถึงประชาชน เกิดประโยชน์สูงสุด ดังนั้น สส.เพื่อไทยทุกคนจะนำข้อมูลแต่ละพื้นที่เสนอต่อคณะทำงานพรรคให้นำข้อมูลไปปรับให้เข้ากับแต่ละพื้นที่ เพื่อให้ทุกคนต้องได้ประโยชน์จากโครงการรัฐบาล เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนทั่วประเทศ

ทสท.หนุนเงินดิจิทัลไม่ค้านทุกเม็ด

นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ สส.บัญชีรายชื่อ เลขาธิการพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) กล่าวว่า พรรค ทสท.ได้รับเวลาอภิปรายนโยบายรัฐบาล 50 นาที ตนจะเป็นหัวหน้าทีมพรรค ทสท.นำอภิปรายภาพรวม มี สส.ร่วมอภิปรายนโยบายระดับพื้นที่ ไม่ถือว่าเป็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ดังนั้นพร้อมจะเสนอแนะสิ่งที่เห็นว่าควรจะเสนอแนะให้รัฐบาลไปดำเนินการ เพื่อให้นโยบายภาคปฏิบัติดีขึ้น อย่างโครงการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท พร้อมสนับสนุนจะอภิปรายให้ข้อเสนอแนะด้วย คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรค ทสท. ให้นโยบายว่า แม้เป็นฝ่ายค้านแต่ไม่ค้านทุกเรื่อง เช่น การแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องเร่งสนับสนุนยกมือให้ เพื่อให้รัฐบาลเร่งทำประชามติ ตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ หรือการแจกเงินดิจิทัล เชื่อมกับรายได้ประชาชน รวมถึงนโยบายสาธารณสุข ที่พรรคเตรียมเสนอแนะให้ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข ดำเนินการบัตรประชาชนรักษาได้ทุกโรงพยาบาล มีข้อเสนอแนะเป็นรูปธรรมผ่านฐานข้อมูลประวัติคนไข้กลาง ทำได้สำเร็จและรวดเร็ว

ว่อน “พายัพ ชินวัตร” กุนซือ รมว.กห.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเมื่อวันที่ 9 ก.ย.มีรายงานว่า นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม คัดเลือกทีมงานให้คำปรึกษางานด้านความมั่นคงมีทั้งพลเรือน ตำรวจ ทหาร 13 คน อาทิ “บิ๊กเล็ก” พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ อดีตเลขาธิการ สมช. เป็นเลขานุการ รมว.กลาโหม และ พล.อ.อ.สุรพล พุทธมนต์ อดีตรอง ผบ.ทอ. เป็นผู้ช่วย รมว.กลาโหม ล่าสุดมีเอกสารร่างคำสั่งกระทรวงกลาโหม ที่ไม่มีการลงนามโดย รมว.กลาโหม หลุดว่อนเน็ตอีก เรื่องแต่งตั้งประธานที่ปรึกษา รมว.กลาโหม เลขานุการ รมว.กลาโหม หัวหน้าสำนักงาน รมว.กลาโหม รองหัวหน้าสำนักงาน รมว.กลาโหม และคณะที่ปรึกษา รมว.กลาโหม มีคำสั่งแต่งตั้งบุคคล จำนวน 6 คน คือ 1.นายพายัพ ชินวัตร น้องชายอดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เป็นประธานที่ปรึกษา รมว.กลาโหม 2.นายพอพงษ์ ชินวัตร บุตรชายนายพายัพ เป็นเลขานุการประจำตัว รมว.กลาโหม 3.พล.ท.เดชนิธิศ เหลืองงามขำ เจ้ากรมการเงินกลาโหมเป็นหัวหน้าสำนักงาน รมว.กลาโหม จากเดิมที่เป็นชื่อ พล.อ.เลิศฤทธิ์ ช่องวารินทร์ 4.พล.ท.เพชรรัตน์ ลิ้มประเสริฐ ที่ปรึกษาสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม เป็นรองหัวหน้าสำนักงาน รมว.กลาโหม 5.พล.อ.ต.วรชาติ ฟองชล ผู้ทรงคุณวุฒิสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม เป็นคณะที่ปรึกษา รมว.กลาโหม 6.พล.ต.อัครภณ ทองสุทธิ์ ผู้ชำนาญการสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม เป็นคณะที่ปรึกษา รมว.กลาโหม

