ครม. “เศรษฐา” ไฟเขียวหวยเกษียณ “เผ่าภูมิ” อวยหวยขูดดิจิทัลลุ้น 3 เด้ง รับรางวัลเงินล้าน-บำเหน็จครบ 60 ปี-ผลตอบแทนการลงทุนผ่าน กอช.ตั้งเงื่อนไขจำกัดซื้อสูงสุดไม่เกิน 3 พันบาทต่อเดือน นายกฯฟุ้งเพิ่มการออม คืนเงินบำเหน็จลดภาระงบฯดูแลกลุ่มเปราะบางหลังเกษียณ 24 ก.ค. แจงรายละเอียดเงินดิจิทัลวอลเล็ต พท.เหยียบคันเร่งผ่านงบฯ 1.22 แสนล้านแจกเงินหมื่น “วันนอร์” ชี้ช่องทางด่วนผ่าน 3 วาระรวด ปลัด ยธ.ชี้ “ทักษิณ” พ้นโทษ 22 ส.ค. ตามเกณฑ์ปกติทั่วไป ไม่มีเงื่อนไขพิเศษ “โรม” เหน็บสังคมจับตาสับสนบทบาท 2 นายกฯ ก่อปัญหาเชิงบริหาร ก.ก.ยื่น 2 คำโต้แย้งสู้คดียุบพรรค “ชัยธวัช” ฉะ กกต.ชงยุบพรรคโดยมิชอบ รับฟังเอกสารจากหน่วยราชการฝ่ายเดียว ปิดโอกาสชี้แจง ขอศาลรัฐธรรมนูญเปิดไต่สวน-เรียกเอกสารเพิ่มเติม
รัฐบาลภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทย (พท.) พยายามผลักดันนโยบายตามที่พรรค พท.ได้หาเสียงเอาไว้ให้มีผลออกมาเป็นรูปธรรม นอกจากเร่งผลักดันโครงการเติมเงิน 10,000 บาทผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ที่กำหนดเริ่มเปิดรับลงทะเบียนในวันที่ 1 ส.ค. ล่าสุด ครม.ได้ให้ความเห็นชอบโครงการหวยเกษียณ เพื่อสร้างการออม
...
นายกฯเรียกถก รมต.เพื่อไทย
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 16 ก.ค.ที่ห้องประชุม 501 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยนายกฯเดินลงมาจากตึกไทยคู่ฟ้า พร้อมกับนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและ รมว.พาณิชย์ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รมว.ดิจิทัล เพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง และนายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง หลังได้พูดคุยถึงเรื่องของการทำงาน รวมถึงได้มีข้อสั่งการเรื่องงานต่างๆ บนตึกไทยคู่ฟ้า ขณะที่การประชุม ครม.ครั้งนี้มี 5 รัฐมนตรีลาการประชุม 1.พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 2.นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯ และ รมว.พลังงาน 3.นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม 4.นายสุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์และ 5.นายเกรียง กัลป์ตินันท์ รมช.มหาดไทย
ครม.ไฟเขียวโครงการหวยเกษียณ
ต่อมาเวลา 12.30 น. นายเศรษฐาแถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุม ครม. เห็นชอบในหลักการที่กระทรวงการคลัง เสนอแนวทางในการส่งเสริมการออมทรัพย์ของสมาชิกกองทุนการออมแห่งชาติ เพื่อรองรับการเกษียณผ่านโครงการสลากสะสมทรัพย์เพื่อเงินออมยามเกษียณ เป็นสลากดิจิทัลผ่านช่องทางออนไลน์ จำกัดการซื้อสลากต่อคนได้สูงสุดไม่เกิน 3,000 บาทต่อเดือน โดยจำนวนเงินที่ซื้อสลากจะถูกเก็บสะสมเฉพาะบุคคล โดยจะได้รับเงินที่ซื้อสลากคืนทั้งหมดในรูปแบบของเงินบำเหน็จเมื่ออายุ 60 ปีบริบูรณ์ ปัจจุบันเป็นที่ทราบกันดีว่ารัฐบาลได้ใช้งบประมาณในการดูแลผู้สูงอายุเป็นจำนวนมาก โดยโครงการนี้จะเกิดประโยชน์ในการส่งเสริมให้เกิดการออม รัฐบาลสร้างแรงจูงใจในรูปแบบของเงินรางวัล และทำให้รัฐสามารถลดงบประมาณในการดูแลกลุ่มเปราะบางเฉพาะนี้
ผู้สื่อข่าวถามว่า โครงการเงินเกษียณได้มีการประเมินหรือไม่ว่าจะได้ประโยชน์กับประชาชนอย่างไร และจะได้รับความนิยมแค่ไหน นายกฯกล่าวว่า ได้บอกไปแล้วเป็นเรื่องของการออม และจะช่วยกลุ่มที่เปราะบางเวลาเกษียณที่จะได้รับเงินคืน
24 ก.ค.รอฟังดิจิทัลวอลเล็ตชัดๆ
