นายกฯ เปิดงานรวมพลังชุมชน อีสานเหนือสู้ภัยยาเสพติด เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สั่ง ป.ป.ส. เพิ่มเงินเยียวยา สร้างขวัญกำลังใจเจ้าหน้าที่บาดเจ็บ เป็น 5 หมื่นบาท ฝากนักเรียนห่างไกลยาเสพติด พร้อมโชว์ชู้ตบาสเข้า 3 ลูก
เมื่อเวลา 13.45 น. วันที่ 10 กรกฎาคม 2567 ภายหลังจาก นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เดินทางด้วยเครื่องบินกองทัพอากาศมาถึง จ.อุดรธานี ได้เดินทางต่อด้วยรถยนต์โตโยต้าอัลพาร์ดสีดำ ทะเบียน กล 5559 อุดรธานี ไปยังมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี ต.สามพร้าว อ.เมือง จ.อุดรธานี เป็นประธานเปิดกิจกรรม “งานรวมพลังชุมชน สู้ภัยยาเสพติด เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567” โดยมี นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ข้าราชการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมต้อนรับ
จากนั้นนายกรัฐมนตรีรับฟังบรรยายสรุปแผนสกัดกั้นแนวชายแดนอีสานตอนบน 5 จังหวัด และรับฟังบรรยายสรุปปฏิบัติการไล่ล่า (เด็ดปีก) นักค้าอีสานเหนือ 252 จากตำรวจภูธรภาค 4 ซึ่งมีการใช้เทคโนโลยีวิเคราะห์ข้อมูลด้วยเครื่องมือพิเศษ ปิดล้อม และตรวจค้น 6 ครั้ง สามารถจับกุมผู้ค้ายาเสพติด 3,446 ราย และยึดทรัพย์ของกลางยาบ้า 10,345,615 เม็ด ยึดอาวุธปืน 217 กระบอก เครื่องกระสุน 32 นัด และสามารถตรวจยึดทรัพย์ 1,553 รายการ มูลค่าทั้งสิ้น 254,961,366 บาท
...
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้สอบถามเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ถึงค่าตอบแทนของเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ ทั้งทหาร ตำรวจ และพลเรือน ที่ได้รับเงินจากกองทุน ป้องกันและปราบปรามยาเสพติดกรณีได้รับบาดเจ็บ โดยเลขาธิการ ป.ป.ส. รายงานว่า เจ้าหน้าที่ได้รับเงินเยียวยา 10,000 บาท นายกรัฐมนตรีกล่าวกำชับว่า ขอให้เพิ่มเงินเยียวยาเป็น 50,000 บาท เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติหน้าที่ที่เข้มข้นขึ้น
แล้วจึงเยี่ยมชมและรับฟังบรรยายโครงการชุมชนยั่งยืนของตำรวจภูธรภาค 4 รับฟังบรรยายสรุปการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดของฝ่ายปกครอง โดยมีการค้นหาผู้เสพ ผู้ติดยาเสพติด ด้วยการเอกซเรย์ และมีการจัดตั้งศูนย์ฟื้นฟูทางสังคม รวมถึงจัดตั้งจุดสกัดตรวจสถานบริการ และตั้งศูนย์ฟื้นฟูสภาพทางสังคม ก่อนรับฟังบรรยายสรุปจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุดรธานี ในส่วนของผลงานด้านบำบัดฟื้นฟูผู้ป่วยยาเสพติด 12 จังหวัดภาคอีสานระยะเร่งรัด 3 เดือน โดยนายกรัฐมนตรีกำชับให้ตั้งเป้าการนำผู้เสพเข้าสู่การบำบัดให้สูงขึ้น เพื่อกวาดล้างให้ได้มากที่สุด และตนจะหารือกับ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในเรื่องดังกล่าว โดย จ.หนองคาย ถือเป็นจังหวัดที่นำผู้เสพที่มีอาการทางจิตเข้าสู่กระบวนการบำบัดน้อยที่สุด ก็ขอให้เป็นจังหวัดนำร่อง ทั้งนี้ ขอให้ตั้งเป้าให้เยอะ เพราะฝ่ายความมั่นคงกวาดล้างได้จำนวนมาก