“สุทิน” ซัดผู้ไม่หวังดีปล่อยของปลอม

ต่อมาช่วงเที่ยง นายสุทินได้โพสต์เฟซบุ๊กชี้แจงกรณีดังกล่าวว่า ตามที่มีกระแสข่าวว่าตนแต่งตั้งบุคคลรับตำแหน่งต่างๆนั้น ขอเรียนว่ายังไม่มีการแต่งตั้งหรือเตรียมแต่งตั้งใครเลย เพราะ ณ เวลานี้ยังไม่สามารถสั่งราชการได้ ต้องรอกระบวนการตามกฎหมายคือ ต้องหลังจากการแถลงนโยบายต่อสภาฯเสร็จสิ้นสมบูรณ์ เอกสารเรื่องการแต่งตั้งหรือการเตรียมการแต่งตั้งตำแหน่งต่างๆเป็นของปลอมที่เกิดจากผู้ไม่หวังดี

พปชร.รอดูสถานการณ์วันแถลง

เมื่อเวลา 15.25 น. ที่อ่างเก็บน้ำแม่ตาช้าง ต.ป่าแดด อ.แม่สรวย จ.เชียงราย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ถึงการแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภาในวันที่ 11-12 ก.ย. พรรค พปชร.จะมีส่วนร่วมด้วยหรือไม่ว่า นายกฯจะเป็นผู้แถลงแต่เพียงผู้เดียว ก่อนหน้าที่จะออกมาเป็นนโยบาย ได้เชิญฝ่ายนโยบายของแต่ละพรรคไปประชุมหารือกันแล้ว จนออกมาเป็นนโยบายที่จะแถลงในวันดังกล่าว แต่อะไรก็ตามที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงที่พรรค พปชร.กำกับดูแล เราต้องให้ข้อมูลนายกฯหรืออาจจะลุกขึ้นพูดเอง แล้วแต่สถานการณ์ในวันนั้น เมื่อถามว่าได้จัดขุนพลเพื่อเตรียมตอบโต้ฝ่ายค้านหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า เนื่องจากเป็นการแถลงนโยบาย ไม่ใช่การอภิปรายไม่ไว้วางใจ ดังนั้นอยากให้ฝ่ายรัฐบาลฟังแนวความคิดที่ฝ่ายค้านนำเสนอเพื่อให้เกิดประโยชน์กับชาติบ้านเมืองและประชาชนเราต้องรับฟัง อะไรที่สามารถชี้แจงเราชี้แจง อะไรที่ไม่สามารถชี้แจงต้องกลับมาทําการบ้าน เพื่อมาชี้แจงทีหลัง

ยังไม่ชงโผตั้ง ขรก.การเมืองเข้า ครม.

เมื่อถามว่าในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดแรกจะมีการแต่งตั้งข้าราชการการเมืองหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า ในส่วนของพรรค พปชร.ยังไม่มี แต่ในส่วนของพรรคอื่นไม่ทราบ เมื่อถามถึงการแต่งตั้งรองโฆษกรัฐบาล จะมีโควตาของพรรค พปชร.หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า เราในฐานะพรรคร่วมรัฐบาลคงต้องหารือว่าจะเอาอย่างไร ต้องถามนายกฯ และ ครม.ว่าจะตั้งรองโฆษกรัฐบาลกี่คน เรื่องนี้ยังไม่ได้คุยกัน ส่วนโควตานี้มีความจำเป็นต่อพรรค พปชร.หรือไม่ เดี๋ยวค่อยหารือกัน เพราะไม่ใช่ประเด็นสำคัญ

ภท.จัด 11 ขุนพลปูพรมโชว์ของ

เมื่อเวลา 16.00 น. ที่พรรคภูมิใจไทย (ภท.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) เป็นประธานการประชุม สส.และกรรมการบริหารพรรค เตรียมความพร้อมการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อที่ประชุมร่วมรัฐสภา ระหว่างวันที่ 11-12 ก.ย. โดยนายอนุทินกล่าวตอนหนึ่งว่า รัฐบาลจะบริหารราชการแผ่นดินอย่างเต็มรูปแบบได้ ต่อเมื่อนายกฯได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภา ต้องถือว่ารัฐบาลชุดนี้มีการเตรียมตัวแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ด้วยความรวดเร็วมีประสิทธิภาพ รัฐบาลจะใช้โอกาสนี้อธิบายแนวทางการดำเนินงาน พรรค ภท.ต้องใช้โอกาสนี้อภิปรายนโยบายรัฐบาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเด็นที่พรรคเคยหาเสียงไว้หลายๆเรื่อง พรรคได้เตรียมผู้อภิปรายไว้ทั้งสิ้น 11 คน แม้ว่า สส.ของพรรคมีความประสงค์อภิปรายมากกว่านี้ แต่มีข้อจำกัดเรื่องเวลาทำให้พรรคจัดผู้อภิปรายไว้ 11 คน เฉลี่ยคนละ 5-6 นาทีเท่านั้น