นายเศรษฐากล่าวอีกว่า กรณีที่โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า โครงการดิจิทัลวอลเล็ตเปิดลงทะเบียนได้ในวันที่ 1 ส.ค. แสดงว่ามีความก้าวหน้าและมีความพร้อมแล้วใช่หรือไม่ว่า ครับตามนั้น ตามที่เสนอไป เมื่อถามว่าต้องมีอะไรเพิ่มเติมในเรื่องที่ต้องชี้แจงทำความเข้าใจหรือไม่ นายกฯกล่าวว่า ให้คอยวันที่ 24 ก.ค. เมื่อถามอีกว่า ระยะเวลาการใช้ไม่เกิน 6 เดือนใช่หรือไม่ นายกฯกล่าวว่า ตามนั้นครับ ส่วนระยะเวลาการลงทะเบียนประมาณ 1 เดือนครึ่ง สำหรับการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ 2567 ที่ ครม.เสนอวงเงินจำนวนไม่เกิน 122,000 ล้านบาท จะเข้าร่วมประชุมสภาฯด้วย จะมีการแถลง เข้าใจว่าต้องมีการอ่านนิดหน่อย
กำชับดีอีสกัดเฟกนิวส์
นายกฯกล่าวต่อว่า ก่อนการประชุม ครม.ช่วงเช้ามีรัฐมนตรีหลายท่านมาพบและพูดคุยกัน นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง ที่กำกับดูแลกรมธนารักษ์ ได้กำชับให้ลงพื้นที่ให้บ่อยมากขึ้น แม้จะลงอยู่แล้วอยากให้ลงพื้นที่เพิ่ม ส่วนนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รมว.ดิจิทัลฯได้คุยกันถึงการลงพื้นที่เช่นเดียวกัน รวมทั้งให้ดูแลเฟกนิวส์ ช่วงนี้มีเยอะเหลือเกิน และได้คุยกับนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง เรื่องทั่วไป ตามโครงการต่างๆของกระทรวงการคลัง เราจะมีการพูดคุยกับรัฐมนตรีจากกระทรวงการคลังทั้ง 3 ท่าน บวกกับอธิบดีที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับการจัดหารายได้ในวันวันศุกร์ที่ 19 ก.ค.ให้โจทย์ไปว่า จะพูดคุยเรื่องอะไร ส่วนใหญ่ติดตามงานธรรมดาไม่ได้มีอะไร ปัญหาเฟกนิวส์ที่น่าเกลียดมาก มันไม่เป็นความจริง และปัจจุบันสังคมถูกชี้นำในทางที่ผิดเยอะเหลือเกิน ปัญหาเยอะอยู่แล้ว ตรงนี้จึงได้กำชับรัฐมนตรีไปแล้ว เฟกนิวส์มีหลายอย่างมาก แต่อย่าไปให้ราคาตรงนั้นเลยดีกว่า เดี๋ยวจะไปช่วยขยายผลในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เชื่อว่าทุกคนรู้อยู่แล้วว่าเป็นเรื่องอะไร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเสร็จสิ้นการแถลงข่าว นายกรัฐมนตรีได้กลับขึ้นไปยังห้องทำงานบนตึกไทยคู่ฟ้า มีรายงานว่านายจักรพงศ์ แสงมณี รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ น.ส. สุดาวรรณ หวัง ศุภกิจโกศล รมว.วัฒนธรรม และนายจุลพันธ์ขึ้นไปหารือต่อ และมีนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ต่างประเทศขึ้นไปรอพบนายกฯด้วยเช่นกัน
จำกัดซื้อได้เดือนละไม่เกิน 3 พัน
นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง เปิดเผยว่า ตามที่ ครม.เห็นชอบในหลักการโครงการสลากสะสมทรัพย์เพื่อเงินออมยามเกษียณ หรือหวยเกษียณ จูงใจให้ประชาชนเกิดการออมและมีเงินออมในยามเกษียณ ตามแนวทางในการส่งเสริมการออมทรัพย์ของสมาชิกกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) ต้องแก้ไข พ.ร.บ.กองทุนการออมแห่งชาติ พ.ศ.2554 รองรับโครงการสลากสะสมทรัพย์และต้องนำเข้า ครม.และรัฐสภาก่อน คาดว่าเร็วที่สุดโครงการหวยเกษียณจะดำเนินการได้ต้นปี 68 นายกฯสั่งการว่าได้เสียงตอบรับที่ดี ประชาชนรออยู่จะเร่งให้เร็วที่สุด สำหรับหลักเกณฑ์ ดังนี้ 1.ผู้ออมซื้อสลากขูดดิจิทัลผ่านแอปพลิเคชัน กอช.ใบละ 50 บาท ซื้อได้ไม่เกิน 3,000 บาทต่อเดือน 2.ซื้อได้ทุกวันตลอด 24 ชม. จะออกรางวัลทุกวันศุกร์ เวลา 17.00 น. 3.รางวัลที่ 1 เป็นจำนวนเงิน 1,000,000 บาท จำนวน 5 รางวัล และรางวัลที่ 2 จำนวนเงิน 1,000 บาท จำนวน 10,000 รางวัล ผู้ถูกรางวัลถอนเงินรางวัลได้ทันที หากรางวัลออกไม่ครบทบไปงวดต่อไป
ลุ้น 3 เด้งรางวัล-เงินออม-ดอกผล