นอกจากนี้ เด็กนักเรียนและครูชมรม TO BE NUMBER ONE จากโรงเรียนพันดอนวิทยา สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ร้องเพลงบูมเชียร์ให้ ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะเดินทักทาย และรับชมวีดิทัศน์ขับเคลื่อนการปลุกพลังชุมชน การแสดงเพลงมุ่งสู่ขวัญ NPD.P4 จากนักเรียนและครูโรงเรียนชุมชนสามพร้าว และครูแดร์ หรือ D.A.R.E. โดยระหว่างชมการแสดงนายกรัฐมนตรีอมยิ้มพร้อมกับหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายภาพด้วย
ต่อมานายกรัฐมนตรีเป็นประธานเปิดกิจกรรมงานรวมพลังชุมชน อีสานเหนือสู้ภัยยาเสพติด โดยนายกรัฐมนตรีและผู้ร่วมงานใส่ถุงมือสีขาวที่มีข้อความว่า “No Place for Drug” เพื่อแสดงสัญลักษณ์รวมพลังสู้ภัยยาเสพติด จากนั้นนายกรัฐมนตรีกล่าวเปิดกิจกรรมตอนหนึ่งว่า มีความยินดีที่ได้มาร่วมกิจกรรม ซึ่งยาเสพติดเป็นเรื่องที่ไม่ว่าจะลงพื้นที่มากี่ครั้ง กี่หมู่บ้าน ก็ล้วนแต่ได้ยินมาว่าเป็นปัญหา เป็นเรื่องที่หนักหนาจริงๆ ลูกหลานของพวกเราจำนวนมากต้องตกเป็นทาสยาเสพติด เห็นหลายครอบครัวที่ใช้ชีวิตอยู่ด้วยความกลัว อยู่ด้วยกันในชุมชนก็รู้สึกไม่ปลอดภัย สังคมไทยไม่ควรเป็นแบบนี้
ตนยอมไม่ได้ที่สังคมไทย ลูกหลานของเรา อยู่ในสังคมที่มียาเสพติดแพร่ระบาดอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน การป้องกันปราบปรามยาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติที่รัฐบาลเร่งดำเนินการให้เกิดผลเป็นรูปธรรม บูรณาการความร่วมมือทุกภาคส่วน ทั้งในระดับพื้นที่ และภาคประชาชน เพื่อแก้ปัญหาในชุมชน มุ่งปราบปรามการค้ายาเสพติดนำไปสู่การสร้างพลังชุมชนที่เข้มแข็ง และยั่งยืนในการแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยเราปฏิบัติการเด็ดปีกนักค้าอีสานเหนือครอบคลุม 12 จังหวัด ทำให้เห็นพลังของมวลชนต่อการประกาศจุดยืนในการต่อสู้กับปัญหายาเสพติดในชุมชนของตนเอง
นอกจากการแก้ไขปัญหายาเสพติดจะสำเร็จได้ ทุกคน ทุกภาคส่วน ตำรวจ จังหวัด ทหาร สาธารณสุข ป.ป.ส. และหน่วยงานอื่นๆ จะต้องทำงานร่วมกัน และต้องได้รับการสนับสนุนจากชุมชนให้ลุกขึ้นมาต่อสู้กับปัญหายาเสพติดร่วมกัน เป็นหูเป็นตาช่วยกันดูแลสอดส่อง แจ้งเบาะแส เฝ้าระวัง และป้องกันลูกหลานไม่ให้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด วันนี้พวกเราทุกคนได้แสดงเจตนารมณ์ร่วมกัน ขอให้พวกเราบอกกล่าวในชุมชนให้ขยายผลการปฏิบัติออกไปในวงกว้าง เพื่อฝึกพลังชุมชนทุกพื้นที่ให้รวมพลังอย่างเข้มแข็ง
พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรียังได้กล่าวขอบคุณในความตั้งใจและพลังของทุกคน ทุกภาคส่วน ที่ร่วมกันสู้เพื่อเอาชนะปัญหายาเสพติด ร่วมกันปราบปราม รักษา ฟื้นฟู ดูแล เพื่อปกป้องลูกหลานให้ห่างไกลจากยาเสพติด พร้อมขอให้ทุกคนน้อมนำพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงห่วงใยปัญหายาเสพติด ไปปฏิบัติให้เกิดผลเป็นรูปธรรมตามพระราชประสงค์อย่างยั่งยืนต่อไป จากนั้นนายกรัฐมนตรีนำกล่าวถวายสัตย์ปฏิญาณเพื่อนำพลังชุมชนอีสานเหนือสู้ภัยยาเสพติด ก่อนร่วมกันยืนแสดงความเคารพเพลงสรรเสริญพระบารมี และเพลงสดุดีจอมราชา ร่วมกันโบกธงเพื่อแสดงความจงรักภักดี เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 และถ่ายรูปร่วมกับเด็กนักเรียนอย่างเป็นกันเอง
ขณะที่เมื่อเวลา 15.00 น. นายเศรษฐา ได้พบปะเด็กนักเรียนโรงเรียนอุดรพิชัยรักษ์พิทยา ต.เชียงพิณ อ.เมือง จ.อุดรธานี โดยทันทีที่เดินทางถึง นายกรัฐมนตรีได้มายังสนามบาสเกตบอล ซึ่งนักกีฬาบาสเกตบอลของโรงเรียนกำลังฝึกซ้อมอยู่ โดยนักกีฬาบาสเกตบอลกล่าวขึ้นว่า “นายกฯ เล่นบาสกับผมนะครับ” โดยนายกรัฐมนตรีตอบว่า “ตอนนี้ผมปวดแขนอยู่” จึงได้ขอให้ลองชู้ตบาสเกตบอล ซึ่งนายกรัฐมนตรีเข้า 3 ลูกจาก 5 ลูก โดยขณะนั้นเด็กนักเรียนปรบมือและส่งเสียงเชียร์
หลังจากนั้น นายกรัฐมนตรีเดินทักทายเด็กนักเรียนบริเวณลานหน้าเสาธง พร้อมกล่าวว่า ยินดีที่ได้มาโรงเรียนนี้เป็นอย่างยิ่ง วันนี้มาเรื่องยาเสพติด ตั้งแต่ตอนหาเสียงจนกระทั่งเป็นนายกรัฐมนตรีมา จ.อุดรธานี หลายครั้ง ปัญหาใหญ่ของสังคมไทยคือเรื่องของรายได้ และที่ใหญ่ไม่แพ้กันคือเรื่องยาเสพติด เชื่อว่านักเรียนทุกคนในที่นี้อาจมีคนรู้จักที่ติดยาเสพติด เราพยายามแก้ไขปัญหานี้ แต่รากฐานของปัญหาจริงๆ แล้วต้องปลูกฝังตั้งแต่ยังเยาว์วัย โดยนายกรัฐมนตรีถามนักเรียนว่า เราต้องอยู่ห่างไกลยาเสพติดใช่หรือไม่ นักเรียนพร้อมใจกันตอบว่า ใช่
นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อไปอีกว่า อยากให้ขยันหมั่นเพียรในการเรียน ให้ดูแลผู้สูงอายุภายในบ้าน สิ่งสำคัญที่สุดอีกสิ่งหนึ่งที่พ่อแม่ไม่อยากให้เด็กๆ ไปแตะต้องคือยาเสพติด เรามีโรงเรียนดีๆ มีครูที่ประสิทธิ์ประสาทวิชาให้น้องๆ ทุกคน ยาเสพติดสามารถทำลายอนาคตของพวกเราทุกคนได้ เพราะฉะนั้น อยากขอครูอาจารย์ที่นี่ปลูกฝังอย่างต่อเนื่อง ต้องห่างไกลยาเสพติด เพราะเราทุกคนคืออนาคตของชาติ ฉะนั้น ถ้าเกิดมียาเสพติดเข้ามาในชีวิต อนาคตมืดมัว อยากฝากไว้ว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ ดีใจที่ได้มาและอยากจะมาอีก อยากเล่นบาสเกตบอลต่อ แต่หัวไหล่เจ็บ เลยไม่ได้เล่น คราวหน้าถ้ามาอีกจะมาทำกิจกรรมร่วมกับทุกคน จากนั้นประธานนักเรียนนำกล่าวคำปฏิญาณว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีได้ร่วมถ่ายรูปกับเด็กนักเรียนอย่างสนุกสนาน และเป็นกันเอง ท่ามกลางเสียงกรี๊ดของเด็กนักเรียน ก่อนเดินทางกลับ กทม.