เลือกตั้งซ่อมระยองเขต 3 คึกคัก

ส่วนการเลือกตั้งซ่อม สส.ระยอง เขต 3 เมื่อเวลา 08.00 น. มีประชาชนมาลงคะแนนเสียงกันอย่างคึกคัก โดยเฉพาะที่หน่วยเลือกตั้งที่ 5 ศาลาชุมชนบ้านแหลมยาง เทศบาลตำบลเมืองแกลง นพ.บัญญัติ เจตนจันทร์ ผู้สมัครเบอร์ 2 พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) มารอลงคะแนนเสียงตั้งแต่ก่อนเปิดหีบบัตรก่อนถึงเวลาเปิดให้ลงคะแนนโดยตรวจสอบรายชื่ออยู่ในลำดับ 196 แล้วไปลงคะแนนเป็นคนที่ 2 ขณะที่ น.ส.กานต์จรัส เอียดทองใส นายอำเภอแกลง ในฐานะประธานกรรมการการเลือกตั้ง ประจำเขตเลือกตั้งที่ 3 ระยอง กล่าวว่า หน่วยเลือกตั้งทั้ง 207 หน่วยของ อ.แกลงและ อ.เขาชะเมา เรียบร้อยไม่มีปัญหา ประชาชนสนใจมาลงคะแนนกันอย่างคึกคัก

ด้านนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผวจ.ระยอง ตรวจเยี่ยมหน่วยเลือกตั้งที่ 9 เทศบาล ต.เมืองแกลง สมาคมพุทธศาสตร์สงเคราะห์ (โรงเจ) ก่อนไปใช้สิทธิที่วัดดอนมะกอกล่าง หน่วยเลือกตั้งที่ 10 เทศบาลต.ปากน้ำกระแส อ.แกลง พื้นที่บ้านเกิด พร้อมระบุว่าภาพรวมมีผู้มาใช้สิทธิคึกคักกว่า 30 เปอร์เซ็นต์ ยังไม่พบการร้องเรียนการทุจริต มีแต่การโพสต์กันบนโซเชียลเท่านั้น

“เจี๊ยบ” ปูดม่านเทาเต็ม-พนันพรึ่บ

เวลา 15.00 น.นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล อดีต สส.พรรคก้าวไกลและกรรมการบริหารพรรคก้าวไกล พร้อม น.ส.เบญจา แสงจันทร์ น.ส.ณธีภัสร์ กุลเศรษฐสิทธิ์ อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรค ก.ก.ลงพื้นที่ตรวจหน่วยเลือกตั้ง เขต 3 จ.ระยอง โดย น.ส.เบญจากล่าวว่า ภาพรวมเรียบร้อย มีเพียงบางหน่วยมีรายชื่อตกหล่นทำให้เสียสิทธิ ด้านนางอมรัตน์กล่าวว่า ลงพื้นที่ช่วงก่อนเลือกตั้งพบมีการยืนยันจากชาวบ้านในพื้นที่ว่ามีการจ่ายเงินซื้อเสียงหัวละ 2,000 บาท ข้อมูลเชื่อได้แต่เรื่องแบบนี้ไม่มีหลักฐาน ไม่มีใบเสร็จ ทำให้คืนหมาหอน พื้นที่ เขต 3 (อ.แกลง อ.เขาชะเมา) ระยองถูกปกคลุมไปด้วยม่านสีเทา นอกจากนี้ ช่วงครึ่งวันแรกพบว่าปัญหารายชื่อผู้ใช้สิทธิตกหล่น แต่เจ้าหน้าที่กลับบอกให้กลับไป แต่ผู้ใช้สิทธิไม่ยอม สุดท้ายจึงได้เลือกตั้ง หากเป็นประชาชนที่ยอมทำตามเจ้าหน้าที่บอกเท่ากับเสียสิทธิไปเลย ขอฝากให้กำลังใจ กกต.ระยอง ที่ทำงานอย่างแข็งขัน