นายเผ่าภูมิกล่าวอีกว่า 4.ไม่ว่าถูกรางวัลหรือไม่ถูกรางวัลเงินที่ซื้อสลากทุกบาทจะถูกเก็บไว้ในบัญชีเงินออมของแต่ละบุคคล ผ่าน กอช.และจะถอนคืนได้ตอนอายุ 60 ปี เพื่อการออมทรัพย์รองรับการเกษียณ 5.เงินในบัญชีนั้นยังได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนตลอดระยะเวลาก่อนเกษียณผ่าน กอช. “หวยเกษียณ หวยที่เงินไม่หาย หวยที่ไม่มีวันถูกกิน ซื้อมาก ได้ลุ้นมาก ได้ออมมาก มีเงินเก็บมากในยามเกษียณ และหวย 3 เด้ง ได้ลุ้นเงินล้านทุกสัปดาห์ ได้ออมเงินทุกบาททุกสตางค์ ได้ผลตอบแทนการลงทุน” ช่วงแรกผู้เข้าร่วมโครงการเป็น 3 กลุ่มคือ ต้องเป็นสมาชิก กอช.อยู่แล้ว เป็นแรงงานนอกระบบและผู้ประกันตน ตามมาตรา 40 สมาชิกแห่ง พ.ร.บ.ประกันสังคม พ.ศ.2533 ผู้ประกอบอาชีพอิสระและแรงงานนอกระบบที่มีอายุ 15-60 ปีบริบูรณ์ รัฐบาลสนับสนุนงบฯเป็นเงินรางวัล 1 งวดใช้ 15 ล้านบาท ใน 1 เดือนใช้ 60 ล้านบาท และใน 1 ปีใช้ 700-800 ล้านบาท รัฐบาลจะตั้งงบฯให้ ถือเป็นเงินที่ค่อนข้างต่ำถ้าเปรียบเทียบกับเบี้ยคนชราที่ดูแลคนสูงวัย และใช้เงินไม่มากสร้างแรงจูงใจให้ประชาชนออมเงิน ส่วนเฟส 2 และเฟส 3 จะรีบพิจารณาโดยเร็ว ขอให้เริ่มเฟส 1 ก่อน
ออกทุกศุกร์งวดละ 5 ล้านใบ
นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า เป้าหมายโครงการให้มีผู้เข้าร่วมไม่น้อยกว่า 5 ล้านคน ภายใน 3 ปี รูปแบบ คือ 1.ออกสลากเริ่มต้นประมาณ 5 ล้านใบต่องวด (ต่อสัปดาห์) หรือ 260 ล้านใบต่อปี ออกรางวัลทุกวันศุกร์ (รวม 52 งวดต่อปี) ราคาขายใบละ 50 บาท คิดเป็นเงิน 250 ล้านบาทต่องวด หรือ 13,000 ล้านบาทต่อปี 2.รูปแบบเป็นสลากดิจิทัล (สลากขูดดิจิทัล) ผู้ซื้อลงทะเบียนการซื้อและซื้อผ่านแอปพลิเคชันที่ผูกกับบัญชีธนาคาร จำกัดการซื้อต่อคนสูงสุดไม่เกิน 3,000 บาทต่อเดือน หรือคนละไม่เกิน 60 ใบต่องวด 3.จำนวน เงินที่ซื้อสลากจะถูกเก็บเป็นเงินสะสมเฉพาะบุคคล โดยจะได้รับคืนทั้งหมดเป็นเงินบำเหน็จเมื่ออายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ ทั้งนี้ รัฐบาลไม่สมทบเงินให้ผู้ซื้อสลากและไม่รับประกันผลตอบแทน 4.เมื่อสมาชิกอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ กอช.จะจ่ายเงินบำเหน็จผ่านพร้อมเพย์เลขบัตรประจำตัวประชาชน หรือจ่ายเงินบำเหน็จให้ผู้รับผลประโยชน์ผ่านพร้อมเพย์เลขบัตรประจำตัวประชาชน กรณีสมาชิกเสียชีวิต
รัฐประเดิมตั้งงบฯปีแรก 830 ล้าน
นายชัยกล่าวอีกว่า ในปีแรกใช้งบฯ 830 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินรางวัล 780 ล้านบาทต่อปีรัฐบาลจะตั้งงบฯให้ใหม่ คิดเป็น 6% ของเงินซื้อสลากสะสมเข้ากองทุนประมาณปีละ 13,000 ล้านบาท การพัฒนาแอปพลิเคชัน ระบบ Clearing และระบบงานที่เกี่ยวข้อง 20 ล้านบาท และโครงสร้างพื้นฐาน 30 ล้านบาท จะใช้งบของ กอช.เอง สมมติอายุ 50 ปี ซื้อทุกเดือนเป็นเงิน 3,000 บาท 10 ปีจนอายุ 60 ปี จะออมเงินได้ 360,000 บาท ถ้าเริ่มอายุ 30 ปี ซื้อทุกเดือน เดือนละ 3,000 บาทจนถึง 60 ปี จะออมเงินได้ 1.08 ล้านบาท ถ้าอายุ 15 ปี ซื้อทุกเดือน เดือนละ 3,000 บาทจนอายุ 60 ปี
จะออมเงินได้ 1.62 ล้านบาท
“วันนอร์” ชี้ใช้ทางด่วน 3 วาระรวดได้
ที่รัฐสภา นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมปี 2567 ว่า ได้มอบให้ นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาฯ เชิญตัวแทนรัฐบาล และคณะกรรมการประสานงาน (วิป) ทั้งพรรคร่วมฝ่ายค้าน และรัฐบาลมาประชุมหารือเพื่อกำหนดกรอบเวลา และทิศทางการพิจารณาจะแบ่งกันอย่างไร คิดว่าคงเรียบร้อย เป็นการพิจารณางบเพิ่มเติมที่รัฐบาลเสนอเข้ามา ทราบว่าจะใช้เวลาวันที่ 17 ก.ค.เพียงวันเดียว น่าจะเพียงพอ เป็นงบประมาณก้อนเดียว ไม่ได้แยกเป็นรายกระทรวง หรือมีรายละเอียดมากมาย รัฐบาลต้องชี้แจงว่า ขอเท่าไหร่ มาจากไหน ใช้อย่างไร สมาชิกอภิปรายเห็นด้วยหรือไม่ ส่วนจะพิจารณา 3 วาระรวดหรือไม่นั้น หากเห็นว่า มีเพียงมาตราเดียวจะเอา 3 วาระรวดต้องแล้วแต่ที่ประชุม
พท.เหยียบคันเร่งผ่านงบเงินดิจิทัล
นายดนุพร ปุณณกันต์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันที่ 17 ก.ค. เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปี 2567 วงเงิน 1.22 แสนล้านบาท วาระที่ 1 พรรค พท.มีความพร้อมอภิปรายสนับสนุน และยืนยันถึงความจำเป็นร่างกฎหมายดังกล่าว นำไปดำเนินนโยบายเร่งด่วนกระตุ้นเศรษฐกิจในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจ 10 ปีที่ผ่านมาถึงปัจจุบันอยู่ในภาวะซึมลึกซบยาว ทั้งก่อนช่วงโควิด ช่วงฟื้นตัวหลังโควิดทำได้ไม่เต็มศักยภาพ เศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัว จีดีพีปี 2566 ไม่ถึง 2% อยู่ที่ 1.9% พรรค พท.ไม่สามารถดูประชาชนยากลำบากได้อีกต่อไป ร่างกฎหมายฉบับนี้จำเป็นเร่งด่วนต่อการปั๊มหัวใจระบบเศรษฐกิจ ปั๊มหัวใจประชาชน หากร่างกฎหมายดังกล่าวผ่านความเห็นชอบจากสภาฯวาระ 2-3 แล้ว สว.น่าจะพิจารณาได้ในช่วงต้นเดือน ส.ค. มั่นใจทันต่อโครงการดิจิทัล วอลเล็ตตามแผนแน่นอน พรรค พท.ส่งสัญญาณร้ายมาตลอดเศรษฐกิจแย่ จำเป็นต้องกระตุ้นเศรษฐกิจ ทางไหนทำได้จะเดินหน้า จะไม่ติดกับดักความสงสัยที่สร้างความสับสนให้สังคม หากฝ่ายค้านเห็นต่างเป็นเรื่องความสวยงามระบอบประชาธิปไตย แต่ต้องอยู่บนพื้นฐานความเป็นจริง มองความเดือดร้อนประชาชนด้วยใจที่เป็นธรรม
“ธรรมนัส” แจงมุกดูแลพรรคเล็ก
ที่ทำเนียบรัฐบาล ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรฯ ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงกรณีระบุถึงพรรคเล็กอยู่ภายใต้การดูแลของพรรคภูมิใจไทย (ภท.) และพรรค พปชร. ในงานเลี้ยงพรรคร่วมรัฐบาลเมื่อวันที่ 15 ก.ค.ว่า เป็นแค่มุกที่หยอกนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรค ภท. เมื่อถามว่าเรื่องจริงเป็นอย่างไร ร.อ.ธรรมนัสตอบแบบยิ้มๆว่า เรื่องจริงก็คือเรื่องจริง เป็นเรื่องของการร่วมอุดมการณ์กันมากกว่า พรรคเล็กหลายพรรคร่วมรัฐบาลอยู่ เมื่อถามอีกว่าจะถึงขนาดยุบพรรคเล็กมารวมกับพรรคใหญ่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสตอบว่า คงไม่ เพราะหัวหน้าพรรคแต่ละพรรครักษาพรรคของตนเอง เมื่อถามย้ำว่า เป็นแค่เรื่องของอุดมการณ์ และเป็นพรรคสาขาไปเรื่อยๆแบบนี้ใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส ตอบว่า “ร่วมรัฐบาล”
ย้ำ อจ.ต้องรับผิดชอบปม “หมอเกศ”
ร.อ.ธรรมนัสยังกล่าวถึงกรณีดราม่าวุฒิปริญญาเอกจาก California University ของ พญ.เกศกมล เปลี่ยนสมัย สว.ว่า ได้พูดไปหมดแล้ว เมื่อถามว่า ได้ติดต่อพูดคุยกับนายสุขุมพงศ์ ชาญนุวงศ์ อุปนายกสมาคมนิติธรรมหรรษา (ประเทศไทย) อาจารย์ที่ปรึกษาทำวิทยานิพนธ์ ที่เป็นปรึกษาคนเดียวกันกับ พญ.เกศกมลหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสตอบว่า ไม่ใช่หน้าที่ โดยบอกไปแล้วว่าครูบาอาจารย์ผู้เป็นเจ้าของโครงการต้องรับผิดชอบผู้เป็นลูกศิษย์ของตัวเองเท่านั้นเองไม่มีเรื่องอื่น ไม่ทราบว่าเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาคนเดียวกัน เมื่อถามว่า เรื่อง “หมอเกศ” จะกระทบมาถึงตัว ร.อ.ธรรมมนัสด้วยหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสตอบว่า ไม่เห็นจะเกี่ยวตรงไหนเลย เพราะการสมัคร สส.ปี 2566 ตนใช้วุฒิปริญญาตรีสมัคร