กกต.ระยองทำใจคนใช้สิทธิต่ำเป้า

เมื่อเวลา 18.37 น. นายใจเพชร สาครพานิช ผอ.การเลือกตั้งประจำ จ.ระยอง (กกต.ระยอง) ให้สัมภาษณ์ถึงภาพรวมหลังปิดหีบเลือกตั้งซ่อมเขตเลือกตั้งที่ 3 จังหวัดระยองว่า ผลคะแนนเริ่มรายงานมาแล้ว คะแนนผู้สมัครพรรค ก.ก. นำอยู่มาก เบื้องต้นได้ประมาณ 19,000 คะแนนเศษ พรรค ปชป.ได้ประมาณ 11,000 คะแนนเศษ คะแนนเริ่มห่างออกไปเรื่อยๆ ผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งประมาณกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ของผู้มีสิทธิเลือกตั้งจากทั้งสิ้น 207 หน่วยเลือกตั้ง ตามเป้าตั้งไว้ 60 เปอร์เซ็นต์ ถือว่าเรียบร้อยดี คงไม่คึกคักเหมือนการเลือกตั้งทั่วไป ทั้งนี้ยังไม่ได้รับเรื่องร้องเรียนและเรื่องร้องคัดค้าน จะนำผลคะแนนนำส่งไปให้คณะกรรมการการเลือกตั้งในวันที่ 11 ก.ย. เพื่อให้พิจารณาประกาศรับรองผลการเลือกตั้งต่อไป

“พงศธร” ชนะทิ้งขาด ปชป.

ต่อมาเวลา 19.00 น. ผลการนับคะแนนครบ 100 เปอร์เซ็นต์ อย่างไม่เป็นทางการพบว่า นายพงศธร ศรเพชรนรินทร์ เบอร์ 1 พรรค ก.ก.ได้ 39,296 คะแนน ทิ้งห่าง นพ.บัญญัติ เจตนจันทร์ เบอร์ 2 พรรค ปชป. ที่ได้ไป 26,466 คะแนน และร.ต.ต.เรือง สมบัติภูธร เบอร์ 3 จากพรรคแรงงานสร้างชาติ ได้ไปเพียง 881 คะแนน ถือว่านายพงศธรชนะขาดแบบม้วนเดียวจบ

“พิธา” อ้อนขอให้เลือก ก.ก.ตลอดไป

เมื่อเวลา 20.30 น. ที่ร้านกาแฟเพิ่ม Shot ต.ทุ่งควายกิน อ.แกลง จ.ระยอง นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค ก.ก. นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล อดีตกรรมการบริหารพรรค สส.ระยอง พรรค ก.ก.ทั้ง 4 เขต และนายพงศธร ศรเพชรนรินทร์ ผู้สมัครเลือกตั้งซ่อม สส.ระยอง เปิดแถลงข่าวหลังคว้าชัยชนะเหนือคู่แข่ง ท่ามกลางแฟนคลับจำนวนมากมาร่วมฉลองชัยชนะ โดยนายพิธากล่าวว่า ขอขอบคุณพี่น้องผู้มาใช้สิทธิและผู้มาช่วยหาเสียงทุกคน และขอบคุณ นพ.บัญญัติที่ลงพื้นที่หาเสียงอย่างหนัก จะใช้การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นกระดุมเม็ดแรกในการหาเสียงครั้งต่อไป ขอแสดงความยินดีกับนายพงศธรที่ได้รับชัยชนะ ขอบคุณผู้เลือกพรรค ก.ก.ครั้งนี้ แต่ครั้งที่แล้วไม่ได้เลือก ขอให้เลือกพรรค ก.ก. ตลอดไป

ด้านนายพงศธรกล่าวว่า พร้อมเป็นผู้แทนของพี่น้องเขต 3 ระยอง จะไม่ไปไหนจะยังคงลงพื้นที่ทำงานต่อไป ทั้งเรื่องสวัสดิการ การท่องเที่ยว สิ่งแวดล้อมและความเดือดร้อนทุกปัญหา

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

ระเบิด ‘เพจเจอร์’ เทคโนโลยียุคเก่าที่กลับมาได้รับความนิยมในวงการแพทย์

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า ความเป็นที่นิยมของ “โทรศัพท์มือถือ” จนกลายเป็นเครื่องมือสื่อสารหลักของโล...

เปิดเหตุผล 'ไปรษณีย์ไทย' ทำไมโดดร่วมสมรภูมิ 'เวอร์ชวลแบงก์'

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย.) เป็นวันปิดรับคำขออนุญาตจัดตั้ง ธนาคารพาณิชย์ไร้สาขา (เวอร์ชวลแ...

แกะกล่อง 'iPhone 16' และ 'iPhone 16 Pro Max' ส่องจุดเด่น มีลูกเล่นอะไรใหม่

แกะกล่องเป็นกลุ่มแรกๆ กับ iPhone 16 และ iPhone 16 Pro Max ที่วันนี้ KT Review จะพาไปดูว่าหนึ่งรุ่นเร...

‘ไมโครซอฟท์ - กูเกิล’ มอง ‘Digital Trust’ วาระท้าทาย ชีวิตบนโลกดิจิทัล

สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA) จัดงาน “60 Years OF EXCELLENCE” ฉลองครบรอบ 60 ปี เชิญผู้นำจา...