อว.เผยไม่เคยเทียบวุฒิ ม.แคลิฟอร์เนีย
ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รมว.การอุดมศึกษาฯ (อว.) กล่าวว่า กรณี พญ.เกศกมล ใช้วุฒิจาก California University หากจบการศึกษาในไทย อว.ต้องเป็นผู้รับรองตั้งแต่เริ่มทำหลักสูตร แต่หากจบจากต่างประเทศ และประสงค์จะนำกลับมาใช้ในไทย ต้องยื่นเรื่องขอเทียบคุณวุฒิกับ อว. เนื่องจากมีมหาวิทยาลัยในความดูแลมากกว่า 1 หมื่นแห่ง เราไม่สามารถไปขึ้นบัญชีได้ทั้งหมด แต่กรณี California University ตรวจสอบแล้วยังไม่มีผู้มายื่นขอเทียบคุณวุฒิ ยังไม่เคยมีการรับรองวุฒิให้ ต้องรอให้มีผู้มายื่นเรื่องก่อนถึงจะเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบ อีกเรื่องตำแหน่งศาสตราจารย์ ต้องทำเรื่องขอตำแหน่งทางวิชาการ มีขั้นตอนยื่นผ่านมหาวิทยาลัยในไทยแล้วต้องส่งเรื่องมายัง อว.เพื่อขอโปรดเกล้าฯ มีคณะกรรมการและขั้นตอนพิจารณาอยู่แล้ว กรณี พญ.เกศกมล เรื่องไม่มาถึง อว. แต่เมื่อเห็นกรณีศึกษาเช่นนี้ น่าต้องกลับไปทบทวนบทบาทของ อว.กรณี professor ที่รับรองจากต่างประเทศ และต้องการมาทำงานในไทย อาจต้องส่งมาให้ อว.รับทราบและช่วยตรวจสอบ เพราะถือเป็นปัญหาสังคม และเรื่องค่อนข้างซีเรียส
ยันตำแหน่งศาสตราจารย์ยังใช้ไม่ได้
เมื่อถามว่า เป็นข้อยืนยันว่าอาจจะไม่ใช่วุฒิปริญญาเอกจริงๆใช่หรือไม่ น.ส.ศุภมาสตอบว่า ปริญญาเอกนี้ชอบหรือไม่ชอบ ใช่หรือไม่ใช่ ผู้ที่จะต้องสืบหาความจริงต้องเป็นกระทรวงของสหรัฐอเมริกา หรือผู้ที่มีหน้าที่อนุมัติหลักสูตรของสหรัฐฯประเทศต้นทาง อว.อาจจะช่วยพิสูจน์ มีหน้าที่ตามกระบวนการดูว่าสามารถเทียบวุฒิได้หรือไม่ เมื่อถามว่า ตำแหน่งศาสตราจารย์ของ พญ.เกศกมล ใช้การกรอกข้อมูลต่างๆในไทยได้หรือไม่ น.ส.ศุภมาสตอบว่า “น่าจะยังใช้ไม่ได้ จะใช้ได้ในกรณีที่มหาวิทยาลัยไทยเป็นผู้เทียบให้ แต่จะไม่เหมือนกับปริญญาที่ อว.เป็นผู้เทียบให้ แต่ตำแหน่ง professor มหาวิทยาลัยที่เขาจะเข้าไปทำงานรับเงินเดือนจะเป็นผู้เทียบให้”
เมื่อถามว่า หากใช้ตำแหน่งศาสตราจารย์ในไทยโดยที่ยังไม่มีมหาวิทยาลัยใดเทียบให้มีความผิดหรือไม่ น.ส.ศุภมาสตอบว่า ยังไม่แน่ใจข้อกฎหมาย ขอกลับไปศึกษาดูก่อน
ม.แม่โจ้ยัน “หมอเกศ” ยังเป็น นศ.
นายกอบลาภ อารีศรีสม ประธานกรรมการผู้รับผิดชอบหลักสูตร ปรัชญาดุษฎีบัณฑิตสาขาการจัดการและพัฒนาทรัพยากร คณะผลิตกรรมการเกษตร ม.แม่โจ้ จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า กรณีที่พบว่า พญ.เกศกมล เปลี่ยนสมัย สว.มีประวัติการศึกษาที่ปรากฏตามสื่อต่างๆเป็นปริญญาเอก สาขาวิชาการจัดการและพัฒนาทรัพยากร ม.แม่โจ้ พญ.เกศกมล ได้ลงเรียนปริญญาเอกสาขานี้จริง เป็นหลักสูตร 3 ปี มีสถานะเป็นนักศึกษาปัจจุบัน ปี 2 เทอม 1 อยู่ระหว่างเตรียมสอบวัดคุณสมบัติปริญญาเอก หากผ่านแล้วจะเข้าสู่ขั้นตอนการทำโครงร่างงานวิจัย สัมมนาและทำดุษฎีนิพนธ์ตามลำดับ ก่อนหน้านี้เคยแจ้งให้ พญ.เกศกมล เพิ่มข้อความว่า อยู่ระหว่างการศึกษาไปแล้ว แต่เจ้าตัวบอกว่าไม่ได้ไปบอกใครแบบนี้ แต่สื่อที่นำไปเผยแพร่กันเอง
ปลัด ยธ.ยันเป็นเรื่องปกติ-ไร้เงื่อนไข
นางพงษ์สวาท นีละโยธิน ปลัดกระทรวงยุติธรรม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีวันพ้นโทษของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯว่า เป็นไปตามปกติ ซึ่งขณะนี้อยู่ในความดูแลของกรมคุมประพฤติ เมื่อถามว่า กำหนดพ้นโทษของนายทักษิณคือวันไหน นางพงษ์สวาทกล่าวว่า คือวันที่ 22 ส.ค. ขั้นตอนหลังจากนั้นศาลจะออกหมายปล่อย และจากนั้นนายทักษิณจะได้รับใบบริสุทธิ์ เปรียบเสมือนประชาชนทั่วไปตามปกติ ไม่มีเงื่อนไขใดๆ
“โรม” ตั้งป้อมจิก “ทักษิณ” คัมแบ็ก
ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) กล่าวถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เตรียมเข้ามาทำงานกับพรรค พท.หลังพ้นโทษว่า เป็นสิทธิที่ทำได้ หากเป็นไปตามกฎหมาย การตั้งนายทักษิณมาช่วยทำงานต้องไปพิจารณาว่า ทำได้มากน้อยแค่ไหน ทางการเมืองมีฝ่ายที่คัดค้านบทบาทนายทักษิณ ถ้านายทักษิณได้รับมอบหมายให้มีความรับผิดชอบอย่างเป็นทางการ และตามกฎหมายจริง พรรค ก.ก.พร้อมตรวจสอบ อำนาจ และการใช้งบฯว่าถูกต้องหรือไม่ ส่วนตัวมองว่า บทบาทนายทักษิณที่ผ่านมา ลงพื้นที่มีรัฐมนตรีเดินตาม ทำให้เกิดคำถามใครคือนายกฯตัวจริง เมื่อมีรัฐมนตรีเดินตามไม่ส่งผลดีต่อนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯแน่นอน คนที่เฝ้ามองการเมืองคงคิดมาก ปฏิเสธวาระเชื่อมโยงทางการเมืองไม่ได้ เป็นเรื่องสำคัญของประเทศ หากเกิดลักษณะมีนายกฯ 2 คน จะมีปัญหาบริหารราชการแน่นอน เช่น สมัยก่อนเมียนมามีนางอองซาน ซูจี เป็นผู้มีบทบาท แต่เป็นนายกฯไม่ได้ เป็นภาวะดูไม่ปกติ ไม่รู้นายทักษิณ คิดโมเดลแบบนี้หรือไม่ แต่ไม่ว่าใช้โมเดลใด ประเทศมีปัญหาแน่นอน
ขยี้สังคมสับสนบทบาทนายกฯ 2 คน
เมื่อถามว่า การเคลื่อนไหวนายทักษิณส่งผลถึงพรรค ก.ก.หรือไม่ ทั้งในการเมืองท้องถิ่นหรือระดับชาติ นายรังสิมันต์ตอบว่า ต้องว่าตามกติกา ยุคนี้ ประชาชนอยากเห็นการเมืองมีเสถียรภาพ ไม่เล่นละคร จุดขายพรรค ก.ก.คือ ทำหน้าที่ตรงไปตรงมา ได้รับการตอบสนองที่ดีจากประชาชน ใช้อำนาจตรงไปตรงมา หากเป็นการเมืองแบบชักใย มีคนที่ใช้อำนาจ แต่อีกคนรับผิดชอบอำนาจ ทำให้การบริหารราชการมีปัญหา หากนายทักษิณมีตำแหน่งทางการเมือง นายทักษิณต้องอยู่ภายใต้การตรวจสอบ วันนี้สังคมรู้สึกว่า นายเศรษฐากับนายทักษิณ ใครมีอำนาจมากกว่ากัน เมื่อถามว่า มีการมองว่าการเดินสายของนายทักษิณคือการช่วงชิงมวลชนจากพรรค ก.ก. นายรังสิมันต์ตอบว่า การแข่งขันเพื่อชิงมวลชน หรือนโยบายเป็นเรื่องต้องแข่งกันเป็นธรรมดาของการเมือง แต่ต้องว่าไปตามกติกา หากนายทักษิณประสงค์ใช้อำนาจต้องอยู่ภายใต้การตรวจสอบของฝ่ายค้านเช่นเดียวกัน
ก.ก.ยื่น 2 คำโต้แย้งสู้คดียุบพรรค
เมื่อเวลา 15.00 น. ที่พรรค ก.ก. นายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรค (ก้าวไกล) ก.ก. แถลงถึงความคืบหน้าคดียุบพรรค ก.ก. หลังทั้งสองฝ่ายตรวจพยานหลักฐานในชั้นศาลรัฐธรรมนูญเสร็จแล้วว่า เมื่อวันที่ 16 ก.ค.ได้ให้ฝ่ายกฎหมายยื่นคำร้องเพิ่มเติมแก่ศาลรัฐธรรมนูญ 2 ส่วนคือ 1.คำร้องโต้แย้ง ที่ผู้ร้องคือ กกต.ยื่นเข้ามาในสำนวน หรือเรียกว่า “หมาย ร.” ยิ่งชี้ชัดให้เห็นว่ากระบวนการยื่นคำร้องให้ศาลยุบพรรค ก.ก. มิชอบด้วยกฎหมาย เราจึงได้แย้งไปในเรื่องนี้ เพื่อขอให้ศาลเปิดการไต่สวนประเด็นที่เราโต้แย้งไป และเรียกพยานมาไต่สวนประเด็นนี้ด้วยคือ ตน ในฐานะหัวหน้าพรรค ก.ก. และนายสุรพล นิติไกรพจน์ ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายมหาชน ในฐานะพยานบุคคล รวมถึงได้ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญ เรียกเอกสารเพิ่มเติมจาก กกต. ที่ถูกอ้างอิงในพยานหลักฐานที่มีการส่งเข้าสำนวนแล้ว 2.คำร้อง โต้แย้งหรือโต้เถียง เอกสารศาลรัฐธรรมนูญที่นำเข้ามาสู่สำนวนคือ คำวินิจฉัยที่ให้พรรค ก.ก. และนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค ก.ก. เลิกการกระทำตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 หรือ “หมาย ศ.” ในคดีก่อนหน้านี้ไม่เปิดโอกาสให้เราโต้แย้งในกระบวนการไต่สวน ขาดโอกาสที่จะโต้แย้ง เป็นการฟังความข้างเดียว เป็นเอกสารที่มาจากหน่วยงานความมั่นคงคือ สำนักงานตำรวจแห่งชาติและสภาความมั่นคงแห่งชาติ ที่กล่าวหาว่าพรรค ก.ก. มีความเชื่อมโยงกับการเคลื่อนไหวให้ยกเลิกมาตรา 112 ในหลายกรณี ซึ่งไม่เป็นความจริง
“อุ๊งอิ๊งค์” วอนยุติปม “วัน” ไขก๊อก
เมื่อเวลา 16.00 น. ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) มีการประชุม สส.พรรค พท.โดยนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธาน สส.พรรค พท.ทำหน้าที่ประธานการประชุม มี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรค พท.และนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ เข้าร่วมประชุม น.ส.แพทองธารให้สัมภาษณ์หลังร่วมประชุมว่า พูดคุยเรื่องการลงพื้นที่ และโครงการต่างๆ ทั้งอธิบายทำความเข้าใจกับ สส.ถึงกรณีนายวัน อยู่บำรุง ที่ลาออกจากพรรคว่า การเชิญใครมาพูดคุยด้วย ขอให้มองเป็นเรื่องปกติ หากเป็นเรื่องที่เข้าใจผิดจะได้เข้าใจให้ถูก ที่เรียกนายวันมาคุยต้องรับรู้ว่า พร้อมที่จะรับฟังทำความเข้าใจกันทั้ง 2 ฝ่าย ไม่ใช่เรียกมาคุยเพื่อทำให้ทุกข์ใจ ตนอยากรับฟังก่อนว่าเกิดอะไรขึ้น การพูดคุยกันคนในพรรคจะทราบอยู่แล้วว่า ตนเป็นคนพูดตรงที่ให้เกียรติ ไม่ใช่เป็นการตรงที่ทำร้าย ดีใจมากที่วันนั้นมีนายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรค นั่งอยู่ด้วย หัวหน้าพรรคต้องจริงใจไม่ทำให้เกิดความสับสน ฉะนั้นขอจบที่ตรงนี้ เพราะไม่ได้มีประโยคอะไรที่น่าตื่นเต้นมากกว่านี้ ขออวยพรให้นายวัน ประสบความสำเร็จ ไม่มีอะไรมากกว่านี้ ไม่ได้โกรธหรือเกลียดอะไร
“วรชัย” จ่อคิวเคลียร์วิจารณ์นายกฯ
เมื่อถามว่า มีการเปรียบเทียบกับกรณีของนายวรชัย เหมะ ที่ปรึกษาของรองนายกฯ ออกมาวิจารณ์การทำงานของนายกฯ แต่หัวหน้าพรรคไม่จัดการอะไร น.ส.แพทองธารตอบว่า จริงๆเพิ่งจะทราบเรื่องโดยละเอียดมา ต้องพูดคุยอยู่แล้วแน่นอน เรื่องที่เกิดขึ้นในพรรคก็ควรมีการพูดคุยในพรรค ขณะที่นายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรค พท.กล่าวว่า จริงๆนายวรชัยไม่ใช่สมาชิกพรรค ฉะนั้นหน้าที่ของหัวหน้าพรรคคือการดูแลสมาชิกพรรค ทำให้ น.ส.แพทองธารกล่าวเสริมขึ้นมาว่า แต่สามารถคุยกันได้แน่นอนเพราะรู้จักกันอยู่แล้ว จริงๆเมื่อแสดงความคิดเห็นอะไรไปนายเศรษฐาพร้อมรับฟังอยู่แล้ว บางครั้งมองกันคนละมุมคนละด้าน ต้องให้เกียรตินายกฯที่อยู่ในตำแหน่งด้วย ท่านพยายามเรียงลำดับความสำคัญอยู่แล้ว ส่วนกรณีที่จะให้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ มาช่วยงานพรรค พท.หลังพ้นโทษในเดือน ส.ค.นั้น รอวันนั้นก่อนแล้วค่อยว่ากัน ตอนนี้ยังไม่ได้คิดไว้เลยว่าจะอย่างไร
พท.แจกกล่องรับขวัญเด็กแรกเกิด
วันเดียวกัน ที่พรรค พท. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นำคณะกรรมการบริหารพรรค สส.-สก.และสมาชิกพรรค ร่วมแสดงความจงรักภักดีถวายพระพรชัยมงคลพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2567 ก่อนแถลงข่าวเปิดตัว “กล่องรับขวัญ” ถวายเป็นพระราชกุศล 720 กล่อง มอบแก่เด็กที่เกิดวันที่ 28 ก.ค.2567 โดย น.ส.แพทองธารกล่าวว่า จุดเริ่มต้นกล่องรับขวัญต่อยอดจากนโยบายถุงรับขวัญสำหรับเด็กแรกเกิดที่รัฐบาลไทยรักไทยเคยทำเมื่อ 19 ปีที่แล้ว เพื่อสร้างพัฒนาการช่วงแรกเกิดบนพื้นฐานของสมอง เสริมพัฒนาการด้านการสัมผัส และเรียนรู้ด้านอารมณ์แก่ทารกให้เติบโตสมวัย ของที่บรรจุได้แก่ ของเล่นไม้ หนังสือนิทาน หนังสือนุ่มนิ่ม บันทึกลูกรัก หรือชุดเครื่องมือ 7 วิธี คู่มือเลี้ยงลูก 0-3 ขวบสไตล์คุณแม่ญี่ปุ่น และผ้าห่อตัวเด็กเล็ก ขณะที่นายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรค พท.กล่าวว่า สนง.สาธารณสุขจังหวัด จะรวบรวมรายชื่อเด็กๆที่เกิดวันที่ 28 ก.ค.2567 เพื่อจัดส่งกล่องรับขวัญไปมอบให้ทั่วประเทศที่ รพ. ในวันที่ 29 ก.ค. ส่วนใน กทม.ให้นำหลักฐานการเกิดมารับได้ที่พรรค พท. ถนนเพชรบุรี วันที่ 29-30 ก.ค. หลังจากวันที่ 31 ก.ค. ติดต่อขอรับได้ที่ สก.เขตในพื้นที่
ปชป.กระชับสัมพันธ์เวียดนาม
เมื่อเวลา 10.00 น. ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรค ปชป. นำคณะกรรมการบริหารพรรค ให้การต้อนรับ นายเจือง กวาง หว่าย นาม รองประธานคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ ของคณะกรรมการกลาง พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม ที่นำคณะเข้าเยี่ยมคารวะ และหารือถึงบทบาทการทำงานของพรรคเสริมความสัมพันธ์แลกเปลี่ยนประสบการณ์ระหว่างกัน 5 ด้าน 1.ด้านเกษตรกรรมจุดเริ่มต้นคลังอาหารโลก 2.รับมือการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ 3.หาแนวทางบริหารจัดการลุ่มน้ำโขง 4.วัฒนธรรมที่ทั้ง 2 พรรคควรมีกิจกรรมระหว่างประชาชน เยาวชนและสตรีระหว่างกัน และ 5.ในโอกาสพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามครบรอบ 100 ปี และพรรค ปชป.ก้าวเข้าสู่ปีที่ 79 ถือเป็นพรรคการเมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานในภูมิภาคควรร่วมมือกันนำร่องให้กับพรรคการเมืองใหม่ๆในการสร้างความร่วมมือในอนาคต
ปูทางผลิตข้าวรับวิกฤติอาหารโลก
นายเฉลิมชัยกล่าวว่า เราเป็นประเทศในกลุ่มอาเซียน มีวิถีชีวิตคล้ายคลึงกัน หากสามารถสร้างความร่วมมือได้ ประโยชน์จะตกอยู่กับทั้ง 2 ประเทศโดยเฉพาะภาคการเกษตร ที่ 2 ประเทศเป็นผู้ผลิตสินค้าเกษตรป้อนชาวโลก โดยเฉพาะเรื่องการผลิตข้าว เพราะในอนาคตสิ่งหนึ่งอาจจะเกิดวิกฤติการขาดแคลนอาหาร พร้อมฝากให้คณะผู้นำเวียดนาม ช่วยดูแลอำนวยความสะดวกให้กับสินค้าเกษตรของประเทศไทยที่ขนส่งผ่านด่านเวียดนามด้วย หวังเป็นอย่างยิ่งว่าพรรค ปชป.จะมีโอกาสไปเยี่ยมเยียน ตั้งคณะทำงานประสานงานร่วมกันในอนาคต ทั้งนี้ คณะของเวียดนามมอบแสตมป์รูปสถานที่สำคัญต่างๆของเวียดนามให้นายเฉลิมชัยเป็นของที่ระลึก ขณะที่นายเฉลิมชัยมอบเหรียญที่ระลึกพระแม่ธรณีบีบมวยผม สัญลักษณ์พรรค ปชป.ตอบแทน
ส่งคดี “เจ๋ง-ศรีฯ” ตบทรัพย์ถึงอัยการ
ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป.กล่าวว่า ได้สรุปสำนวนการสอบสวน พร้อมพยานหลักฐานรวม 11 แฟ้ม จำนวน 4,490 แผ่น คดีทุจริตระหว่างนายนัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว ผู้กล่าวหา นายยศวริศ ชูกล่อม หรือเจ๋ง ดอกจิก อายุ 65 ปี ผู้ต้องหาที่ 1 นายศรีสุวรรณ จรรยา อายุ 55 ปี ผู้ต้องหาที่ 2 น.ส.พิมณัฏฐา จิระพุทธิภาคย์ อายุ 34 ปี ผู้ต้องหาที่ 3 นายเอกลักษณ์ วารีชล อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาที่ 4 และ น.ส.ณพัชญ์ปภา จรรยา อายุ 43 ปี ผู้ต้องหาที่ 5 กรณีเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และเรียกรับทรัพย์สินเป็นเงิน 1.5 ล้านบาท รวมทั้งผลประโยชน์อื่นๆ โดยมอบหมายให้ พ.ต.ท.ภูริต ศรีบุญเรือง สว. (สอบสวน) กก.1 บก.ปปป.ในฐานะพนักงานสืบสวนสอบสวน และผู้ช่วยเลขานุการ ตามคำสั่ง บช.ก.นำสำนวนไปเสนอต่ออธิบดีอัยการ สำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต เป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 16 ก.ค.
อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่
